Our View? “พักตัวเตรียมใจ”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,690 / 1,685 แนวต้านที่บริเวณ 1,705 / 1,710 ตลาดยังคงขาดปัจจัยใหม่เข้าสนับสนุนการปรับตัวขึ้นได้ต่อ อีกทั้งเราแนะนำเฝ้าระวังประเด็น Inverted yield curve ระหว่าง US-Bond Yield 2-10 Years โดยล่าสุดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดตัวเหนือพันธบัตรระยะยาว  หากไม่ใช่เป็นการดีดตัวขึ้นชั่วคราว จะเป็นการบ่งชี้แนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในอีก 6-12 เดือนข้างหน้า คาดว่าจะกดดัน-จํากัด Upside ของตลาดได้อยู่ อีกทั้งคาดตลาดยังคงรอดูรายงานการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) รอบเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ที่จะเปิดเผยในวันที่ 7 เม.ย. นี้ เกี่ยวกับการมุมมองเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และการปรับใช้นโยบายทางการเงินของ FED ในระยะถัดไป โดยเราคาดว่า FED จะส่งสัญญาณในการเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่เหลือของ 1Q65 บ่งชี้แนวโน้มกระแสเงินทุนส่วนเกินจะเริ่มลดลง ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงต่อ

อีกทั้งตลาดยังมีปัจจัยความกังวลวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน เป็นปัจจัย Overhang ถ่วงตลาดได้อยู่ โดยล่าสุด ปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนกล่าวว่า เหตุการณ์การสังหารพลเรือนยูเครนในเมืองบูชา (Bucha) ทำให้การ เจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยากลำบากมากขึ้น อีกทั้งออกมาตรการคว่ำบาตรตอบโต้กันระหว่างรัสเซีย สหภาพยุโรป (EU) คาดจะส่งผลให้บางประเทศในกลุ่ม EU โดยเฉพาะเยอรมนีเผชิญวิกฤตพลังงานได้ในระยะถัดไป  คาดจะส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตของ EU กดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกได้

ทางด้านราคาสัญญานํามันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน พ.ค. เมื่อคืนนี้ฟื้นตัวขึ้นปิดที่ระดับ 103.28 ดอลลาร์/บาร์เรล +4.01 ดอลลาร์ หรือ +4.04% จากคาดการณ์สหรัฐ-EU จะออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม จากกรณีการสังหารพลเรือนในเมืองบูชา เป็นจิตวิทยาเชิงบวกระยะสั้นหนุนทิศทางราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นได้ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม เรายังมองโอกาสในการออกมาตรการดังกล่าวเพิ่มเติมจาก EU ยังเป็นไปได้น้อย จากการที่ปัจจุบัน เยอรมนีเริ่มเผชิญปัญหาการขาดแคลนพลังงานแล้ว ขณะที่คาดว่าราคาน้ำมันยังถูกกดดัน-จำกัด Upside จากแนวโน้มการกลับมาส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลาและอิหร่าน มองจะเป็นปัจจัยลบกดดันราคาน้ำมันในระยะกลางได้ต่อ

สําหรับปัจจัยภายในประเทศ เราประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยเริ่มมี Upside ในระยะสั้นที่จํากัด หากพิจารณาในแง่ Valuation ของตลาดหุ้นไทย โดย Bloomberg Consensus จากคาดการณ์ EPS’65 ของตลาดอยู่ที่ระดับ 96.0 บาท หากคำนวณโดยใช้ค่าเฉลี่ย 5 ปี ของ Forward PE Ratio ที่ระดับ 18.0 เท่า ทำให้ได้เป้าหมายอยู่ที่ ระดับ 1,730 จุด ขณะที่ปัจจุบันตลาดแกว่งตัวอยู่ที่ระดับ 1,700 จุด ทำให้เหลือ Upside จากที่เราประเมินไว้เพียงราว 1.7-2.0% สะท้อนภาพตลาดในปัจจุบันอยู่ในมูลค่าที่ตึงตัวในระดับหนึ่งแล้ว อีกทั้งตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวในการเข้าสู่ช่วงวันหยุดในเทศกาลตั้งแต่สัปดาห์นี้-สัปดาห์หน้า คาดจะส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายมีโอกาสเบาบางลงไป ส่งผลให้หุ้นขนาดใหญ่อาจเคลื่อนไหวแกว่งตัวในกรอบจํากัด โดยเรายังคงชอบหุ้นในกลุ่มเครื่องดื่ม (OSP, ICHI และ SAPPE) คาดจะได้ปัจจัยบวกจากปัจจัยเชิงฤดูกาล รวมทั้งแนวโน้มการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีส่วนผสมของ CBD ในช่วง 2Q65 คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางราคาหุ้นในกลุ่มดังกล่าวได้ อีกทั้งเรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อ การที่กระทรวงท่องเที่ยวเตรียมเสนอ ศบค. ปลดล็อกมาตรการเข้าประเทศ โดยยกเลิก Thailand Pass คาดเริ่มวันที่ 1 มิ.ย. คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรมปรับตัวขึ้นได้ต่อ (AOT, AWC, ERW, CENTEL และ MINT)

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนําวันนี้ “BOL”

กลยุทธ์ แนวรับ 13.70/ 13.30 Target 15.00 / 16.30 Stop <12.90

- Advertisement -