KS Daily View 05.04.2022 >>> ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้น/ แนะตลาดหุ้นไทย Trading สลับกลุ่มลงทุน/ SET คาด 1705-1710 หุ้นแนะนำ TRUE TISCO

ตลาดต่างประเทศ : ตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อวานปรับขึ้นต่อเกือบทุกตลาด (โดยเฉพาะสหรัฐ, ฮ่องกง หุ้นกลุ่ม Technology ค่อนข้างปรับขึ้นโดดเด่น(Outperform) กว่ากลุ่ม Value สอดคล้องกับตามที่ KS เคยนำเสนอว่าตลาดหุ้นได้ตอบรับ (Price In) ทั้งสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครนผ่านจุดเลวร้าย(Peak)แล้ว, และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแข็งแกร่ง ทั้งตลาดแรงงงาน ฯลฯ อย่างไรก็ตาม KS ยังคงมุมมองเดิมคือ Upside การปรับขึ้นยังมีแต่เริ่มจำกัด ประเมินช่วงที่เหลือของสัปดาห์ ปัจจัยที่ต้องติดตามและอาจจะกดดันตลาดหุ้น

1.) รายงาน Fed Minutes กลางสัปดาห์ ให้น้ำหนักรายละเอียดการนำเนินนโยบายการเงิน ทั้งเรื่องอัตราดอกเบี้ย และการทำ QT KS เชื่อว่าประเด็นเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย 50bps ตลาดได้รับรู้ไปแล้ว แต่ตลาดหุ้นโลกจะถูกกดดันแรงถ้า Fed ประกาศขายพันธบัตรที่ซื้อมาเพิ่ม มากกว่าปล่อยให้พันธบัตรหมดอายุ

2.) ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเริ่มมีกระแสมากขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังจากเกิด Inverted Yield curve หลังผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 2 ปีปรับตัวขึ้นสูงกว่าผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว 10 ปี ล่าสุด 10-2 Year Treasury Yield Spread ล่าสุด อยู่ที่ ที่ -0.011 % หรือติดลบติดต่อกัน 3 วัน ในอดีต หากติดลบมักจะตามด้วยการเศรษฐกิจถดถอย 6-12 เดือนข้างหน้า) อย่างไรก็ตาม KS ประเมินในรอบนี้จะแตกต่างกัน ในระยะสั้นยังไม่น่ากังวล เพราะปัจจุบัน Yield Curve ยังเป็นลักษณะ Bearish flattening และหาก อิงคาดการโอกาสเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยใน Bloomberg คาดยุโรป สหรัฐโอกาสเกิดอยู่25%

ตลาดในประเทศ: วันนี้ติดตามรายงานเงินเฟ้อตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไป และเงินเฟ้อพื้นฐานของไทยเดือน มี.ค. ตลาดคาด +5.71% YoY และ +1.8% YoY (เทียบกับคาดการณ์เงินเฟ้อจากธนาคารแห่งประเทศ ล่าสุด คาดทั้งปี 2565 จะอยู่ที่ 4.9%) โดยเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูง KS ประเมินจากท่าที ธปท. เชื่อว่าจะยังไม่มีการขยับอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ และระยะถัดไป ช่วงกลางเดือน เม.ย. ตลาดจะเริ่มให้น้ำหนักกับผลประกอบการ (Earning)ในงวด 1Q65 โดยเริ่มจากงบกลุ่มธนาคาร ล่าสุด KS ได้ทำพรีวิวคาดกำไรกลุ่มธนาคารจะโตขึ้น 10% QoQ และ 1% YoY จากค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญและอัตราส่วนต้นทุน/รายได้ที่ลดลง โดยคาด SCB และ KTB จะรายงานกำไรที่ฟื้นตัวแข็งแกร่งที่สุด QoQ ขณะที่ KKP และ KTB คาดกำไรแข็งแกร่งที่สุด YoY

กลยุทธการลงทุน : ตลาดหุ้นที่ขึ้นมาแนะนำให้หาจังขายทำกำไร เนื่องจากปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทยมีเพียงการเปิดเมือง เปิดประเทศ แต่หากดูปัจจัยแวดล้อมในช่วง 2Q65 ไปทางลบมากกว่า ยังไม่เพิ่มน้ำหนักพอร์ตการลงทุนในระดับดัชนีแถวๆ 1700 จุด โดยใช้วิธีการสับเปลี่ยนกลุ่ม (Rotation) ไปที่กลุ่มผลประกอบการ (Earning) ในงวด 1Q22 จะออกมาดี เนื่องจากจะเป็นช่วงที่นักวิเคราะห์ทำพรีวิวผลประกอบการ โดยเฉพาะบริษัทที่มีแนวโน้มงบจะออกมาดีและได้ Sentiment บวกการเปิดเมือง อาทิ CPALL, BEM, BDMS, และเน้น 5 Sector เดิม คาดจะยัง Outperform ในช่วงไตรมาส 2 คือ 1.) กลุ่ม Growth อาทิ COM7 และ Tech Consult อาทิ (BBIK, BE8) 2.)กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF GUNKUL, SSP BGRIM, GPSC, SSP) 3.) กลุ่มการเงิน (TIDLOR, ASK ,THANI, AEONTS, BAM CHAYO) 4.) กลุ่มเครื่องดื่ม (SAPPE, CBG, OSP) 5.) กลุ่ม ICT (DTAC, TRUE) ส่วนกลุ่มชะลอการลงทุน คือ กลุ่มปิโตรเคมี และ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์

มุมมองตลาดหุ้น SET คาด 1705-1710 หุ้นแนะนำ TRUE, TISCO

Top pick :

  • TRUE (ราคาพื้นฐาน 5.64 บาท) เราคาดราคา Voluntary tender offer ที่ 5.06 บาท คาดจะจำกัด downside ให้กับ TRUE ขณะที่มูลค่าจากการผนึกกำลังที่จะเกิดขึ้นคาดจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น โดยการจัดประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวาน 4 เม.ย. TRUE และ DTAC เพื่อรับรองข้อตกลงการควบรวมกิจการ ผู้ถือหุ้นของ TRUE และ DTAC ได้สนับสนุนข้อตกลงการควบรวมกิจการ
  • TISCO (ราคาพื้นฐาน 125.0 บาท) บริษัทคาดสินเชื่อเติบโต 3-5% ในปี 2565 จากกลุ่มสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนสูง เราคาด NIM จะดีขึ้นในปี 2565 โดยเราชอบ TISCO เนื่องจากเป็นหุ้นที่จ่ายเงินปันผลดีของกลุ่มธนาคาร โดยคาดว่าอัตราตอบแทนเงินปันผลจะอยู่ที่ >7% ในปี 2564-66 เราเชื่อว่าฐานเงินทุนของบริษัทด้วย CET1 ที่ >20% นั้นเพียงพอที่ TISCO จะปรับเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผลให้สูงกว่า 80% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกัน TISCO จะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ในอัตราส่วนที่สูงสุดเมื่อเทียบกับธนาคารอื่นในปี 2565 เนื่องจากสามารถจ่ายเงินปันผลจากบริษัทย่อยที่ไม่ได้ถูกกำกับโดยธนาคารแห่งประเทศไทย

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันอังคาร ติดตาม ตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไป และเงินเฟ้อพื้นฐานของไทยเดือน มี.ค. คาด +5.71% YoY และ +1.8% YoY ตามลำดับ ตัวเลข Jibun Bank Service PMI ของญี่ปุ่น เดือน มี.ค. คาด 48.7 จุด(+10% MoM) การประชุมธนาคารกลางออสเตรเลียคาดคงดอกเบี้ยที่ 0.1% ตัวเลข ISM non-manufacturing PMI ของสหรัฐฯ เดือน มี.ค. คาด 58 จุด (+2.7% MoM) และถ้อยแถลงของ Fed Brainard และ Fed Kashkari
  • วันพุธ ติดตาม ตัวเลข Caixin Services PMI ของจีนเดือน มี.ค. คาด 49.3 จุด (-1.8% MoM) ตัวเลข Factory orders ของเยอรมัน เดือน ก.พ. คาด -0.2% MoM ถ้อยแถลงของ Fed Harker ปริมาณสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ และ FOMC minutes เกี่ยวกับแผนการทำ QT ของเฟด
  • วันพฤหัสฯ ติดตาม ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยเดือน มี.ค. คาด -2.7% MoM เป็น 42.1 จุด ตัวเลข Industrial production ของเยอรมันเดือน ก.พ. คาด -0.2% MoM ตัวเลข Retail sales ของยูโรโซน เดือน ก.พ. คาด +0.7% MoM และ +6.2% YoY ตัวเลข Initial Jobless Claim รายสัปดาห์ของสหรัฐฯ คาด +2.00 แสนคน ถ้อยแถลงของ Fed Bullard, Fed Williams, Fed Evans, และ Fed Bostic
  • วันศุกร์ ติดตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของญี่ปุ่นเดือน มี.ค. คาด -3.7% MoM เป็น 34 จุด และตัวเลข Wholesale inventories ของสหรัฐฯ เดือน ก.พ. คาด +2.1% MoM
- Advertisement -