บล.พาย:
บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD) “กลับสู่วัฐจักรการเติบโตของสินเชื่ออีกครั้ง”
ประเด็นสําคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์กับผู้บริหาร
1.ดำเนินนโยบายเชิงรุกในการขยายสินเชื่อหลังจากการเปิดประเทศ โดย SAWAD คงเป้าหมายการเติบโตของพอร์สินเชื่อรวม 20-30% YoY ในปี 2022 (2021: -12% YoY) และมุ่งเน้นการขยายสินเชื่อในประเทศเป็นหลัก
2. บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล (SCAP) จะเป็น S CURVE ใหม่ของ SAWAD โดย SCAP (SAWAD ถือหุ้น 65%) มีแผนควบควมกิจการกับ BFIT (SAWAD ถือ หุ้น 81.64%) ซึ่งกระบวนการควบรวมของทั้ง 2 บริษัทเป็นการปรับโครงสร้างองค์กร และคาดว่าจะแล้วเสร็จใน 3Q22 ทั้งนี้ แม้สินเชื่อใหม่ของ SCAP ใน 1Q22 ยังต่ำกว่าเป้า แต่ผู้บริหารมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายการขยายสินเชื่อใหม่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท
3.ระดับสำรองหนี้ฯ จะเพิ่มขึ้นในปี 2022 จากการเร่งขยายสินเชื่อ (เทียบกับมีการกลับสำรองหนี้ฯ เป็นรายได้ 455 ล้านบาทในปี 2021) อย่างไรก็ดี Credit costs ในปี 2022 จะยังต่ำกว่าระดับปกติที่ราว 1% ของสินเชื่อรวม
รีวิวผลประกอบการ 1Q22
รายงานกำไรสุทธิ 1Q22 ที่ 1 พันล้านบาท (-24%YoY, +16%QoQ) กำไรปรับลดลง YoY เนื่องจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงจากการลดลงของส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) และค่าใช้จ่ายการดำเนินงานเพิ่มขึ้น ขณะที่กำไรเพิ่มขึ้น QoQ เป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของสินเชื่อ (+7% QoQ) ด้านคุณภาพสินเชื่อ NPL ratio ลดลงเหลือ 3.1% (4Q21:34%) ขณะที่ Coverage ratio ทรงตัว QoQ ที่ 58.3%
ความเห็นนักวิเคราะห์
มุมมองของเรา (1) สินเชื่อปี 2022 จะกลับมาเติบโต แต่จะบรรลุเป้าหมายโต 30% ยังคงท้าทาย (2) ทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นทำให้ต้นทุนการเงินเพิ่มขึ้น และกดดัน Margin ในอนาคต (3) สำรองหนี้ฯ จะเพิ่มขึ้น และ (4) อาจต้องบันทึกค่าใช้จ่ายทดสอบการด้อยค่า Goodwill จากการคืนใบอนุญาตเงินทุนของ BFIT ทำให้มองว่าการฟื้นตัวของกำไรในปี 2022 ยังมีข้อจำกัด โดย Bloomberg consensus คาดกำไรสุทธิจะเติบโตราว 7% YoY ในปี 2022 ด้าน Valuation ราคาหุ้นซื้อขายที่ 2.6x PBV’22E Trailing P/BV (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีที่ 4.2x) ขณะที่ Bloomberg Consensus นักวิเคราะห์ 14 ราย แนะนำ “ซื้อ” และ 1 ราย แนะนำ “ขาย” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 68.50 บาท







