ยังเน้นเลือกเก็งกำไรรายตัว
- ผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์โดยรวมดีกว่าคาด ผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยรวมออกมาใกล้เคียงถึงดีกว่าคาด ขณะที่ทิศทางของการตั้งสำรองลดลง ล่าสุด KBANK รายงานกำไรไตรมาส 1/65 ที่ 11,211 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด เป็นปัจจัยบวกที่อาจทำให้กลุ่มธนาคารพาณิชย์ช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายในช่วงสั้น และมีบทบาทช่วยหุ้นกลุ่มเปิดเมืองในการประคองภาพของดัชนีหุ้นไทย ซึ่งหากผ่าน 1,680-1,685 จุด SET Index จะมีลุ้นทดสอบ 1,700 จุด อย่างไรก็ตาม ยังคงมุมมองระมัดระวังความผันผวนจากการปรับพอร์ต, การ rotation และที่จะเกิดจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะดึงคงตัวมากขึ้น ทำให้ยังคงมุมมองเน้นเลือกเก็งกำไรระหว่างรอจุดซื้อที่ดี
- ผลตอบแทนพันธบัตรที่ชะลอตัวในระยะสั้น เป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง การรายงานผลประกอบการที่ดี, ความเห็นของผู้บริหาร P&G ที่มองว่ายังไม่เห็นสัญญาณของเศรษฐกิจถดถอยในระยะเวลาอันใกล้ รวมทั้งผลการประมูลพันธบัตรสหรัฐฯ ที่มีสัญญาณของความต้องการที่ดี ประกอบกับการตอบรับการขึ้นดอกเบี้ยปีนี้เป็นส่วนใหญ่แล้ว ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรในระยะสั้นมีโอกาสชะลอถึงปรับลดลง ซึ่งจะเป็นบวกต่อการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี (หรืออิเล็คทรอนิกส์ในไทย) เช่น KCE, ANA รวมทั้งกลุ่มที่ไวต่อผลตอบแทนพันธบัตรที่ถูกกดดกันมานาน อาทิ หุ้นที่มีรายได้จากการเช่าและกอง REITs อาทิ MBK, WHART, FTREIT เป็นต้น // สำหรับหุ้นพลังงาน เราชอบเพียงกลุ่มโรงกลั่น ที่น่าจะรายงานกำไรไตรมาส 1/65 ในระดับดีมาก จากค่าการกลั่นที่สูง (หุ้นเด่น คือ TOP) ขณะที่อาจจับตากลุ่มสถานีบริการน้ำมันที่น่าจะเริ่มฟื้นตัว จากราคาพลังงานที่เริ่มทรงตัว และ การยกเลิกการตรึงราคาดีเซล อาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้หุ้นปั๊มน้ำมันเริ่มฟื้นตัว
ประเด็นเก็งกำไรอื่น
1) กลุ่มท่องเที่ยว CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR
2) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO,
3) กลุ่มมีลุ้นเข้า SET50 ได้แก่ JMT, JMART
4) กอง REIT ได้แก่ FIREIT, WHART
5) ขณะที่หุ้นกลาง-เล็กที่สามารถเลือกเก็งกำไร (แบบกำหนดจุดตัดขาดทุน) ในช่วงนี้ ได้แก่ PJW, TTCL, THREL, BLA, MAJOR, WORK, TH, SCN, SCI, FSMART, KAMART, CMR, TKN, SPA
ภาพรวมกลยุทธ์: ยังแค่แกว่งตัว ลุ้นผ่าน 1,680-1,685 จุด เพื่อยกกรอบการเล่นขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังคงมุมมองระมัดระวังสำหรับไตรมาส 2/65 ที่อัพไซต์อาจจะจํากัดจากการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทําให้ภาพรวมกลยุทธ์ยังเป็นเพียงการเลือกเก็งกําไรรายตัว ระหว่างรอตลาดและหุ้นรายตัวปรับลงจนถึงจุดซื้อที่ดี
หุ้นแนะนำ: WHART*, TTCL*, MAJOR*, SPA*
แนวรับ: 1,668–1,670 / แนวต้าน : 1,680-1,685 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
ประเด็นการลงทุน
- ศบค.ปรับแผน อยู่กับโควิด ชีวิตปลอดภัย-ศก.เดินหน้า – นายกฯ ถก “ศบค ชุดใหญ่” 22 เม.ย.นี้ ประเมินสถานการณ์ “โควิด” หลัง “สงกรานต์” เตรียมปรับมาตรการเข้าออกประเทศทุกช่องทาง เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจไทย “อนุทิน” ชงเข้าประเทศตรวจ ATK ลดกักตัวเสี่ยงโควิดสูง แค่ 5 วัน
- สะพัด! RAM ควบ EKH ผงาดหุ้นใหญ่เบอร์หนึ่ง – ลือสะพัด! RAM เตรียมเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน PP ของ EKH สัดส่วนเกิน 25% เล็งควบรวมกิจการ พร้อมผงาดขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง “วงการเงิน” คาดราคาเพิ่มทุนน่าจะอยู่ 8.60-9.00 บาท
- สหรัฐเผยยอดขายบ้านมือสองต่ำกว่าคาดในเดือน มี.ค. – สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 2.7% สู่ระดับ 5.77 ล้านยูนิตในเดือน มี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.80 ล้านยูนิต จากระดับ 5.93 ล้านยูนิตในเดือน ก.พ. เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านดิ่งลง 4.5% ในเดือน มี.ค.
- EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางคาดการณ์ – สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 8.0 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล
- หุ้นที่มีโอกาสเข้าเกณฑ์ Cash Balance – SET : JDF, SNNP และ SISB / MAI : ABM, IND, ARIN, NBC, GSC, BE8 และ ALL
ประเด็นติดตาม: 21 เม.ย. EU CPI เดือน มี.ค., Fed Chair Powell Speaks, ECB President Speaks / 22 เม.ย. – US Manufacturing PMI, TH ศบค. ขยายมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม / 26 เม.ย.- US ความเชื่อมั่นผู้บริโภค, US ยอดขายบ้านใหม่ / 27 เม.ย. – U.S. Pending Home Sales
ประเด็นลงทุนสําหรับหุ้นแนะนำ
- เก็งกำไร WHART* (13) : มีโอกาสฟื้นตัวดี หลัง bond yield ชะลอตัว ขณะที่งบคาดฟื้นตัวดีจากรายการพิเศษที่กดดันไตรมาส 4/65 ตัดขาดทุน 10.90 บาท
- เก็งกำไร TTCL* (6) : คาดผลการดำเนินงานมีแนวโน้ม tumaround ตัดขาดทุน 4.80 บาท
- เก็งกำไร MAJOR* (22) : กระแสเงินสดแข็งแกร่ง และผลการดำเนินงานฟื้นตัวจากการเปิดประเทศและหน้าหนังที่ดี ตัดขาดทุน 19.50 บาท
- เก็งกำไร SPA* (9.00) : หุ้นเปิดเมืองที่ยัง taggard ขณะที่โควิดทำให้ได้รับโอกาสบริหารสปาให้โรงแรมจำนวนมาก ตัดขาดทุน 7.20 บาท
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
Market News & Factors
- ตลาดหุ้นสหรัฐ: ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 35,000 จุดในวันพุธ (20 เม.ย.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงไอบีเอ็ม และพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ร่วงลงกว่า 100 จุด หลังจากบริษัทเน็ตฟลิกซ์เปิดเผยจำนวนสมาชิกทั่วโลกลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี (อินโฟเควสท์)
- ตลาดหุ้นยุโรป: ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (20 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการเชิงบวกของบริษัทจดทะเบียนในยุโรป แม้นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน, การชะลอตัวของเศรษฐกิจ และการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรก็ตาม (อินโฟเควสท์)
- ตลาดหุ้นญี่ปุ่น: ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวก เนื่องจากการอ่อนค่าลงของเงินเยนสู่ระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบ 20 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออก โดยนักลงทุนคาดว่าส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐกับญี่ปุ่นจะกว้างขึ้นอีก ดัชนีนิกเกอิปิดที่ระดับ 27,217.85 จุด เพิ่มขึ้น 232.76 จุด หรือ +0.86% (อินโฟเควสท์)
- ตลาดน้ำมัน: สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (20 เม.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ดี ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน (อินโฟเควสท์)
- ศบค.ปรับแผน ‘อยู่กับโควิด’ ชีวิตปลอดภัย-ศก.เดินหน้า: นายกฯ ถก “ศบค.ชุดใหญ่” 22 เม.ย.นี้ ประเมินสถานการณ์ “โควิด” หลัง “สงกรานต์” เตรียมปรับมาตรการเข้าออกประเทศทุกช่องทาง เดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจไทย “อนุทิน” ซึ่งเข้าประเทศตรวจ ATK ลดกักตัวเสี่ยงโควิดสูง แค่ 5 วัน (กรุงเทพธุรกิจ)
- สะพัด! RAM ควบ EKH ผงาดหุ้นใหญ่เบอร์หนึ่ง: ลือสะพัด! RAM เตรียมเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน PP ของ EKH สัดส่วนเกิน 25% เล็งควบรวมกิจการ พร้อมผงาดขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง “วงการเงิน” คาดราคาเพิ่มทุนน่าจะอยู่ 8.60-9.00 บาท (ข่าวหุ้น)
- สหรัฐเผยยอดขายบ้านมือสองต่ำกว่าคาดในเดือน มี.ค.: สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 2.7% สู่ระดับ 5.77 ล้านยูนิตในเดือน มี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.80 ล้านยูนิต จากระดับ 5.93 ล้านยูนิตในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านดิ่งลง 4.5% ในเดือน มี.ค. (อินโฟเควสท์)
- EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงสัปดาห์ที่แล้วสวนทางคาดการณ์: สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 8.0 ล้าน บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล (อินโฟเควสท์)
- หุ้นที่มีโอกาสเข้าเกณฑ์ Cash Balance: SET: JDF, SNNP และ SISB / MAI: ABM, IND, ARIN, NBC, GSC, BE8 ALL (UOBKayhian)
Report & Corporate News
- TTB Maintained BUY TP: 1.48 บาท: TTB ประกาศผลประกอบการใน 1Q22 ดีกว่าคาดที่ 3.2 พันลบ. (+15% yoy, +14% qoq) จากการตั้งสำรองและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาด ในขณะที่เศรษฐกิจไทยอยู่ภายใต้แรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อที่สูง และการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน เราเชื่อว่า TTB จะมีผลงานดี เนื่องจากคุณภาพสินทรัพย์ที่มีการควบคุมอย่างดี และ upside มากขึ้นจากการประหยัดต้นทุน คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย: 1.48 บาท
- FSMART: เตรียมบันทึกส่วนแบ่งกำไร “เต่าบิน” ปีแรก เสนอแผนถือหุ้นเพิ่มจากเดิม 19.34% พร้อมเร่งติดตั้งตู้เพิ่ม 1.1 พันตู้ หวังสิ้นปีมีตู้แตะ 5.5 พัน จัดตายอดเติมเงินฟื้นครึ่งปีหลัง ตั้งเป้ารายได้ปี 65 โต 10-15% (ทันหุ้น)
- RAM: เตรียมเข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน PP ของ EKH สัดส่วนเกิน 25% เล็งควบรวมกิจการ พร้อมผงาดขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ คาดราคาเพิ่มทุนอยู่ที่ 8.60-9.00 บาท หวังเพิ่มอำนาจต่อรอง (ข่าวหุ้น)
- MTC: ปี 65 ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อจะขยับขึ้นไปแตะที่ระดับ 100,000 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจหลักคือ เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) และธุรกิจที่ตั้งขึ้นใหม่ คือ เมืองไทย ลิสซิ่ง (MTLS) และเมืองไทย เพย์ เลเทอร์ (MTPL) เป็นธุรกิจที่จะเข้ามาสนับสนุนการทำธุรกิจในอนาคต โดยมีการวางแผนการทำตลาดทั้งลูกค้าเดิมที่มีประวัติการชำระหนี้ดี และการเข้าหาลูกค้าใหม่ที่มีความต้องการใช้บริการผ่านการดำเนินงานของสาขาที่มีบริการมากกว่า 5,800 สาขา กระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงการเปิดสาขาใหม่กว่า 700 สาขาต่อปี (อินโฟเควสท์)








