บล.พาย: 

บมจ. ซีพี ออลล์ (CPALL) “1Q22 กําไรโตดี หลังมีโลตัสมา”

1Q22 กำไรสุทธิ 3,453 ลบ. (+33% YoY, -48%Q%Q)

CPALL มีกำไรสุทธิ 1Q22 ที่ 3,453 ลบ. (+33%YoY, -48%QoQ) แต่ถ้าดูเฉพาะกำไรปกติจะมีกำไร 3,502 ลบ. (+38%YoY, +25%QoQ) การฟื้นตัวดังกล่าวเป็นการเพิ่มทั้งธุรกิจร้านสะดวกซื้อของ CPALL เอง หลังภาครัฐผ่อนคลายมาตรการโควิด และการรวมงบของโลตัสเข้ามาเต็มไตรมาส (ผ่าน MAKRO) รายได้อยู่ที่ 194,409 ลบ. (+51%YoY, +8%QoQ) เติบโตแรงจากปีก่อน เพราะมีการรวมงบโลตัสเข้ามา รวมถึงยอดขายต่อสาขาเดิม (Same Store Sale Growth) เพิ่มขึ้นถึง 13% โดย CPALL ยังคงเปิดสาขาใหม่ 113 สาขา กำไรขั้นต้นที่ระดับ  21.5% ดีขึ้นจาก 21.2% ใน 1Q21 เพราะธุรกิจของโลตัสมีกำไรขั้นต้นสูงกว่า MAKRO แต่ลดลงจาก 21.6% ใน 4Q21 ส่วนหนึ่งเกิดจากต้นทุนที่ปรับตัวเพิ่ม และสินค้าในกลุ่มอิ่มคุ้มได้รับการตอบรับที่ดี ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอยู่ที่ 38,295 ลบ. (+46%YoY, +5%QoQ) ส่วนใหญ่มาจากค่าพนักงานตามจำนวนที่เพิ่มขึ้น รายได้อื่น 5,253 ลบ. (+10%YoY, 5%QoQ) ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน 224 ลบ. (+528%YoY, +51%QoQ) ดอกเบี้ยจ่าย 3,825 ลบ. (+32%YoY, +5%QoQ)

ร้านสะดวกซื้อยังดี แต่โลตัสมีค่าใช้จ่ายมาก

ภาพรวมธุรกิจร้านสะดวกซื้อยังดูดี ได้รับปัจจัยบวกสำคัญจากแนวโน้มการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น หลังความกังวลเกี่ยวกับโควิดเริ่มลดลง เห็นได้จากในช่วง 1Q22 ที่มีจำนวนผู้เข้าร้านต่อวันอยู่ที่ 871 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีเพียง 805 คน ซึ่งคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีหลังจากภาครัฐมีการเปิดประเทศแล้วจะทําให้จำนวนนักท่องเที่ยวเริ่มฟื้น และส่งผลดีกับ CPALL ที่จะมีการเติบโตได้ต่อ สำหรับธุรกิจของ MAKRO ยังคงเห็นการเติบโตได้ต่อเนื่องเช่นกัน รวมถึงจะได้รับผลดีจากการคืนเงินกว่า 18,000 ลบ. แต่สำหรับโลตัสอาจจะยังไม่ดีนัก เพราะยังมีค่าใช้จ่ายในส่วนของระบบ IT กว่า 8,000 ลบ. (ส่วนนี้ทยอยรับรู้ค่าใช้จ่าย 10 ปี) และการ Re-Brand (รวมกันกว่า 800 ลบ. ในช่วง 2 ปีนี้) อยู่ ทำให้จะเป็นตัวกดดันผลประกอบการโดยรวมได้ แต่แรงกดดันดังกล่าวคาดว่าจะค่อยๆ ดีขึ้นในช่วง 4Q22 เป็นต้นไป ด้านการเปิดสาขาใหม่ในส่วนของในประเทศยังคงตั้งเป้าที่ 700 สาขา ส่วนต่างประเทศที่กัมพูชามีแล้วกว่า 10 สาขา ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ขณะที่ลาวยังคงตั้งเป้าจะเปิดอย่างน้อย 1 สาขา

คาดกําไรทั้งปี 22 กลับมาขยายตัวโดดเด่น

จากผลประกอบการในช่วง 1Q22 ปรับตัวเพิ่มอย่างโดดเด่น ขณะที่แนวโน้มในช่วง 2Q22 คาดว่ายังดีเมื่อเทียบกับปีก่อน หลังจากรับรู้โลตัสเข้ามา แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นของทาง MAKRO ทําให้เราปรับกำไรสุทธิลงจากเดิมเล็กน้อย มาอยู่ที่ 17,072 ลบ. (+32%YoY) สำหรับคำแนะนำการลงทุนแม้แนวโน้มจะเห็นการเติบโตดี แต่ด้วยส่วนต่างกับมูลค่าพื้นฐานที่เราประเมินไว้ที่ 66.5 บาท (35XPER’22E) เพียง 5% ดังนั้นในมุมพื้นฐานเราจึงแนะนำ “ถือ” หรือรอซื้อในช่วงที่อ่อนตัวแทน

- Advertisement -