Daily Focus: Selective Play
2022 SET Target: 1770
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index อ่อนตัวลงเล็กน้อย ปิดลบ 3.16 จุด และยังคงไม่ผ่านแนวต้านหลัก 1,700 จุดได้ตามคาด ขณะที่ 1Q22 ให้ผลตอบแทน +2.3% สถาบันในประเทศยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นบางๆอีก 119 ลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิบางลงเช่นกันเหลือ 391 ลบ. (สถานะใน SET50 Index Futures ไม่มีนัยยะนักวานนี้)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะอ่อนตัวลงหาระดับ 1,685-1,690 จุด หลังไม่ผ่านแนวต้าน 1,700 จุด บรรยากาศการลงทุนจากต่างประเทศถ่วงหลัง Bond Yield สหรัฐฯเกิด Inverted Yield Curve ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2019 หลังเงินเฟ้อ PCE ล่าสุด เดือน ก.พ. เร่งขึ้นมากกว่าคาด ขณะที่เศรษฐกิจยังถูกถ่วงจากความไม่แน่นอนของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลให้เริ่มมีแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงหนาแน่นขึ้น หุ้นกลุ่มพลังงานถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลงหลังสหรัฐฯจะปล่อยน้ำมันสํารองวันละ 1 ล้านร์เรลต่อวันเป็นเวลา 6 เดือน ขณะที่กลุ่มโรงไฟฟ้าคาดฟื้นตัวจากต้นทุนที่ผ่อนคลายลง ภาพรวมยังสอดคล้องกับคาดการณ์ของเราที่ค่อนข้างกังวลห ากสงครามลากยาวจะส่งผลลบต่อสินทรัพย์เสี่ยงให้ยืนทรงในระดับสูงไม่ไหว เราจึงยังคงน้ำหนักการลงทุนในกลุ่ม Value และ Domestic Play ที่มี Valuation ไม่สูง ทนทานต่อภาวะเงินเฟ้อและนโยบายการเงิน โดยเฉพาะ FED ที่จะตึงตัวเร็วได้ และได้อานิสงส์จากเศรษฐกิจในประเทศที่เร่งตัว เรายังชอบกลุ่ม ธนาคาร โรงกลั่น ค้าปลีก อสังหาฯ อาหารและเครื่องดื่ม การแพทย์ เป็นต้น
กลยุทธ์ : เลือกลงทุนหุ้นที่ยังมี Valuation ต่ำ และยังเน้น Value และ Domestic Play
หุ้นเด่นเดือน เม.ย. : BCP, ICHI, IVL, ORI, SHR
หุ้นเด่นวันนี้ : TKS
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 19 บาท
- แนวโน้ม 1Q22 ยังดีต่อเนื่อง จากส่วนแบ่งกำไรของ SYNEX ที่ได้อานิสงส์จากมาตรการมาตรการช้อปดีมีคืน ขณะที่โรงพิมพ์ฟื้นตัว เราคาดกำไรปี 2022 +25% Y-Y
- ราคาหุ้นปรับลงแรงวานนี้ ทำให้ปัจจุบันเทรด PER ต่ำเพียง 13 เท่า และมี Upside ในช่วงปลายปีหากเกิดการยุบสภา และได้งานพิมพ์บัตรเลือกตั้งทั่วไป
- แนวรับ 13//12.50 บาท แนวต้าน 13.80-14 บาท
Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนยังคงไหลเข้าภูมิภาคอีก US$640 ล้าน แต่กระจุกตัวที่เกาหลีใต้ US$517 ล้าน ส่วนอาเซียนภาพรวมยังแข็งแรง ไหลเข้าทุกประเทศ นำโดย อินโดนีเซีย US$54 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่าจะพลิกมาไหลออก หลังมีแรงขายสินทรัพย์เสี่ยง ตลาดพันธบัตรสหรัฐฯเกิด Inverted Yield Curve เป็นครั้งแรกจากเงินเฟ้อ PCE ที่เร่งขึ้นสูงกว่าคาด
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) กลยุทธ์การลงทุนเดือน เม.ย. 22 ตลาดมีโอกาส Sideways รอความชัดเจนของสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครนว่าจะยืดเยื้อหรือมีทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะกำหนดทิศทางตลาดระยะถัดไป ส่วนภาพเศรษฐกิจในประเทศยังดูแข็งแรงหลังธปท.ออกมาเน้นย้ำว่ากำลังเร่งตัว และห่างไกลจาก Stagflation ขณะที่ผลประกอบการ 1Q22 ของกลุ่ม ธนาคารคาดเร่งตัวขึ้นทั้ง Q-Q และ Y-Y อย่างไรก็ตาม ระดับ SET Index ปัจจุบันถือว่าไม่ถูกหลังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปีก่อน กลยุทธ์จึงต้องเน้น Selective หุ้น Value และ Domestic Play ที่ยัง Laggard และมี Valuation ไม่แพงเทียบกับอดีต โดยเลือก Top Pick สำหรับเดือนนี้ ได้แก่ BCP ICHI IVL ORI SHR
(+) กลุ่มธนาคาร ระยะสั้นอาจขาดปัจจัยหนุนราคาหุ้น แต่แนวโน้มกำไรของกลุ่มฯใน 1Q22 FSSIA คาดเร่งตัวขึ้น +18% Q-Q, +8% Y-Y จากทั้งสินเชื่อที่โตและรายได้ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่เร่งขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจ ขณะที่การตั้งสำรองคาดผ่อนลงจาก 2 ปีที่ผ่านมา ส่วนระยะยาวยังเป็นกลุ่มที่น่าสนใจจากเศรษฐกิจที่จะเร่งตัวขึ้นใน 2H22 จาก ภาคการท่องเที่ยวที่ช่วยหนุน ขณะที่ Valuation ปัจจุบันยังถูก โดยเทรด PBV เพียง 0.68 เท่า FSSIA เลือก SCB และ KKP เป็น Top Pick ส่วนกลยุทธ์เรายังคงชอบ KBANK และ TTB
(0) DOHOME คาดกำไร 1Q22 +36% Q-Q ตามฤดูกาล แต่ -16% Y-Y หลังผลบวกจากสต็อกเหล็กราคาต่ำหมดไป และค่าใช้จ่ายปรับขึ้นเพราะมีการขยายสาขาใหม่ต่อเนื่อง เราคาดกำไรจะกลับมาโต Y-Y อีกครั้งใน 3Q22 ด้วยสัดส่วนรายได้เหล็กที่สูงราว 30% ของรายได้รวม และ Gross Margin ของสินค้าเหล็กปรับลงต่อเนื่อง จึงคาด Gross Margin ปี 2022 อ่อนตัวลงจากปี 2021 แต่คาดหักล้างด้วยรายได้ที่ยังเติบโตได้ จึงยังคงคาดการณ์กำไรปีนี้ +3% Y-Y แต่มีมุมมองระมัดระวังมากขึ้นต่อกำลังซื้อในต่างจังหวัดมากขึ้น ยังคงราคาเป้าหมาย 23 บาท ซึ่ง Upside ไม่กว้าง จึงปรับลดคำแนะนำเป็น “ถือ”
(+) SC แม้ 1Q22 จะเปิดตัวแนวราบเพียง 2 โครงการ แต่ทำ Take-up rate สูง เช่นเดียวกับปีก่อนหน้า บวกกับเน้นขายแนวราบระดับบนที่ถนัดยังไปได้ดี ทำให้ยอด Presales 1Q22 คาดยังแข็งแรง 5.2 พันลบ.คิดเป็น 24% ของเป้าทั้งปี ขณะที่ 2Q22 จะเปิดโครงการใหม่เร่งขึ้นอย่างมีนัย หนุนโมเมนตัมยอด Presales เร่งขึ้นต่อเนื่อง เรายังคาดกำไรปกติปี 2022 +17% Y-Y ระยะสั้นงบ 1Q22 อาจอ่อนลงระยะสั้น แต่จะฟื้นตัวใน 2Q22 และเร่งขึ้นเด่นใน 2H22 ปัจจุบันราคาเทรด PER เพียง 6.7 เท่า และให้ปันผล Yield 5.3% คงราคาเป้าหมาย 4.60 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(-) ตลาดดาวโจนส์ ปิดที่ 34,678.35 จุด ลดลง 550.46 จุด หรือ 1.56% จากความกังวลเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงเฟดอาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 5.4% Y-Y ในเดือนก.พ.
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบ จากความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ หลังรัสเซียบุกโจมตียูเครน
(-) ตลาดหุ้นเอเชีย ส่วนใหญ่ปรับลง ตามทิศทางตลาดดาวโจนส์ รวมถึงกดดันจากความไม่แน่นอนสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน และแนวโน้มผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่เพิ่มขึ้นในกรุงโตเกียว ขณะที่ติดตามรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่าย จัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมี.ค.จากไฉซินในเช้านี้
(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่าลง ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.31 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 7.54 ดอลลาร์ หรือ 7% ปิดที่ 100.28 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐยืนยันว่าจะระบายน้ำมันในคลังสำรองจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วัน สกัดการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน และบรรเทาภาวะเงินเฟ้อใน ประเทศ ขณะที่ผลการประชุมล่าสุดของกลุ่มโอเปกพลัสมีมติยึดมั่นตามข้อตกลงเดิม โดยจะเพิ่มกำลังการผลิต 432,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ค.
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 15 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 1,954 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,091.43 / +-
