Our View? “ทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย”
คาดตลาดวันนี้ “ขึ้นต่อ” มองแนวรับที่บริเวณ 1,687 / 1,677 แนวต้านที่บริเวณ 1,695 /1,705 คาดวันนี้ตลาดจะให้น้ำหนักกับความคืบหน้าในการเจรจาเสรีภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียส่งสัญญาณจะลดปฏิบัติการทางทหารลงอย่างมากรอบกรุงเคียฟ ขณะที่คณะเจรจาของยูเครนได้ยื่นข้อเสนอการเป็นประเทศที่มีสถานะเป็นกลาง ไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (NATO) และจะไม่ยินยอมให้ต่างชาติเข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศ เรามองเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อแนวโน้มความขัดแย้งดังกล่าวเริ่มผ่อนคลายลงในระยะถัดไป หนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ
ในส่วนของการอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US-Bond Yield) ชะลอกำลังลงบ้างแล้ว โดยล่าสุดเช้านี้รุ่นอายุ 10 ปี อ่อนตัวอยู่ที่ระดับ 2.3925% (-3.27%) คาดจะลดแรงกดดันจากมุมมองส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนสินทรัพย์เสี่ยง–สินทรัพย์ปลอดภัย (Earning yield Cap) ได้ต่อในระยะสั้น
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน พ.ค. เมื่อคืนนี้ปรับตัวลงต่อ ปิดที่ระดับ 104.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.72 ดอลลาร์ หรือ -1.62% โดยได้รับแรงกดดันจากความคืบหน้าของการเจรจาสันติภาพรัสเซีย-ยุเครนเช่นกัน โดยหากสงครามระหว่างทั้ง 2 ประเทศยุติลง เราคาดว่าสหภาพยุโรป (EU) จะมีแนวโน้มทยอยผ่อนคลายมาตรการกีดกันการส่งออกพลังงานของรัสเซียได้ในระยะถัดไป อีกทั้งราคาน้ำมันยังเผชิญแรงกดดันจากความกังวลอุปสงค์น้ำมันดิบ อาจได้รับผลกระทบหลังจีนซึ่งเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลกประกาศ Lockdown เมืองเซี่ยงไฮ้ ในส่วนของการประชุม OPEC+ ในวันที่ 31 มี.ค. นี้ มีรายงานว่า OPEC+ จะยังคงเพิ่มกำลังการผลิตตามข้อตกลงเดิม คือ เพิ่มกำลังการผลิตแค่ 4.32 แสนบาร์เรล/วัน เรามองจะเป็นปัจจัยลบกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานอ่อนตัวลงถ่วงตลาดหุ้นไทยได้ต่อ
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ยังคงให้น้ำหนักไปกับการแนะนำติดตามการประชุม กนง. ในนี้ คาดที่ประชุมฉะยังมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% อย่างไรก็ตาม แนะนำติดตามการลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้จากคาดการณ์ก่อนหน้าที่ระดับ 3.4% หลังได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานเร่งตัวขึ้น – นักท่องเที่ยวต่างชาติที่อาจจะเข้ามาน้อยกว่าคาด จากสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน คาดจะส่งผลกระทบให้กระแสเงินทุนต่างชาติเริ่มแผ่วลงได้บ้าง อย่างไรก็ตาม เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยตัวเลขส่งออกเดือน ก.พ. ขยายตัวที่ระดับ 16.2% (YoY) มากกว่าที่ตลาดคาดราว 10.20% คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (KCE และ HANA) รีบาวด์ขึ้นได้ต่อในระยะสั้น อีกทั้งเรายังคงชอบหุ้นในกลุ่มเครื่องดื่ม (OSP, ICHI และ SAPPE) คาดจะได้ปัจจัยบวกจากปัจจัยเชิงฤดูกาล รวมทั้งแนวโน้มการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีส่วนผสมของ CBD ในช่วง 2Q65 คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าวได้ อีกทั้งเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่กระทรวงท่องเที่ยวเตรียมเสนอ ศบค. ปลดล็อกมาตรการเข้าประเทศ โดยยกเลิก Thailand Pass คาดเริ่มวันที่ 1 มิ.ย. คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม ปรับตัวขึ้นได้ต่อ (AOT, AWC, ERW, CENTEL และ MINT)
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนําวันนี้ “AOT”
กลยุทธ์ แนวรับ 65.50/64.50 Target 69.00 / 70.00 Stop <63.75