บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action TRADING (Downgrade)
TP upside (downside) -6.3%
Close May 17, 2022 Price (THB) 16.00
12M Target (THB) 15.00
Previous Target (THB) 21.00
What’s new?
- ปรับประมาณการปี 2565 ลงเป็น 1,568 ล้านบาท เพื่อสะท้อนผลกระทบจากการซื้อน้ำมันดิบเพิ่มราว 4 คาร์โกในปีนี้ รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนการซื้อยางมะตอยจากโรงกลั่นอื่นๆ เพื่อมาขายให้กับกลุ่มลูกค้า (GPM น้อยกว่าการกลั่นเอง)
- ผลประกอบการ 2Q65 มีแนวโน้มฟื้นตัว QoQ จาก 1) ราคาขายยางมะตอยที่เริ่มปรับขึ้นตามราคาน้ำมัน 2) ปริมาณขายทั้งในและต่างประเทศ ที่สูงขึ้น QoQ และ 3) GPM ที่ดีขึ้นของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง
Our view
- ผลจากการปรับประมาณการลงทำให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ลดลงเป็น 15.00 บาท มี Downside ราว 6.3% จึงปรับคําแนะนําลงเป็น “Trading”
- เรามองว่า TASCO ยังขาดปัจจัยหนุนการฟื้นตัวของกำไรในระยะสั้น-กลาง โดยสิ่งที่จะมาหนุนการฟื้นตัวได้ คือการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อเวเนซุเอลาของสหรัฐฯ ซึ่งยังไม่มีพัฒนาการเชิงบวก นอกจากนี้ ในกรณีที่สามารถกลับไปซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาได้ คาดกำไรปกติจะยังไม่ฟื้นกลับไปอยู่ในระดับเดิม เพราะสิทธิประโยชน์ในการซื้ออาจมีการเปลี่ยนแปลง
TIPCO ASPHALT ประกาศซื้อน้ำมันดิบเพิ่ม
ปรับประมาณการปี 2565 ลง หลังประกาศซื้อน้ำมันดิบเพิ่ม
TASCO ประกาศว่าบริษัทฯกำลังอยู่ระหว่างการจัดหาน้ำมันดิบเพิ่มจำนวน 4 คาร์โกในปี 2565 โดยปัจจุบันราคาน้ำมันดิบยังคงทรงตัวอยู่ในระดับ US$100-115/bbl อย่างต่อเนื่อง คาดบริษัทฯ จะสามารถซื้อน้ำมันดิบเข้ามาในระดับ US$100/bbl เป็นอย่างน้อย (ราคาซื้อต่ำกว่าราคาในตลาด เนื่องจากเป็นการซื้อในปริมาณมากผ่านการประมูล) นอกจากนี้บริษัทฯ มีการเพิ่มสัดส่วนการซื้อยางมะตอยจากโรงกลั่นในภูมิภาคราว 20% (จากเดิมราว 5-6 แสนตันเป็นราว 7 แสนตัน) เพื่อนำมาขายให้กับกลุ่มลูกค้า (อัตรากำไรขั้นต้นน้อยกว่าการขายยางมะตอยที่ผลิตเอง) จึงส่งผลให้กำไรปกติของบริษัทฟื้นตัวได้อย่างจำกัด จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงในช่วง 2H65 อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ สามารถชดเชยผลกระทบบางส่วนได้จากการใช้กลยุทธ์ Selective Market (เลือกขายในประเทศที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง) รวมถึงการขยายตลาดสำหรับยางมะตอยเกรดพิเศษในประเทศต่างๆ เช่น จีนและเวียดนาม) ทั้งนี้เราปรับไปใช้สมมติฐานราคาต้นทุนน้ำมันที่ US$100/bbl ส่งผลให้ประมาณการปี 2565 ลดลง -26% มาอยู่ที่ 1,568 ล้านบาท (-18% YoY)
กำไรปกติ 2Q65 มีแนวโน้มฟื้นตัว
ผลประกอบการ 2Q65 มีแนวโน้มฟื้นตัว QoQ จาก 1) ราคาขายของยางมะตอยเริ่มปรับตัวสูงขึ้น เพื่อสะท้อนต้นทุนน้ำมันแล้ว โดยราคายางมะตอยในปัจจุบันอยู่ในระดับ US$550 เทียบกับราคาเฉลี่ย 1Q65 ที่ US$463 (อิง Argus) 2) ปริมาณขายในประเทศมีโอกาสเร่งตัวขึ้น QoQ จากการเข้าสู่ช่วง High Working Season ของอุตสาหกรรม 3) ปริมาณขายในต่างประเทศเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ 2Q65 จากการออกจากช่วง Low Working Season ใน 1Q65 และ 4) อัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ส่วนงานที่บริษัทฯ มีความชำนาญ (ควบคุมต้นทุนได้ดี) อย่างไรก็ตาม คาดกำไรปกติ 2Q65 จะยังคงลดลง YoY จากฐานที่สูงในปีก่อน (ผลจากอัตรากำไรขั้นต้นและปริมาณขายที่อยู่ในระดับสูง)
ยังไม่มีสัญญาณบวกจากเวเนซุเอลา
ผลจากการปรับประมาณการลงส่งผลให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ลดลงเป็น 15.00 บาท/หุ้น (อิง PER65 15x) มี Downside 6.3% อีกทั้ง TASCO ยังขาดปัจจัยหนุนการเติบโตในระยะสั้น-กลาง จึงปรับคำแนะนำลงเป็น “Trading” โดยเรามองว่าผลประกอบการของ TASCO จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีที่สหรัฐฯมีการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเวเนซุเอลา แต่จะไม่กลับไปอยู่ในระดับเดียวกับช่วงปี 2559-2563 เนื่องจากมีโอกาสที่เงื่อนไขและสิทธิประโยชน์ในการซื้อน้ำมันจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม (เช่นได้รับส่วนลดน้อยลง) หลังมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเวเนซุเอลา เพราะเดิมรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานเวเนซุเอลาเป็นผู้กำหนดส่วนลดราคาน้ำมันดิบให้กับกลุ่มประเทศเอเชีย








