ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐในคืนนี้ วันนี้แนะ ASIAN
ภาพรวมวันนี้เป็นกลางๆ ตลาดหุ้น Dow Jones ปรับฐานลงมาเล็กน้อยราว 0.26% หลักๆ นักลงทุนยังคงกังวลถึง แนวโน้มดอกเบี้ย FED ที่มีโอกาสเร่งตัวขึ้น สวนทางกับที่ประธาน FED ให้ข้อมูลไว้ ด้านราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับ ฐานต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีกราว 3.28% หลักๆ นักลงทุนกังวลกับสถานการณ์ COVID-19 ในจีนจากการ Lock Down ที่จะส่งผลให้อุปสงค์หายไป ขณะที่ฝั่ง EU การคว่ำบาตรพลังงานจากรัสเซียยังไม่ถูกประกาศออกมาอย่าง เป็นทางการ ระยะสั้นมีหุ้นได้ประโยชน์ อาทิ (BGC OSP SCC SCGP TASCO TOA) ด้านปัจจัยในประเทศยังเป็น เรื่องของผลประกอบการ 1Q22 สำหรับ SET100 ล่าสุด รายงานออกมาแล้วราว 37 บริษัทหรือคิดเป็น Market Cap ของ SET INDEX ราว 38% พบว่ามีกำไรสุทธิรวมกัน ที่ 9.68 หมื่นล้านบาท (+20%QoQ, -7.2%YoY) การขยายตัว QoQ ได้แรงหนุนจากกลุ่มโภคภัณฑ์ อาทิ (BANPU) รวมไปถึงกลุ่มธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB) ส่วนการลดลง YoY เป็นผลจาก (GPSC) ตามต้นทุนแก๊สที่ปรับขึ้นกดดันกำไร รวมไปถึงกลุ่มยาง (STA STGT) รับแรงกดดันจากราคาถุงมือยางที่ปรับลง และสุดท้าย กลุ่มปิโตรเคมี (SCC)
ปัจจัยติดตามสำคัญคืนนี้ได้แก่การรายงานตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ โดยเฉพาะดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เบื้องต้น Bloomberg คาคที่ 8.1%YoY, 0.2%MoM ส่วน Core PCI คาดที่ 6%YoY 0.4%MoM เป็นที่น่าสังเกตว่าเงินเฟ้อสหรัฐจะคล้ายกับว่าหาจุดสูงสุดไม่เจอ สะท้อนผ่านการขยายตัว MoM ที่ยังดำเนินต่อไป ส่วนพรุ่งนี้ติดตาม PPI (ดัชนีราคาผู้ผลิต) Bloomberg คาดที่ 10.7% YoY, 0.5% MoM
วันนี้ประเมิน SET กลับมาเคลื่อนไหวกรอบ 1615-1627 เชื่อว่านักลงทุน Wait & See รอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ สหรัฐในคืนนี้ ประกอบกับเช้านี้ Nikkei ก็เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เพียง 0.5% เชิงกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นแนะ Trading ในกลุ่มส่งออกอาหาร (ASIAN TU) รวมถึง กลุ่มที่มีสินค้าโภคภัณฑ์เป็นต้นทุน (BGC OSP SCC SCGP TASCO TOA)
ASIAN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 23 บาท) ประเมินกำไรฟื้นตัวตั้งแต่ 2Q22 จากรายได้อาหารสัตว์เลี้ยงที่แข็งแกร่งขึ้น หนุนจากกำลังการผลิตใหม่และอัตรากำไรที่ปรับดีขึ้นจากแรงกดดันด้านตนทุนที่ผ่อนคลายลง
BJC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 40 บาท) คาดว่าผลประกอบการจะค่อยๆ ดีขึ้นในปี 22 และฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับก่อนโควิด-19 ในปี 24 หนุนจาก 1) ผลประกอบการธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (BigC) ที่ดีขึ้น 2) ยอดขายธุรกิจบรรจุภัณฑ์ฟื้นตัวที่แข็งแกร่งทั้งในไทยและเวียดนาม 3) รายได้ค่าเช่าฟื้นตัวจากการให้ส่วนลดค่าเช่าที่ลดลง
*หมายเหตุ ชุดหุ้นที่แนะนำเหมาะสำหรับการซื้อเพื่อถือลงทุน 1-14 วัน หากนักลงทุนมีกำไรก็สามารถทำกำไรได้โดย แนะตั้ง Stop loss หากขาดทุนเกินกว่า 5% ส่วนราคาเป้าหมายเป็นราคาภายใน 1 ปีจากปัจจุบันที่มาจากปัจจัยพื้นฐาน