ยังไม่เร่งรีบเข้าลงทุน ระยะสั้นแนะ PLANB TU

เมื่อคืนที่ผ่านมา Dow Jones ปิดบวกได้เล็กน้อย 0.7% ยังคงเป็นการตอบรับต่อผลประกอบการที่ออกมา แข็งแกร่ง หลังจากที่ P&G และ IBM รายงานผลกำไรต่อหุ้นที่ดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ แต่สวนทางกับ NASDAQ ที่ปรับฐานลง 1.2% หลัง NETFLIX รายงานจํานวนสมาชิกลดลง 2 แสนรายในช่วง 1Q22 นับเป็นการ ลดลงครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี พร้อมกันทั้งนี้ยังคาดว่าในช่วง 2Q22 จํานวนสมาชิกอาจลดลงถึง 2 ล้านราย ส่งผลให้เกิดแรงกดดันไปยังตัวอื่นๆ ในภาพรวม ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปรับลงเล็กน้อย 0.4% หลักๆ นักลงทุนยังคงกังวลกับการขยายตัวเศรษฐกิจที่ลดลง หลัง IMF ออกมาปรับลดการเติบโต GDP แม้สหรัฐจะรายงานสต็อกน้ำมันดิบที่ลดลง 8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรลก็ตาม

ในประเทศยังคงเป็นเรื่องของผลประกอบการ 1Q22 ที่ทยอยประกาศออกมา วานนี้ TTB รายงานกำไรสุทธิ 1Q22 อยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท (+15% YoY, +14% QoQ) และสูงกว่าที่คาด 13% จากค่าใช้จ่ายพนักงานที่ภาพรวมด้านคุณภาพสินเชื่อก็ยืดหยุ่นและแข็งแกร่งด้วย NPL ratio ที่ลดลงเหลือ 2.7% ใน 1Q22 ขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญนั้นสูงกว่า 131.6% เพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น พร้อมคาดอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิจะเร่งตัวเป็น 18% YoY ในปี 2022 (2021: +4%) หนุนจากการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง และการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ

ประเมินทิศทาง SET INDEX วันนี้กรอบ 1675 – 1686 อาจมีจังหวะของการปรับตัวขึ้นบ้างตามจิตวิทยาเชิงบวก เช้านี้จากตลาดหุ้นเอเชีย แต่ยังเชื่อว่าไปได้ไม่ไกลผลพวงจาก Valuation ที่มิได้ถูก และยังเสี่ยงต่อการปรับลด ประมาณการในช่วงถัดไป เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังไม่เร่งร้อนเข้าลงทุน แต่สำหรับระยะสั้นแนะ (KKP TTB) ธุรกิจที่ หนี้น้อย (M) ท่องเที่ยวที่ยัง Laggard (SPA) ได้ประโยชน์บาทอ่อน (TU)

PLANB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 9 บาท) คาดรายได้ธุรกิจสื่อโต 32% ในปี 2022 หนุนจากการรับรู้รายได้จากกำลังการผลิตสื่อใหม่ในกลุ่มดิจิทัลและสื่อภาพนิ่ง (หลักๆ มาจากการเข้าซื้อ Aqua) และสื่อในร้านค้าอย่าง 7-11 (8% ของ รายได้ปี 2021)

TU (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 22 บาท) แม้คาด 1Q22 TU มีกำไรสุทธิ 1,483 ลบ. (-18%YoY,-23%QoQ) แรงกดดัน หลักมาจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเรื่องค่าขนส่ง ปัญหาเงินเฟ้อ และค่าจ่ายทางการตลาด แม้ว่ารายได้ คาดว่าจะโตถึง 13%YoY มาอยู่ที่ 35,101 ลบ. จากผลดีของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง (แต่ลดลง 9%QoQ เป็นผล ตามฤดูกาล) แต่เชื่อว่าราคาหุ้นปรับฐานสะท้อนไป พอสมควรแล้ว ขณะที่ 2Q22 คาดว่าจะเห็นผลจากการเจรจาปรับราคากับลูกค้าได้บางส่วน

 

*หมายเหตุ ชุดหุ้นที่แนะนำเหมาะสำหรับการซื้อเพื่อถือลงทุน 1-14 วัน หากนักลงทุนมีกำไรก็สามารถทำกำไรได้ โดยแนะตั้ง Stop loss หากขาดทุนเกินกว่า 5% ส่วนราคาเป้าหมายเป็นราคาภายใน 1 ปีจากปัจจุบันที่มาจากปัจจัยพื้นฐาน

- Advertisement -