บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Com7 PCL (COM7) แอปเปิ้ล, กล้วย และ ???
Rating Change
ประเด็นการลงทุน
นอกเหนือจากการเติบโตผ่านการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดสินค้า IT ที่ทำมาตลอดใน 3-4 ปีที่ผ่านมา ด้วยทีมบริหารที่มีศักยภาพ บริษัทได้ปรับตัวอยู่เสมอผ่านการสร้าง S-Curve ในหน่วยธุรกิจใหม่ เพื่อรักษาการอัตราเติบโต 30-40%YoY เช่นในอดีต เช่น การผันตัวจาก IT Retailer เป็น Plug in Retailer ที่ตลาดใหญ่กว่าด้วยความชำนาญที่มีอยู่เดิม รวมถึงการรุกเข้าสู่ธุรกิจสินเชื่อที่เป็นธุรกิจต่อขยาย ราคาหุ้นอาจถูกกดดันระยะสั้นจากหุ้นปันผลเป็นโอกาสซื้อ ทว่าด้วยกำไรสุทธิที่เติบโตเฉลี่ย (CAGR) 30% ใน 2565-67 ดึงดูดพอที่จะหนุนราคาใน 12 เดือนข้างหน้า
เติบโตได้ต่อทั้งในรูปแบบเดิมและใหม่
ภายหลังการทำสถิติกำไรใหม่ทั้ง 4Q64 และทั้งปี 2564 +76%YoY บริษัทยังมองหาโอกาสเติบโตใหม่ใน 4 ด้าน ได้แก่ i) ธุรกิจ Retail (IT&Mobile) ขยายสาขาใน-นอกห้างเป็น 1,150 ลบ. +15%YoY เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจาก 15% เป็น 40% ในไม่กี่ปีข้างหน้า ii) การขยายเข้าสู่ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยใช้รูปแบบรับบริหารร้านค้า ส่วนแบ่งขาย (Consignment) ให้กับร้านขนาดใหญ่ทั้ง True shop, ILM 30 สาขา, ฝากขายกับ BigC 45 สาขา และอยู่ระหว่างเจรจากับ Power Buy iii) B2B ค้าส่งแบรนด์ Realme ให้กลุ่มลูก ตจว. 3,500 ราย ตั้งเป้า ยอดขาย 2,000 ลบ./ปี iv) Online เปิด Studio7, Banana app ใน 2Q65 เพิ่มประสิทธิภาพขาย v) Finance เพิ่มโอกาสการขาย/กำไรที่ลูกค้า 80% ชำระเงินสด เริ่มบริการ ณ จุดขาย เช่น True loan, Ufund ให้กลุ่มนศ. ซึ่งเกิดหนี้เสีย 2-3% ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อปีนี้ 3 พันลบ. +50%YoY
ประมาณการกำไรขึ้น 22% ทั้งรายได้และอัตรากำไรที่เป็นขาขึ้น
เพื่อสะท้อนแผนข้างต้น-อุปสงค์บางส่วนที่ยังคงค้างจากชิปขาดแคลน เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เราปรับสมมติฐานรายได้ปี 2565 ขึ้น 15% เป็น 6.4 หมื่นลบ. +25%YoY ใกล้เคียงกับเป้าบริษัท ขณะ %GPM คาด +10bps จาก Product mix ที่ดีขึ้น สวนทางกับ SG&A/Sale -20bps จากการประหยัดต่อขนาดที่ดีต่อเนื่อง และ Channel mix ที่ลงทุนลดลง (asset-light) ทำให้ %NPM ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 5.3% +16bps ประเมินกำไรสุทธิปี 2565 3,388 ลบ. +29%YoY เบื้องต้นสัญญาณ SSSG 1QTD เติบโตระดับสองหลัก จากสินค้า Apple ที่ความต้องการสูง
ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ซื้อ บนราคาเหมาะสม 57 บาท
ราคาหุ้นทรงตัว YTD ส่วนหนึ่งเกิดจากการปันผลเป็นหุ้น อัตราส่วน 1:1 ทำให้นักลงทุนกังวลต่อการเติบโตกำไรต่อหุ้น (EPS) ในระยะสั้น -26%YoY อย่างไรก็ดี เราให้น้ำหนักกับการเติบโตของกำไรสุทธิในระยะยาวที่เฉลี่ย 30% ใน 3 ปีข้างหน้า ทำให้ P/E’65 จากราคาปัจจุบัน 31x ที่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี จะลดลงเหลือเพียง 23x ในปี 66 เราปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ซื้อ และปรับราคาเหมาะสมปี 2565 เป็น 57 บ./หุ้น อิง SOTP ประกอบด้วย i) ธุรกิจ หลัก (WACC) 55.50 บ./หุ้น ii) มูลค่าตลาด NCAP ตามสัดส่วนถือ 34% 1.28 บ./หุ้น