บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action TRADING (Maintain)
TP upside (downside) +23.5%
Close Apr 4, 2022 Price (THB) 24.30
12M Target (THB) 30.00
Previous Target (THB) 30.00
What’s new?
- คาด 1Q65 QoQ พลิกกลับมามีกำไรปกติที่ 2,848 ลบ. จากการฟื้นตัวของธุรกิจในประเทศ ราคาหมู-ไก่ ฟื้นตัว 17%QoQ ขณะที่เวียดนามเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวหลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย และกลับมาเปิดประเทศ แต่กำไรยังชะลอ 58.5%YoY จากต้นทุนที่สูงขึ้น
- แนวโน้มกำไร 2Q65 เบื้องต้นคาดทรงตัวถึงลดลงเล็กน้อย QoQ จากราคาเฉลี่ยหมูในประเทศคาดจะลดลง QoQ ส่วนหมูเวียดนามคาดทรงตัว QoQ
Our view
- เรามีมุมมองเป็นกลางถึงบวกต่อแนวโน้มกำไรของ CPF คาดจะกลับมาเติบโตได้ในปี 2565 จากฐานต่ำในปีก่อน และการฟื้นตัวของธุรกิจในประเทศและเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามสถานการณ์ของราคาหมูในจีนที่ชะลอลง และแนวโน้มราคาต้นทุนการเลี้ยงที่สูงขึ้นเป็น Downside
- เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2565 ของ CPF ที่ 14,539 ลบ. (+737.4%YoY) และคงราคาเป้าหมายที่ 30.00 บาท และคงคำแนะนำ TRADING
CHAROEN POKPHAND FOODS พลิกกลับมามีกำไร แม้ต้นทุนยังสูงต่อ
1Q65 หมูไทย, เวียดนามฟื้น แต่จีนยังไม่ฟื้น
คาดรายได้ใน 1Q65 ที่ 1.43 แสนล้านบาท (+3.6%QoQ, +19.6%YoY) ฟื้นตัวต่อ QoQ จากปริมาณขายที่ สูงขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ, ราคาหมูและไก่ในประเทศที่ปรับขึ้น 16.8%QoQ และ 17.0%QoQ ตามลำดับ และราคาหมูเวียดนามพลิกกลับมาสูงขึ้นในรอบ 5 ไตรมาส อยู่ที่ราว 53,000 ดอง/กก. ฟื้นตัว 27.4%QoQ จากจำนวนหมูเวียดนามเริ่มกลับสู่ระดับปกติ หลังมีการเทขายใน 4Q64 ขณะที่ต้นทุนข้าวโพดทรงตัว QoQ และสูงขึ้น 16%YoY เป็น 10.9 บาท/กก. ราคากากถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น 3%QoQ และ 7%YoY เป็น 20.7 บาท/กก. คาด GPM ที่ 12.4% เพิ่มขึ้นจาก 7.1% ใน 4Q64 ได้มาขึ้นธุรกิจในประเทศฟื้นตัว ช่วยลดผลกระทบต้นทุน และราคาไก่ส่งออกที่ปรับขึ้นราว 30%YoY แต่ลดลงจาก 19.9% ใน 4Q64 คาดมีกำไรจากราคาสินทรัพย์ชีวภาพราว 1,702 ลบ. จากราคาหมูไทยและเวียดนาม ณ วันทำการสุดท้ายของปี สูงกว่าราคา ณ สิ้น 4Q64 คาดส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ 2,062 ลบ. ลดลง 21.8%QoQ จาก ผลกระทบของธุรกิจหมูในจีนที่คาดว่าจะยังขาดทุน เพราะราคาหมูจีนชะลอตัว 14%QoQ และ 58%YoY และการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนของ CTI มากขึ้นหลัง CPF เพิ่มสัดส่วนการลงทุนจาก 18% เป็น 27% คาดกำไรสุทธิ 1Q65 ที่ 4,179 ลบ. และคาดกำไรปกติ 1Q65 ที่ 2,848 ลบ. พลิกจากขาดทุนปกติ 4,028 ลบ. ใน 4Q64 แต่ลดลง 58.5%YoY
ปี 2565 ยังท้าทายจากปัจจัยต้นทุน แต่คาดยังเห็นการเติบโต
แนวโน้มกำไร 2Q65 เบื้องต้นคาดทรงตัวถึงลดลงเล็กน้อย QoQ จากราคาหมูในประเทศคาดว่าจะชะลอลง QoQ ขณะที่ทั้งปี 2565 แม้แนวโน้มต้นทุนที่ยังสูงขึ้นต่อจะเป็นประเด็นกดดันหลักต่อกำไรของ CPF อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการซื้อวัตถุดิบล่วงหน้าตั้งแต่ปลายปี 2564 และมีเพียงพอต่อการใช้ถึงสิ้น 1H65 ช่วยจำกัดผลกระทบของต้นทุนที่สูงขึ้น และเราคาดผลประกอบการจะเติบโตเด่น YoY ได้จากฐานที่ในปี 2564 จาก 1) ธุรกิจในประเทศ (สัดส่วนรายได้ราว 37% ของรายได้รวม) ฟื้นตัวจากปริมาณขายที่สูงขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และราคาหมู/ไก่ที่สูงขึ้น YoY ซึ่งคาดว่าจะทรงตัวสูงตลอดปีนี้ เนื่องจากอุปทานหมูยังได้ผลกระทบของการระบาดของ ASF และการฟื้นตัวต้องใช้เวลา, อุปทานไก่ในประเทศลดลงจากปริมาณการส่งออกที่สูงขึ้น ทั้งจากตลาดเดิมและตลาดใหม่ 2) ธุรกิจในเวียดนาม (สัดส่วนรายได้ราว 22%) ฟื้นตัวหลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย และการกลับมาเปิดประเทศในวันที่ 15 มี.ค. หนุนอุปสงค์เนื้อสัตว์ ส่วนฝั่งอุปทานเริ่มกลับสู่ภาวะปกติ หลังมีการเทขายหมูในช่วง 4Q64 3) ค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 จะลดลงอย่างมีนัยยะจากปี 2564 ที่ราว 2 พันลบ. ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย คาดส่งผลกระทบจำกัด โดยรายได้ในรัสเซียคิดเป็นสัดส่วนราว 3% ซึ่งเป็นการจำหน่ายในประเทศเกือบทั้งหมด และ CPF มีค่าใช้จ่ายและภาระหนี้สินเป็นสกุลเงินรูเบิลเกือบทั้งหมด จึงเป็นการ Natural Hedgeได้
คงประมาณการ คงคำแนะนำ TRADING
เราคงมุมมองเป็นกลางถึงบวกต่อภาพการฟื้นตัวของกำไรในปี 2565 ของ CPF และยังต้องติดตามสถานการณ์ธุรกิจหมูในจีน และต้นทุนการเลี้ยงสัตว์อย่างต่อเนื่อง เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2565 ที่ 14,539 ลบ. (+737.4%YoY) คงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ที่ 30.00 บาท แต่ในระยะสั้นยังขาดปัจจัยบวกใหม่ จึงยังคงคำแนะนํา TRADING
บริษัทประกาศจ่ายปันผลงวด 2H64 ที่ 0.25 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. Yield 0.8% ขึ้น XD วันที่ 5 พ.ค. 2565








