บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +25.2%

Close Apr 20, 2022 Price (THB) 11.50

12M Target (THB) 14.40

Previous Target (THB) 14.40

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 1Q65 ที่ 139 ลบ. (+4.6%QoQ, 14.1%YoY) เติบโต QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และเติบโต YoY จากตลาดชาเขียวพร้อมดื่มที่ฟื้นตัวเด่นราว 25-30% YoY ขณะที่ต้นทุนที่สูงขึ้น ถูกชดเชยได้ด้วยราคาขายส่งที่ปรับขึ้น และอัตราการใช้กําลังการผลิตที่สูงขึ้นเป็นราว 58% จาก 50% ในปี 2564 ช่วยลดต้นทุนคงที่ต่อหน่วย
  • คาดแนวโน้มกำไร 2Q65 เบื้องต้นที่ 170-190 เป็นจุดสูงสุดของปี เพราะเป็น High Season ของธุรกิจ และเตรียมรับรู้รายได้ OEM เพิ่ม

Our view

  • เรายังคงมุมมองบวกต่อผลการดำเนินงานในระยะยาวของ ICHI คาดกำไรปี 2565 จะเติบโตเด่นจากสินค้าหลักอย่างชาเขียว และหนุนด้วยรายได้ของธุรกิจ OEM ที่จะชัดเจนมากขึ้น รวมถึงสินค้าใหม่ในกลุ่มเครื่องดื่มอัดก๊าซ และกลุ่ม CBD
  • ปัจจุบันซื้อขายที่ PER65 ต่ำเพียง 23 เท่า ยังต่ำกว่าผู้เล่นอื่นเช่น OSP, CBG และ SNNP ที่ซื้อขายที่ 28 เท่า 26 เท่า และ 33 เท่า ตามลำดับ คงคำแนะนำ “ซื้อ” คงราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 ที่ 14.40 บาท

ICHITAN GROUP “ซิเมโจได๋” กําลังจะกลับมา

คาดกำไร 1Q64 เติบโตทั้ง QoQ และ YoY

เราคาดรายได้ของ ICHI ใน 1Q65 ที่ 1,444 ลบ. (+12.0%QoQ, +12.1%YoY) จากปัจจัยฤดูกาลที่เริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน และปริมาณขายในประเทศที่เติบโตแข็งแกร่งตามแนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดชาเขียว พร้อมดื่มที่คาดเติบโตราว 25-30%YoY แข็งแกร่งกว่ากลุ่มเครื่องดื่มโดยรวม ขณะที่รายได้ส่งออกพื้นตัวได้ในกัมพูชาหลังสถานการณ์ COVID-19 คลี่คลาย คาด GPM ที่ 18.2% ทรงตัว QoQ และเพิ่มขึ้นจาก 17.3% ใน 1Q64 แม้จะเริ่มได้รับผลกระทบของต้นทุนบรรจุภัณฑ์ที่สูงขึ้น แต่ชดเชยด้วยราคาขายส่งที่ปรับขึ้น 1-3% และอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้น โดยคาดอัตราการใช้กำลังการผลิตใน 1Q65 อยู่ที่ราว 58% เพิ่มขึ้นจากค่าเฉลี่ยปี 2564 ที่ 50% SG&A/Sales คาดที่ 8.3% ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจในอินโดนีเซียคาดที่ 19 ลบ. เติบโต 39.7%YoY แข็งแกร่งต่อเนื่องจากการขยายช่องทางจัดจำหน่ายและสินค้าเป็นที่นิยมมากขึ้น คาดกำไรปกติ 1Q65 ที่ 139 ลบ. (+4.6%QoQ, +14.1%YoY)

แนวโน้มกำไรเร่งตัวขึ้นต่อใน 2Q65 และเริ่มรับรู้รายได้จาก OEM มากขึ้น

เราคาดแนวโน้มกำไรใน 2Q65 เบื้องต้นในกรอบ 170 – 190 ลบ. เติบโตทั้ง QoQ และ YoY เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ และบริษัทเตรียมเปิดตัวพันธมิตร OEM รายใหญ่อย่างน้อย 2 ราย หนุนรายได้ใน 2Q65 และจะเริ่มรับรู้มากขึ้นใน 3Q65 เป็นต้นไป ส่วนเครื่องดื่มใหม่ อาทิ เครื่องดื่มอัดก๊าซ (CSD) คาดจะเปิดตัวในเดือนมิ.ย. ขณะที่การเปิดตัวเครื่องดื่มผสมสาร CBD อาจชะลอออกไปเป็น 3Q65 เนื่องจากอยู่ระหว่างรอผลการพิจารณาจากทางอย. แต่ไม่มีผลกระทบต่อประมาณการกำไร เพราะเรายังไม่ได้ใส่ไว้ในประมาณการ นอกจากนี้บริษัทให้ข้อมูลว่าอยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้าใหม่นอกเหนือจากเครื่องดื่มร่วมกับบริษัทอาหารรายใหญ่ของโลก คาดจะเป็น Catalyst ให้กับราคาหุ้นและเป็น Upside ต่อประมาณการของเรา

เราประเมินว่าสินค้าใหม่ และธุรกิจ OEM จะเป็นเพียงส่วนเสริมกำไรในปี 2565 ของ ICHI เท่านั้น แต่การเติบโตหลักในปีนี้จะมาจากกลุ่มชาเขียวที่เป็นสินค้าหลักของบริษัท จากการฟื้นตัวของตลาดชาเขียวที่กลับมาเติบโตชัดเจนในปีนี้ หลังชะลอตัวต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 – 2563 และด้วยเป้าการเติบโตของรายได้ของบริษัทที่ 24% เป็น 6,500 ลบ. นั้นสูงกว่าประมาณการของเราอยู่ 11.3% ดังนั้นหากผลประกอบการใน 1H65 ดีกว่าที่เราคาดมีโอกาสที่เราจะปรับประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายขึ้นได้ เราคงประมาณการกำไรปี 2565 ที่ 594 ลบ. (+8.6%YoY) และระยะยาวผลการดำเนินงานมี Upside จากการลงทุนในบริษัท Digital Analytic อย่าง Predictive

เป็นปีทองของกลุ่มชาเขียว เลือกเป็น Top pick กลุ่มเครื่องดื่มปี 2565

เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการของ ICHI ในปี 2565 ที่จะเติบโตต่อเนื่องแม้มีปัจจัยกดดันด้านต้นทุน แต่ชดเชยด้วยการกลับมาเติบโตเด่นของกลุ่มสินค้าหลัก และสัดส่วนรายได้ธุรกิจ OEM ที่จะรับรู้มากขึ้น หนุนอัตรากำไรสุทธิ คงคำแนะนำ “ซื้อ” ICHI ที่ราคาเป้าหมาย 14.40 บาท ปัจจุบันซื้อขาย ด้วย PER65 ต่ำเพียง 25 เท่า เทียบกับ CBG, OSP และ SNNP ที่ 31 เท่า, 27 เท่า และ 34 เท่า ตามลำดับ แม้ ICHI จะมีการเติบโตของผลประกอบการที่แข็งแกร่งกว่า และเลือก ICHI เป็น Top pick ของกลุ่มเครื่องดื่มในปี 2565 นอกจากนี้บริษัทจะขึ้น XD วันที่ 5 พ.ค. ให้ผลตอบแทน 4.3% ช่วยจำกัด Downside risk ในระยะสั้น

- Advertisement -