บล.พาย:
บมจ.น้ำมันพืชไทย (TVO) “ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันถั่วเหลือง”
1Q22 กำไรสุทธิ 661 ลบ. (-25% YoY, +400%QQ)
TVO มีกำไรสุทธิงวด 1Q22 ที่ 661 ลบ. (-25%YoY, +400%QoQ) ถ้าไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 3 ลบ. กำไรจากตราสารอนุพันธ์ 62 ลบ. กลับรายการขาดทุนจากการปรับลดค่าสินค้าคงเหลือ 39 ลบ. และผลขาดทุน จากการด้อยค่าสินทรัพย์ทางการเงิน 5 ลบ. จะมีกำไรปกติ 563 ลบ. (-35%YoY, +1,033%QoQ) หากเทียบกับปีก่อนกำไรที่ลดลงเกิดจากกำไรขั้นต้นที่ต่ำลง ส่วนการเพิ่มขึ้นจาก 4Q21 เป็นผลจากราคาที่ดีขึ้นทั้งกากถั่วเหลือง และน้ำมันถั่วเหลืองตามราคาในตลาดโลก รายได้อยู่ที่ 9,319 ลบ. (+21%YoY, +14%QoQ) สูงเป็นสถิติใหม่ของบริษัทจากปัจจัยบวกเรื่องราคาขายเป็นหลัก กำไรขั้นต้นรวมอยู่ที่ 9.8% ลดลงจาก 16% ใน 1Q21 เพราะต้นทุนถั่วเหลืองปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ดีขึ้นจาก 2% ใน 4Q21 จากปัจจัยบวกเรื่องราคาขายข้างต้น ค่าใช้จ่ายในการบริหารอยู่ที่ 205 ลบ. (+13%YoY, -1%QoQ)
ถั่วโลก ระยะสั้นมีภัยแล้งเป็นปัจจัยบวก
ราคาถั่วเหลืองในตลาดโลกยังคงเห็นการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากปริมาณผลผลิตถั่วเหลืองจากทางบราซิลและอาเจนติน่าที่ปัจจุบันอยู่ในช่วงปลายของการเก็บเกี่ยวได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ส่งผลให้คาดว่าประมาณการผลผลิตในฤดูกาล 21/22 จะได้เพียง 167 ล้านตัน ต่ำกว่าที่เคยคาดไว้ในช่วงเริ่มเพาะปลูกที่ระดับ 196 ล้านตันค่อนข้างมาก (และลดลงทุกเดือนตั้งแต่เดือน ม.ค.) รวมกับความต้องการนำเข้าถั่วเหลือง จากประเทศจีนมีการคาดหมายว่าจะมีการนำเข้ามากขึ้น ซึ่งเดือน พ.ค. คาดว่าจะนำเข้ากว่า 92 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม สำหรับผลผลิตปี 22/23 ที่คาดว่าผลผลิตจากสหรัฐฯ ที่จะเริ่มปลูกในเดือน พ.ค.-มิ.ย. นี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 5% หลังจากเกษตรกรมีการหันมาปลูกถั่วเหลืองแทนข้าวโพดนั้นยังมีความเสี่ยง จากการเกิดลานีญาที่จะทำให้ผลผลิตออกมาไม่เป็นไปตามเป้าได้ จึงยังเป็นสิ่งที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในช่วง 2H22 นี้ ด้านน้ำมันถั่วเหลืองยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการเหตุความไม่สงบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้ไม่สามารถส่งออกน้ำมันทานตะวันได้ และทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้น้ำมันปาล์ม และน้ำมันถั่วเหลืองแทน
2Q22 ต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันยังพุ่งต่อ
แม้ผลประกอบการงวด 1Q22 จะปรับตัวเพิ่มจาก 4Q21 ได้อย่างมาก แต่จากแนวโน้มของราคาน้ำมันถั่วเหลืองที่ยังปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้แนวโน้มผลประกอบการงวด 2Q22 มีโอกาสที่รายได้จะทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง และทำให้กำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้น (เบื้องต้นคาดไว้ระดับ 600-700 ลบ.) และทำให้เราอาจจะมีการปรับประมาณการกำไรทั้งปีขึ้นจากเดิมที่คาดไว้ที่ 1,952 ลบ. ( 6%YoY) โดยจะต้องติดตามราคาถั่วเหลืองในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด สำหรับคำแนะนำการลงทุน เรามองว่า TVO เป็นผู้ประกอบการที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และการจ่ายเงินปันผลที่มีผลตอบแทนปีละกว่า 5-6%
แต่ด้วยส่วนต่างกับมูลค่าเหมาะสมที่เราคาดไว้ที่ 35 บาท (14.5XPER’22E) ไม่ถึง 10% เราจึงแนะนำ “ถือ” เพื่อรับเงินปันผลหรือเข้าซื้อในช่วงที่ราคาหุ้นอ่อนตัวลง
