บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Initiate)
TP upside (downside) +61.6%
Close Mar 25, 2022 Price (THB) 4.92
12M Target (THB) 7.95
What’s new?
- TTCL ผ่านการตั้งสำรองขนาดใหญ่ทั้งหมดไปแล้ว และมีการตั้งด้อยค่าอีก 276 ลบ. ในปี 2565 เป็นปีสุดท้าย ขณะที่ฐานะทางการเงินเริ่มเห็นสัญญาบวกแล้วตั้งแต่ปี 2563
- หลังการคลี่คลายของ COVID-19 ทำให้เริ่มมีงานประมูลกลับมาประมูลใหม่จำนวนมาก ทำให้ ณ วันที่ 28 ก.พ. มี Backlog เพิ่มขึ้นเป็น 1.4 หมื่นลบ. จาก 6.4 พันลบ. ณ 2Q64 และงานรอประมูลในปีนี้อีก 4.4 หมื่นลบ.
- คาดกำไรปกติเติบโต 43%YoY
Our view
- เรามีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ และฐานะทางการเงินของ TTCL ที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และจะทยอยฟื้นชัดเจนในปี 2565 เป็นต้นไป
- คดีฟ้องร้องค่าเสียหายโครงการ Rock salt คาดว่าจะ ถึงที่สิ้นสุดในปี 2565 และอาจมีการกลับรายการไม่น้อยกว่า 539 ลบ. หนุนฐานะทางการเงินฟื้นตัวเร็วกว่าคาด
- ราคาปัจจุบันซื้อขายด้วย PER65 เพียง 9 เท่า มี Upside gain 62% เริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ”
TTCL ล้มมา 7 ปี … ถึงเวลาดี 7 หนหรือยัง?
มีการตั้งสำรองปี 2565 เป็นปีสุดท้าย
TTCL มีการตั้งสำรอง และค่าใช้จ่ายพิเศษจากโครงการ Rock salt โครงการผันน้ำทะเลเป็นน้ำจืดในการ์ตา และโครงการในประเทศในปี 2561-2562 เฉลี่ยปีละ 1,400-1,500 ลบ. ในปี และเป็นจุดเริ่มต้นของความลำบากของฐานะทางการเงิน ทั้งภาระหนี้สินสูงขึ้น ดอกเบี้ยจ่ายจากระดับต่ำกว่า 100 ลบ./ปี เพิ่มขึ้นเป็น 300 – 400 ลบ./ปี และฐานทุนจาก 6,000 ลบ. ลดลงต่ำกว่า 3,000 ลบ. ขณะที่รายได้เริ่มเห็นการฟื้นตัวในปี 2562 แต่เผชิญกับกับการตั้งด้อยค่าโครงการในประเทศอีกปีละ 276 ลบ. ในปี 2563-2565 และการระบาดของ COVID-19 ทำให้งานประมูลใหม่ลดลงอย่างมาก แต่เราประเมินว่าปี 2565 เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของบริษัทในการกลับมาตั้งหลักได้อีกครั้งจาก
1) เป็นปีสุดท้ายของการรับรู้การด้อยค่า 276 ลบ. และปัจจุบันยังไม่มีแนวโน้มของการตั้งสำรองหรือค่าใช้จ่ายพิเศษอื่นเพิ่มเติมอีก
2) งานประมูลที่ชะลอไปในช่วงการระบาดของ COVID-19 กลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วง 2H64 ทำให้ปัจจุบันมี Backlog เพิ่มขึ้นเป็น 14,700 ลบ. จากที่เพียง 6,400 ลบ. ณ สิ้น 2Q64 ทำให้รายได้มีโอกาสฟื้นขึ้นมาแตะ 10,000 ลบ. ได้ในปี 2565 จาก 6,347 ลบ. ในปี 2564 และ
3) การฟ้องร้องค่าเสียหายจากโครงการ Rock salt คาดว่าจะถึงที่สิ้นสุดภายในปีนี้ มูลฟ้องสูงถึง US$90 ล้าน คาดว่าจะมีการกลับรายการส่วนนี้ไม่น้อยกว่า 539 ลบ. ตามจำนวนเงินที่อนุญาโตตุลาการส่งเจ้าของโครงการจ่ายหนี้บางส่วนแก่ TTCL มาแล้วใน 3Q64
คาดกำไรปกติปี 2565 เติบโต 43%YoY ฐานะการเงินเริ่มดีขึ้น
เราคาดรายได้ปี 2565 ที่ 9,230 ลบ. โดย 64% มีงาน Backlog และรายได้ประจำรองรับแล้ว ขณะที่มีงานรอประมูล ณ วันที่ 28 ก.พ. อีกราว 4.4 หมื่นลบ. โดยมีงานที่จะทราบผลใน 2Q65 อีกราว 4.5 – 5.0 พันลบ. คาด GPM ที่ 13.3% คาดดอกเบี้ยจ่ายที่ 178 ลบ. เพิ่มขึ้นจาก 116 ลบ. ในปี 2564 จากการออกหุ้นกู้เพื่อ Refinance ตัวเดิม ซึ่งครั้งนี้มีอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น จากผลของการถูกทริสฯลดอันดับ Credit rating จาก BBB+ เป็น BB+ จากผลของการตั้งสำรองจำนวนมากกระทบฐานทุน แต่คาดว่าหลังจากที่ผลประกอบการกลับมามีกำไร และคดี Rock salt ถึงที่สิ้นสุด จะส่งผลให้ฐานทุนเพิ่มขึ้น และมีโอกาสถูกปรับ Credit rating ขึ้นได้ อย่างไรก็ตามที่ 178 ลบ. ถือว่ายังต่ำกว่าช่วงย่ำแย่ของบริษัทที่กว่า 300 – 400 ลบ. ช่วงปี 2558 – 2561 เราคาดกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 51 ลบ. หากไม่รวมการตั้งด้อยค่ากำไรปกติอยู่ที่ 327 ลบ. (+ 42.8%YoY) ส่วนฐานะทางการเงินเริ่มเห็นสัญญาณบวกในปี 2563 จากการทยอยจ่ายคืนเงินกู้ต่อเนื่อง หลังหยุดดำเนินงานโครงการ Rock salt ส่งผลให้ IBD/E Ratio ลดลงจาก 2.51 เท่าในปี 2562 เป็น 1.54 เท่าในปี 2563 และ 1.10 เท่าในปี 2564 ขณะที่เราคาดเพิ่มขึ้นเป็น 1.21 เท่าในปี 2565 ตามงาน Backlog ที่สูงขึ้น และจะลดลงเป็น 1.15 เท่าในปี 2566 ซึ่งยังไม่รวมฐานทุนที่อาจสูงกว่าคาดหากผลการฟ้องร้องคดี Rock salt ถึงที่สิ้นสุดในปีนี้
High risk high return แต่คุ้มที่จะเสี่ยง เริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ”
อิง PER ในการประเมินมูลค่าที่ 15 เท่า และ Norm EPS ปี 2565 ที่ 0.53 บาท ได้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ที่ 7.95 บาท มี Upside gain 61.6% และราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER65 เพียง 9.3 เท่า และ PBV65 ต่ำเพียง 1.0 เท่า เราประเมินว่าผลประกอบการของ TTCL ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และผ่านช่วงที่มีความไม่แน่นอนของผลประกอบการและฐานะทางการเงินที่สุดไปแล้ว จึงเริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ”