บล.พาย:
CKP: ต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูง ฉุดกําไร 1Q22 ลง
กำไรสุทธิ 1Q22 อยู่ที่ 39 ล้านบาท (-66% YoY, -68% QoQ) ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด
- กำไรปรับลดลงจากอัตรากำไรของโรงไฟฟ้าพลังก๊าซ BIC ที่อ่อนแอ ซึ่งได้รับผลกระทบจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น รวมถึงยอดขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ NN2 ที่ลดลงจากปริมาณน้ำที่ลดลง
- อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ปรับลดลงเป็น 14% เทียบกับ 27% ใน 1Q21 เป็นผลจากอัตรากำไรของโรงไฟฟ้าพลังก๊าซ 2 BIC ที่อ่อนแอ ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 2 เท่า YoY เป็น 442 บาท/mmBTU
- คาดถึงภาพรวมเชิงบวกใน 20-3022 ประเมินว่าบริษัทจะได้ประโยชน์มากที่สุดจากช่วง high season โรงไฟฟ้าพลังน้ำ (ช่วงมรสุม) เพราะบริษัทมีโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่คิดเป็น 82% ของพอร์ตทั้งหมด คาดส่วนแบ่งกำไร จากโครงการ XPCL พลิกเป็นบวกใน 2Q22 และแตะจุดสูงใน 3Q22 ของ
คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 6.40 บาทคำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) (7.6% WACC, 1% TG) อิง 23x PE22E คาดช่วง high season ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน 20-3022 จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญเชิงบวกต่อ ทิศทางราคาหุ้น
สรุปผลประกอบการ
- กำไรสุทธิ 1Q22 อยู่ที่ 39 ลบ. (-66% YoY, -68% QoQ) ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด
- กำไรปรับลดลงจากอัตรากำไรของโรงไฟฟ้าพลังก๊าซ BIC ที่อ่อนแอ ซึ่งได้รับผลกระทบจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น รวมถึง ยอดขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ NN2 ที่ลดลงจากปริมาณน้ำที่ลดลง
- รายได้อยู่ที่ 2.4 พันล้านบาท (+22% YoY, +8% QoQ) โตขึ้น YoY และ QoQ หนุนจากรายได้การขายไฟฟ้าของโครงการ BIC ที่สูงขึ้น เนื่องจากมีการปรับค่าไฟฟ้าตามต้นทุนก๊าซส่วนหนึ่ง
- GPM ปรับลดลงเหลือ 14% เทียบกับ 27% ใน 1Q21 เป็นผล จากอัตรากำไรของโรงไฟฟ้าพลังก๊าซ BIC ที่อ่อนแอ ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 2 เท่า YoY เป็น 442 บาท/mmBTU
- ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมพลิกเป็นขาดทุน 2.0 ล้านบาท เทียบกับกำไร 11.0 ล้านบาทใน 4Q21 มีสาเหตุจากช่วง low season สำหรับธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (XPCL)
Revenue breakdown
บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจำนวน 1.0GWe ในพอร์ตโฟลิโอ ทั้งที่ดำเนินงานในทางตรงและทางอ้อม ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ก๊าซธรรมชาติ และพลังแสงอาทิตย์
ในปี 2021 รายได้จากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าก๊าซคิดเป็น 58% ของรายได้รวม จากโรงไฟฟ้าพลังน้ำ คิดเป็น 40% ของรายได้รวม พลังงานแสงอาทิตย์คิดเป็น 2% ของรายได้รวม ในขณะที่รายได้อื่นๆ และ รายได้จากการบริหารโครงการคิดเป็น 3% ของรายได้รวม
นอกจากนี้บริษัทยังได้ลงทุนถือหุ้นอยู่ในบริษัทร่วมอื่นๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศรวม 550MWe (คิดเป็น 54% จากทั้งหมด 1.0GWe) โดยในปี 2021 รายได้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมและกิจการร่วมค้าที่บริษัทรับรู้กำไรเข้ามานั้นมีถึง 1.5 พันล้านบาท