แนะหุ้นได้ประโยชน์จากสถานการณ์ยูเครน รัสเซีย คลี่คลาย (KCE)
เมื่อคืนที่ผ่านมา Dow Jones ปรับตัวขึ้น 0.97% ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย ยูเครน โดยทางรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของตุรกีกล่าวว่า การเจรจาระหว่างทั้ง 2 ประเทศมีความคืบหน้ามากที่สุด ตั้งแต่เคยมีการเจรจามา ขณะที่กระทรวงกลาโหมของทางรัสเซียได้ระบุว่ารัสเซียจะลดปฏิบัติการทางทหารลงใน บริเวณใกล้ๆกับกรุงเคียฟ โดยมีวัตถุประสงค์เพิ่มความไว้วางใจระหว่างทั้ง 2 ประเทศ เพื่ออำนวยการเจรจาสันติภาพในครั้งต่อไป ด้านการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ อื่นๆ อาทิ น้ำมันดิบ BRT ปรับฐานลงมา 2% ทองคำลดลง 1.37% VIX INDEX ปรับตัวลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม พบว่าเช้านี้ตลาดหุ้น Nikkei เคลื่อนไหวในแดนลบ 0.4% สําหรับ SET INDEX อาจตอบรับเชิงบวกแต่เชื่อว่าจะไม่ได้สูงมากนักเนื่องจาก
(1) ได้รับผลกระทบเชิงลบทางอ้อม ผ่านกลุ่มน้ำมันจากราคาที่ปรับฐาน
(2) ไม่ได้เป็นประเทศที่รับผลกระทบทางตรงจากความไม่สงบในยูเครน รัสเซีย
(3) Nikkei ที่แกว่งแดนลบส่งผลเชิงจิตวิทยา
สำหรับปัจจัยวันนี้มองไปยังการประชุม กนง. คาดทราบผลอย่างเป็นทางการช่วงบ่ายโมงตามเวลาประเทศไทย เชื่อว่าที่ประชุมจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังเปราะบาง เพราะการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว ส่วนเงินเฟ้อที่เร่งตัว ปัจจุบันมาจากราคาพลังงาน (เงินเฟ้อจากอุปทาน) การแก้ปัญหาเงินเฟ้อด้วยการขึ้นดอกเบี้ย จึงยิ่งมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น โดยแนะติดตามถ้อยแถลงเศรษฐกิจว่าทาง กนง. จะปรับลดประมาณการอย่างไรหลังจากเงินเฟ้อเร่งตัวกดดัน การบริโภคและการท่องเที่ยวก็ดูยังฟื้นได้ยาก ล่าสุดหลายสํานักเริ่มปรับลด GDP ลงมาในกรอบ 2.5% – 2.9%
จากคาดการณ์ครั้งก่อนอยู่ในกรอบ 3.5%-4% ซึ่งก็คงต้องมาติดตามว่า กนง. จะปรับลงมาใกล้เคียงกับที่หลาย สำนักประเมินไว้หรือไม่ หากปรับลงมาใกล้เคียงก็อาจไม่ได้สร้างความประหลาดใจมากต่อตลาด แต่หากปรับลง มากกว่าอาจสร้างแรงกดดันเชิงลบได้ เชิงกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นเน้นหุ้น Anti Oil อาทิ (SCC SCGP TASCO TOA) โรงไฟฟ้า (BGRIM GPSC GULF) รวมถึงท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) และอิเล็กทรอนิกส์ (HANA KCE) โดยยังเน้นระมัดระวังต่อการลงทุนเช่นเดิม หลังระดับ Valuation ยังค่อนข้างแพง โดยประเมิน SET เคลื่อนไหว 1685-1695
KCE (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 95.75 บาท) ภาพรวมเชิงบวก ในปี 2022-23 หนุนจากอุปสงค์การใช้แผ่นพิมพ์ลายวงจร (PCBs) ที่สูงขึ้นในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โลก metaverse อุปกรณ์ด้านอินเทอร์เน็ตแห่งสรรพสิ่ง (IoT) และ 5G
KBANK (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 174 บาท) คาดกำไรสุทธิใน 1Q22 โต 6% YoY (+14% QoQ) จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิสูงขึ้น และควบคุมค่าจ่ายได้ดี ส่วนการปรับลดอันดับเครดิตของ S&P Global Rating จาก BBB+” เป็น “BBB” ส่งผลกระทบจํากัดต่อ KBANK
*หมายเหตุ ชุดหุ้นที่แนะนำ เหมาะสำหรับการซื้อเชื่อถือลงทุน 1-14 วัน หากนักลงทุนมีกำไรก็สามารถทำกำไร แนะตั้ง Stop loss หากขาดทุนเกินกว่า 5% ส่วนราคาเป้าหมายเป็นราคาภายใน 1 ปีจากปัจจุบันที่มาจากปัจจัยพื้นฐาน