เมื่อวานที่ผ่านมาสภาพัฒน์ได้รายงาน GDP 1Q22 ขยายตัว 2.2%YoY ดีกว่าตลาดคาดการณ์ที่ 1.7%YoY แต่มีการปรับลด GDP Growth 22 เหลือ 3%YoY จาก 4%YoY ในประมาณครั้งก่อน โดยเครื่องยนต์เศรษฐกิจที่ทางสภาพัฒน์ปรับลงจากประมาณการครั้งก่อน ได้แก่ การบริโภคเอกชนจาก 4.5%YoY เหลือ 3.9%YoY การลงทุน ภาครัฐจาก 4.6%YoY เหลือ 3.4%YoY อย่างไรก็ตาม สภาพัฒน์ปรับมูลค่าส่งออกสินค้าขยายตัว 7.3%YoY จาก 4.9%YoY ขณะที่คาดดุลบัญชีต่อ GDP 22E จะติดลบราว 1.5% พร้อมปรับอัตราการขยายตัวของเงินเฟ้อมาอยู่ในกรอบ 4.25.2% จากประมาณการครั้งก่อน 1.5-2.5% จากข้อมูลเบื้องต้นเรามองเป็นบวกต่อกลุ่มส่งออก (ASIAN TU) ได้ประโยชน์ทั้งจากการประมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น รวมถึงเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าผลจากดุลบัญชี เดินสะพัดติดลบ ส่วนแนวโน้มหลังจากนี้ สภาพัฒน์มีมุมมองที่เป็นบวกต่อเครื่องยนต์การลงทุนภาครัฐ รวมถึงการลงทุนภาคเอกชน เรามองเป็นบวกต่อกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (CK STEC) รวมถึงวัสดุก่อสร้าง (SCC SCCC TOA) นอกจากนี้ยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อการท่องเที่ยว โดยทางสภาพัฒน์คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวไทยทั้งหมดในปี 22 ราว 7 ล้านคนถูกปรับเพิ่มจากประมาณการครั้งก่อน 5.5 ล้านคน มองเป็นบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA)
สำหรับ Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 1.3% รับแรงหนุนจากยอดค้าปลีกสหรัฐขยายตัว 0.9%MoM รวมถึงบริษัท จดทะเบียนรายงานผลประกอบการที่ดีกว่าคาด ส่วนราคาน้ำมันดิบ BRT เมื่อคืนปรับฐานลง 2.3% หลังสหรัฐ รายงานว่าเตรียมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรบางส่วนแก่เวเนซุเอลา ปัจจุบันเวเนซุเอลาถือเป็นผู้ผลิตน้ำมันอันดับ 12 ของโลก ระยะสั้นกระทบต่อกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) ด้านเอเชียเช้านี้ Nikkei ยังคงเคลื่อนไหวแดนบวก 1.4% โดยรวมเราประเมิน SET ยังมีโอกาสปรับขึ้นในวันนี้ประเมินกรอบ 1615 – 1622 เชิงกลยุทธ์การลงทุน แนะนำกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (CK STEC) วัสดุก่อสร้าง (SCC SCCC TOA) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) ส่งออก (ASIAN TU) โดยคืนนี้ติดตามถ้อยแถลงของประธาน FED
ASIAN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 23 บาท) คาดทิศทางกำไรที่ดีขึ้นใน 2022 หนุนจากรายได้ที่แข็งแกร่งจากกลุ่มอาหารสัตว์ก่อนที่จะมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มเข้ามา บวกกับการฟื้นตัวของอัตรากำไรจากแรงกดดันด้านต้นทุนที่ผ่อนคลายลงบวกกับเงินบาทที่อ่อนค่าลง
STEC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 16.20 บาท) กำไรงวด 1Q22 ของ STEC อยู่ที่ 232 ลบ. (+17%YoY -38%QoQ) แต่ถ้าไม่รวมรายการพิเศษในงวด 4Q21 อย่างรายได้จากการประเมินมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ 141 ลบ. กำไรปกติจะใกล้เคียงกัน) กำไรขั้นต้นรวมที่ 5.7% ดีขึ้นจาก 5.1% ใน 1Q21 และ 5.6% ใน 4Q21
*หมายเหตุ ชุดหุ้นที่แนะนำเหมาะสำหรับการซื้อเพื่อถือลงทุน 1-14 วัน หากนักลงทุนมีกำไรก็สามารถทำกำไรได้ โดยแนะตั้ง Stop loss หากขาดทุนเกินกว่า 5% ส่วนราคาเป้าหมายเป็นราคาภายใน 1 ปีจากปัจจุบันที่มาจากปัจจัยพื้นฐาน