ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ 

ผันผวนแรงต่อไป และมีโอกาสย่อลง

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันพุธ ผันผวนแรงต่อจากเมื่อวาน และมีโอกาสปรับลดลง… หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยเหวี่ยงแรงมากลงไปทำจุดต่ำสุดระหว่างวันแถว 1,580 จุด ก่อนฟื้นตัวในช่วงบ่ายมาปิดที่ 1,619.10 จุด… สำหรับในวันนี้ ประเด็นสงครามในยูเครนมีทั้งข่าวบวกและข่าวลบเข้ามา ในส่วนของข่าวบวกได้แก่ i) รัสเซียได้เปิดทางให้อพยพประชาชนจากสองเมืองใหญ่ ได้แก่ Sumy และ Mariupol รวมทั้งเตรียมเปิดเส้นทางอพยพเพิ่มเติมในวันนี้ ขณะที่ปัจจัยลบประกอบด้วย i) ยูเครนยังคงประกาศไม่ยอมแพ้และพร้อมต่อสู้ ล่าสุดโปแลนด์ประกาศว่าจะส่งเครื่องบินรบ Mig-29 เพิ่มเติมให้กับยูเครนเพื่อทำการต่อสู้ทางอากาศ ii) ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวขึ้น หลังจากสหรัฐฯ แถลงอย่างเป็น ทางการว่าจะแบนการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย แม้ว่าฝั่งยุโรปยังสงวนท่าทีไม่ได้ประกาศจุดยืนใดๆ ออกมา ขณะที่ Goldman Sachs ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปี 2565 และ 2566 เป็น 135 และ 115 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรลตามลำดับ เรามองว่าแรงกดดันเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนที่สูงขึ้น ด้านเศรษฐกิจจะยังทำให้ตลาดหุ้นผันผวนแรงแม้ว่าจะปรับลงมาพอสมควรแล้ว…. ด้านปัจจัยภายในประเทศ เช้านี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อทรงตัวในระดับสูง อยู่ที่ 22,073 ราย เสียชีวิต 69 ราย และหายป่วย กลับบ้าน 24,747 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน เก็งกำไร BEC*, III, OTO

  • BEC* (เป้าพื้นฐาน 18 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 16.0 บาท / แนวต้าน 16.6 – 16.9 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสรีบาวด์ทดสอบแนวต้านถัดไป 17.3 บาท (Stop loss 15.8 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้ยังโตต่อเนื่อง +46% YoY หลัง Turnaround ในปีก่อน โดยเราประเมินสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่อนคลายลงจะเป็นบวกต่อการผลิตรายการ + รายได้ค่าโฆษณาคาดจะฟื้นตัวต่อเนื่อง 3) ประเมิน Upside จากธุรกิจใหม่ๆ เพลง ภาพยนตร์ และโอกาสต่อยอดไปธุรกิจ NFT ขณะที่เราประเมินผลกระทบด้านลบจากต้นทุนพลังงานที่ปรับขึ้นในขณะนี้
  • III (เป้า Consensus 20.48 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 14.9 บาท / แนวต้าน 15.9 – 16.3 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินแนวต้านถัดไป +/- 17 บาท (Stop loss 14.6 บาท) 2) ประเมินการขนส่งระหว่างประเทศยังขยายตัว แม้ชะลอตัวลงชั่วคราว QoQ ใน 1Q65 (Low season) โดยค่าระวางเรือคอนเทนเนอร์ยังอยู่ระดับที่สูงมากเทียบ YoY ขณะที่จุดเด่นของธุรกิจตัวกลางอย่าง III คือ ความเสี่ยงเรื่องต้นทุนน้ำมันในการเดินเรือขนส่ง 3) Upside i) คาดปีนี้เริ่มขนส่งสินค้าผ่านระบบราง (รถไฟจีน ลาว) ii) คาดเส้นทางการขนส่งที่ผ่านยุโรปมีโอกาสปรับขึ้นจากการคิดค่าธรรมเนียม War risk surcharge หรือต้องยอมอ้อมเพิ่มระยะทางขนส่ง iii) คาดมีโอกาสที่จะเกิดการเร่งนำเข้าสินค้าเพื่อสต๊อก หากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ยืดเยื้อ
  • OTO (เป้าพื้นฐาน 16.2 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 13.3 บาท / แนวต้าน 14.0 – 14.8 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/-17 บาท (Stop loss 13.3 บาท) 2) ประกาศเข้าซื้อหุ้น Phygital Space Development (OTO จะเข้าถือหุ้น 49%) ซึ่งประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Esports แบบครบวงจร (เว้นเพียงการลงทุนพัฒนาเกมส์) คาดชำระเงินค่าหุ้นและรับรู้รายได้จาก PSD ในต้น 2Q65 นี้ 3) ประเมินธุรกิจ Call center ฟื้นตัวตามภาคการท่องเที่ยว และการปรับโครงสร้างองค์กร 4) ประเมินมูลค่าในกรณี Best case หากการสมัครสมาชิก Platform ถึงระดับ 1% ของจํานวน Gamers ในประเทศ (32 ล้านคน) ไว้ที่ 18.5 บาท (Worst case 14.4 บาท) โดยมี Upside จาก HUBCOIN (คาดเตรียมเข้าซื้อขายในตลาดรองภายใน 2H65) ที่จะเป็นรางวัลการเล่นเกมส์ใน Platform Hubber.gg

หุ้นมีข่าว

(+) BBL รุกสู่แบงก์ดิจิทัล จับอีคอมเมิร์ซคนรุ่นใหม่ (กรุงเทพธุรกิจ) “แบงก์กรุงเทพ” เดินหน้าแผนยุทธ์ศาสตร์ มุ่งสู่การเป็น “ธนาคารดิจิทัล” เร่งยกระดับการให้บริการบนดิจิทัล เตรียมเปิดฟีเจอร์ใหม่ ปล่อยกู้ผ่านแอปภายในครึ่งปีแรกนี้ หวังเจาะฐานลูกค้าอีคอมเมิร์ซ เอสเอ็มอีขนาดเล็ก คนรุ่นใหม่ ตั้งเป้ายอดใช้ดิจิทัลแตะ 14 ล้านบัญชี

(+) BANPU รับเต็มถ่านหินสูง บุกเหมืองนิกเกิลหนุนแบต (ทันหุ้น) BANPU สบช่องราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่ง  ลอยตัวราคาขายถ่านหิน ส่วนการจำหน่ายก๊าซธรรมชาติทำเฮดจึงเพียง 50% ตามกฎสหรัฐ ราคาปัจจุบันสูงจากยูเครน-รัสเซีย แต่เชื่อระยะกลางจะกลับมาเคลื่อนไหวสอดคล้องความต้องการใช้และกำลังการผลิต ลั่นเดินหน้าลงทุนเหมืองแร่นิกเกิลในอินโดนีเซีย และออสเตรเลีย เสริมแกร่งธุรกิจแบตเตอรี่

(+) PTG* เท 5 พันล้านชูนอนออยล์ดันกำไรโต (ไทยโพสต์) นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี หรือ PTG เปิดเผยว่า บริษัทได้วางแผนธุรกิจ 5 ปี หรือระหว่างปี 2565-2569 มีเป้าหมายทรานส์ฟอร์มธุรกิจจากน้ำมันและธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมัน (นอนออยล์) ไปเป็นการทำธุรกิจแบบสร้างเครือข่าย (Co-Create Ecosystem) ซึ่งธุรกิจเหล่านี้ล้วนเป็นเมกะเทรนด์ของโลกอนาคต และเป็นธุรกิจที่จะสนับสนุนให้กำไรจากธุรกิจนอนออยล์เพิ่มขึ้นเป็น 50% ในปี 2569 และจะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจเดิมของ PTG แข็งแรงขึ้น

(+) ครม.เคาะเว้นภาษีคริปโต หนุนเม็ดเงินลงทุนในสตาร์ตอัพ 3.2 แสนล. (ข่าวหุ้น) ครม.ไฟเขียว ยกเว้นภาษีแวตการโอนคริปโตฯ และหักผลขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ดิจิทัลออกจากกำไรใน Exchange ได้ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 65 ถึง 31 ธ.ค. 66 รวมทั้งยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล กำไรจากการขายหุ้นใน Startup ไทยเพิ่มขึ้น 3.2 แสนล้านบาท

(-) เอแอนด์ดับบลิวปิดตัว ชี้ขาดทุนหนักไปไม่ไหว (เดลินิวส์) รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า GLOCON ผู้รับสิทธิบริหารร้านเอแอนด์ดับบลิว ในประเทศไทย แจ้งกับ ตลท.ว่า บริษัทได้เสนอต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อขออนุมัติหยุดดำเนินกิจการร้านอาหารเอ แอนด์ ดับบลิว ที่ปัจจุบันมี 26 สาขา ซึ่งมีผลประกอบการขาดทุนมาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 2 ปี และได้รับผลกระทบมากขึ้นจากการระบาดของโควิด-19 ไม่สามารถรับผลขาดทุนต่อไปได้

(0) เมื่อวาน (8 มี.ค.65) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤติกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ให้ได้รับสิทธิเข้ารับการรักษาฉุกเฉิน (UCEP Plus) โดยสามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกแห่งที่ใกล้ที่สุด ไม่จำเป็นต้องเป็นโรงพยาบาลตามสิทธิที่ตัวเองมีอยู่ และสามารถย้ายโรงพยาบาลได้โดยไม่กำหนดระยะเวลาใน 72 ชั่วโมงแรกไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2555 เป็นต้นไป (Infoquest) เรามองข่าวดังกล่าวเป็น neutral ต่อกลุ่มโรงพยาบาล เนื่องจากแนวทางที่ออกมาจะไม่ส่งผลกระทบต่อการรักษาพยาบาล เนื่องจากการให้การรักษายังคงครอบคลุมผู้ติดเชื้อ COVID-19 ต่อไป อย่างไรก็ตาม การกำหนดหลักเกณฑ์ใหม่เพื่อให้มีจำนวนเตียงรองรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง (กลุ่มสีเหลืองและแดง) ที่จะเข้ารับการรักษาได้อย่างรวดเร็วในโรงพยาบาล ขณะที่กลุ่มที่ไม่มีอาการรุนแรง (สีเขียว) จะได้รับการรักษาผ่าน home isolation และ Community isolation โดยสามารถเข้ารับการรักษาฟรีในโรงพยาบาลตามสิทธิของแต่ละคนได้ (เช่น สิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า สิทธิประกันสังคม หรือสิทธิ รักษาพยาบาลของข้าราชการ) เรายังคงน้ำหนักการลงทุน Neutral กลุ่มโรงพยาบาล โดยยังคงให้ BDMS เป็น top pick ด้วยราคาเป้าหมายปี 2565 เท่ากับ 26.50 บาท

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • หุ้นที่แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนดจุดล๊อกกำไร หากต่ำกว่า Trailing stop: BH* (Trailing stop 160 บาท)
  • PLANB* (เป้าพื้นฐาน 10 บาท) แนวรับ 7.65 บาท / แนวต้าน 8.0 – 8.4 บาท (Stop loss 7.65 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • SCB* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 163 บาท การ Swap share จากหุ้น SCB เป็น SCB ภายในเดือน เม.ย.นี้ และคาดจะเริ่มเทรดได้ในเดือน พ.ค. พร้อมกับการทำธุรกิจเชิงรุกของ บ.ลูก CardX และ Autox ราคาหุ้นที่ปรับตัวลง ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน ฝ่ายวิจัยฯยังประเมินโอกาสในการเติบโต หลังการปรับโครงสร้างใหม่ จึงยังคงแนะนํา “ซื้อ”
- Advertisement -