Daily Focus Value and Selective Play
2022 SET Target: 1770
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นได้แข็งแรงกว่าที่เราคาด ทะลุ 1,600 จุด ขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่ง แลปิดบวกถึง 30.11 จุด ณ สิ้นวัน จากเม็ดเงินที่พลิกไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงระยะสั้น สถาบันในประเทศและนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นหนาแน่น 2.7 พันลบ.และ 3.2 พันลบ. ตามลำดับ (ต่างชาติ Long SET50 Index Futures sokcojo 3.8 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index ยัง Rebound ได้ต่อเนื่องทดสอบแนวต้านหลัก 1,620-1,630 จุด จากบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายมากขึ้น ระยะสั้นเม็ดเงินไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงหลังจากไหลออกอย่างรุนแรงในช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม เราประเมินโอกาสทะลุผ่านแนวต้านหลักดังกล่าวยังเนื่องจากภาพรวมทั่วโลกยังขาด ปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจน ประธาน FED ยังคงเน้นย้ำถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องจนกว่าเงินเฟ้อจะอ่อนลงสู่ระดับที่เหมาะสม ขณะที่เศรษฐกิจโลกเริ่มเติบโตชะลอ ทั้งจากผลของสงครามและ COVID-19 ในจีน ส่วนเศรษฐกิจไทยทยอยเร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะ 2H22 จากภาคการท่องเที่ยวที่จะฟื้นชัด กลยุทธ์เรายังคงเน้นลงทุนหุ้น Value Play ที่มี PER/PBV และมีแนวโน้มกำไร 2Q22 ที่แข็งแรงต่อเนื่อง สำหรับการลงทุนระยะกลาง-ยาวยังไม่แนะนําเพิ่มพอร์ต หลังให้สะสมไปแล้วบริเวณ 1,600 จุดต้นๆ โดยแนะนําถือลงทุนต่อเนื่อง
กลยุทธ์ : เน้นลงทุนหุ้น Value Play ที่แนวโน้มกําไร 2Q22-2H22 แข็งแกร่ง
หุ่นเด่นเดือน พ.ค. : GFPT, ILINK, SAPPE, SMT, TH
หุ้นเด่นวันนี้ : SAPPE
- แนะน่า “ซื้อ” มีแนวโน้มปรับราคาเป้าหมายขึ้นจาก 33 บาท
- แนวโน้มกำไร 2Q22 จะเร่งตัวเพราะเข้า High Season และมีแผนทยอยออกสินค้าใหม่มากขึ้น นอกจากนี้ยังเห็นการเติบโตของตลาดอินเดียที่เร่งขึ้นตัวและมีศักยภาพสูง
- เรามีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรปี 2022 ขึ้นจากปัจจุบันที่คาด +6% Y-Y โดยจะมีประชุมนักวิเคราะห์วันพรุ่งนี้ รวมถึงธุรกิจยังได้อานิสงส์จากบาทอ่อนที่หนุนการส่งออก
- แนวรับ 30-29 บาท แนวต้าน 33-34 บาท
Fund Flow: วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคอักเล็กน้อย US$137 ล้าน ยังคงนำโดยไทยและไต้หวัน US$93 ล้านและ US$78 ล้าน ตามลำดับ แต่ไหลออกจากเกาหลีใต้บางๆ US$43 ล้าน เม็ดเงินไหลกลับเข้าสินทรัพย์เสี่ยงและตลาดหุ้นเอเชียระยะสั้น หลังจากไหลออกรุนแรงในช่วงก่อนหน้า ขณะที่ประธาน FED ยังเน้นเดินหน้าขึ้น ดอกเบี้ยเพื่อดึงเงินเฟ้อให้ลงสู่ระดับที่เหมาะสม
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) GDP 1Q22 ไทยดีกว่าคาด +1.1% QQ, +2.2% Y-Y หนุนจากการ Reopening แม้จะถูกกระทบจากโอมิครอนที่ระบาด แต่ภาครัฐไม่มีมาตรการคุมเข้ม ทำให้การบริโภคทั้งเอกชนและภาครัฐดีขึ้น รวมถึงการส่งออกสินค้าและบริการ อย่างไรก็ตาม NESDC ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้ลงเหลือ 3% Y-Y โดยมีแรงกดดันจากผลกระทบของสงครามและเงินเฟ้อที่มากขึ้น ขณะที่หนี้ครัวเรือนในประเทศเป็นอุปสรรคในการฟื้นตัว ส่วนนโยบาย FED ที่ดึงตัวทำให้เรายังเน้นหุ้น Value Play ที่ PER/PBV ไม่สูง ได้แก่ BCP CPALL ILINK MEGA NSL ORI SAPPE SHR SNC TEG
(+) CK 1Q22 มีกำไรสุทธิ 121 ลบ. ดีกว่าจากที่ตลาดคาดว่าจะขาดทุน โดยมีการบันทึกรายได้ทําล่วงหน้าก้อนใหญ่ของโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง แนวโน้มกําไร 2Q22 คาดเร่งตัว Q-Q – Y-Y ตามความคืบหน้างานต่างๆ ที่มากขึ้น และการฟื้นตัวของ CKP และ BEM คงราคาเป้าหมาย 26 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) STEC กำไรสุทธิ 1Q22 -38 Q-Q, +17% Y-Y ดีกว่าที่คาดจาก Gross Margin ที่สูงสุดในรอบ 11 ไตรมาส จากสัดส่วนงานโรงไฟฟ้าที่สูงขึ้น และไม่มีงานรัฐสภาแล้ว แนวโน้ม 2Q22 คาดเร่งตัวหนุนจากเงินปันผลของ GULF และงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าต่างๆ ที่เดินหน้า ยังคงราคาเป้าหมาย 17 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(0) JWD กำไรปกติ -18% QQ ตามฤดูกาล และส่วนแบ่งกำไรจาก บ.ร่วม ลดลงตามฤดูกาลเช่นกัน แต่ +16% Y-Y จากการรวมกิจการขนส่งในประเทศ VNS เข้ามาตั้งแต่ 2Q21 และ EMLOG เข้ามาตั้งแต่ มี.ค. 2021 แม้ว่ากำไรจะต่ำกว่าคาด แต่ไม่มองเป็นลบ เพราะรายได้และอัตรากําไรขั้นต้นยังพื้นตัวได้ดี และมีแนวโน้มดีต่อ คงประมาณการกำไรปี 2022 +32 Y-Y คงราคาเป้าหมาย 23 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) TH กําไร 1Q22 +4% Q-Q และโตกว่า 4 เท่า Y-Y ใกล้เคียงคาด ไตรมาสนี้เป็นไตรมาสที่ 2 ที่เริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจ AMC โดย Gross Margin สูงต่อเนื่องเป็น 86% และยังคุมค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้อย่างดี ทำให้ Net Margin สูงถึง 66% กําไร 1Q22 คิดเป็น 19% ของทั้งปีที่คาด +152% Y-Y แนวโน้มยังโตต่อเนื่อง คงราคาเป้าหมาย 9 บาท แนะนํา “ซื้อ”
(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 431.17 จุด หรือ 1.34% ปิดที่ 32,654.59 จุด หลังสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนเม.ย. +0.9% M-M และ +8.2% Y-Y สอดคล้องกับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ รวมถึงบริษัทจดทะเบียนรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด
(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก หลังจีนวางแผนผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์เซี่ยงไฮ้ รวมถึงคาดการณ์ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน
(+) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับขึ้น ตามทิศทางตลาดดาวโจนส์ และจีนเตรียมผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19
(0) ค่าเงินบาท แกว่งในกรอบแคบ อยู่ที่บริเวณ 34.54 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.8 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 112.40 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีรายงานว่าสหรัฐเตรียมผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรบางส่วนแก่รัฐบาลเวเนซุเอลา ขณะที่ติดตาม EIA รายงานตัวเลขสต็อก น้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันนี้ เวลา 21.30 น.ตามเวลาไทย
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 4.9 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 1,818.9 ดอลลาร์/ออนซ์ จากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,049.21 / -4.07









