บล.ไอร่า:

STEC ชิโน–ไทยฯ

1Q/65 มี Gross Profit Margin ดีขึ้นทั้ง qoq และ yoy หลังงานที่มี Margin ต่ำจบลง ขณะที่มีกำไรสุทธิ 232 ล้านบาท +17% yoy แต่ -38% qoq เนื่องจาก 4Q/64 มีกำไรจากการตีราคาทรัพย์สิน 141 ล้านบาท

“Buy on Weakness” Target ที่ 14.75 บาท 

  • STEC ประกาศผลการดำเนินงาน 1Q/65 มีกำไรสุทธิจำนวน 232 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17%yoy แต่ลดลง 38%qoq หลัง 4Q/64 มีกำไรจากการตีราคาทรัพย์สิน (ปกติทุกไตรมาส 4 ของทุกปี) จำนวน 141 ล้านบาท ซึ่งเมื่อหักรายการดังกล่าว พบว่ากำไรจากการดำเนินงานปกติทรงตัว qoq
  • ขณะที่ 1Q/65 มีรายได้งานก่อสร้าง จำนวน 7,605 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9%qoq และ 1%yoy คาดงานก่อสร้างมีความคืบหน้าดีขึ้นตามลำดับนับจาก 3Q/64 ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ Covid-19 ทั้งปิด Camp คนงาน และหยุดงานก่อสร้าง และมี Gross Profit Margin เฉลี่ย 5.53% ดีขึ้นจาก 5.47% และ 4.93% เมื่อ 4Q/64 และ 1Q/64 ตามลำดับ ส่วนหนึ่งจากงานที่มี Margin ต่ำจบลง
  • คาด Backlog หลังรับรู้รายได้ 1Q/65 ~130,000 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการรับรู้รายได้ไม่ต่ำกว่า 5 ข้างหน้า รวมงานรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ (JV CK) จำนวน 2 สัญญา นอกจากนี้ยังมีงานโรงไฟฟ้าปลวกแดง รถไฟฟ้าสายสีชมพูและสายสีเหลือง ซึ่งงานโยธาของทั้ง 2 สายจะสิ้นสุดปีนี้ งานศูนย์ราชการนนทบุรี และงานของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เป็นต้น ส่วนงานพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา คาดรับรู้รายได้ในปี’65 ประมาณ 2,000 ล้านบาท
  • STEC มีเป้าหมายงานเพิ่มในปี’65 ~40,000 ล้านบาท ภายใต้มูลค่างานภาครัฐและเอกชนที่คาดทยอยเปิด ประมูล มูลค่า 200,000 ล้านบาท และ 100,000 ล้านบาท ตามลำดับ โดย STEC คาด Gross Profit Margin ดีขึ้นจากปี’64 คาดเฉลี่ย 5-7% หลังงานที่มี Margin ต่ำจบลง และคาดรายได้งานก่อสร้างอยู่ที่ 33,000 ล้านบาท ขณะที่คาดยังมี Downside หากสถานการณ์แรงงานยังไม่กลับมาเป็นปกติ คาดอาจส่งผลกระทบต่องานก่อสร้าง โดยเราประเมินรายได้งานก่อสร้างและกำไรสุทธิ (จากการดำเนินงานปกติ) ปี’65 อยู่ที่ 30,438 ล้านบาท และ 658 ล้านบาท ตามลำดับ
  • ประเมินราคาเป้าหมายปี’65 ที่ 14.75 บาท อิง PBV 1.5 เท่า และคงคำแนะนำ “ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว” โดย STEC ยังมีความน่าสนใจจากฐานะการเงินดี เป็น Net Cash และความสามารถในการรับงานเพิ่ม
  • ประเด็นความเสี่ยง แรงงาน / การเมือง และราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น

 

 

 

- Advertisement -