บล.พาย:
TPCH: คาดกําไรลดลงใน 2Q22 และฟื้นตัวตั้งแต่ 2H22
คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ลดมูลค่าพื้นฐานลง 25% เป็น 9.60 บาท เพื่อสะท้อนการปรับลดประมาณการกำไรปี 2022-23 ลง 34%-50% มูลค่าพื้นฐานดังกล่าวถึง 20xPE’22E สอดคล้องค่าเฉลี่ยผู้เล่นในประเทศ
- กำไรสุทธิ 1Q22 ลดลง 23% YoY เป็น 37 ล้านบาท ขณะที่พลิกฟื้นจากขาดทุน QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษครั้งเดียว กำไรปกติจะอยู่ที่ 5.0 ล้านบาท (-90%YoY, พลิกฟื้นจากขาดทุน QoQ)
- กำไรที่ลดลง YoY เป็นผลจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ลดลงจากต้นทุนเชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้า W2E ที่สูงขึ้น รวมถึง การปิดซ่อมบำรุงนอกกำหนดการของโครงการ และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจากการเริ่มดำเนินงานเชิง CRB พาณิชย์ (COD) ของโครงการใหม่ ส่วนการเติบโตในเชิง QoQ ได้แรงหนุนจากยอดขายไฟฟ้าของ WWE ที่ปรับดีขึ้น หลังจากปิดซ่อมบำรุงไปใน 4Q21
- 2Q22 มีภาพรวมอ่อนแอ เพราะคาดว่ากำไรจะลดลง QoQ จากการปิดซ่อมบำรุง CRB (6.7MWe) ที่คาดว่าจะปิดไปถึงช่วงปลาย 2Q22 ขณะที่มองบวกมากขึ้นต่อภาพรวมใน 2H22 เพราะจะมีการ COD 2 โครงการใหม่ (3.4MWe) ภายในปลาย 2Q22
ราคาหุ้นลดลง 30% YTD ปัจจุบันซื้อขายกันที่ค่าเฉลี่ย PE ย้อนหลัง 25 เท่า แนะนำหาจังหวะเทรดและทยอย สะสมภายใน 3Q22 เพราะมีภาพรวมเป็นบวกใน 2H22
สรุปผลประกอบการ 1Q22
- กำไรสุทธิ 1Q22 ลดลง 23% YoY เป็น 37 ล้านบาท ขณะที่พลิกฟื้นจากขาดทุน 12 ล้านบาทใน 4Q21
- หากไม่รวมรายการพิเศษครั้งเดียวจำนวน 32.0 ล้านบาท (เงินสินไหมทดแทนจากโรงไฟฟ้าขยะ 6.8MWe) กำไรปกติ 1Q22 จากกิจการโรงไฟฟ้าจะอยู่ที่ 5.0 ล้านบาท (-90%YoY, พลิกฟื้นจากขาดทุน QoQ)
- กำไรที่ลดลง YoY เป็นผลจาก GPM ที่ลดลง (9.0 ppts YoY) จากต้นทุนเชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้า W2E ที่สูงขึ้น รวมถึงรายได้โรงไฟฟ้าชีวมวล CRB ขนาด 6.7MWe ที่ปรับลดลงเพราะมีการปิดซ่อมบำรุงนอกกำหนดการใน 1Q22 ขณะเดียวกันก็มีต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น 50% YoY จากการ COD ของโครงการใหม่ (7.4MWe ใน 4Q21-2Q22)
- ส่วนกำไร 1Q22 ที่ฟื้นตัวขึ้นในเชิง QoQ ได้แรงหนุนจากยอดขายไฟฟ้าของ WWE ที่ปรับดีขึ้นหลังจากปิดซ่อมบำรุงไปใน 4Q21
ภาพรวม 2H22 เป็นบวกหลังอ่อนตัวลงใน 2Q22
- คาดกำไร 2Q22 จะลดลง QoQ จากยอดขายไฟฟ้าที่ลดลงในโรงไฟฟ้าชีวมวล CRB ขนาด 6.7MWe (9% ของกำลังผลิตรวม) ซึ่งมีสาเหตุจากการปิดซ่อมบำรุงที่คาดว่าจะลากยาวไปถึงปลาย 2Q22
- มีมุมมองเชิงบวกมากถึงต่อภาพรวม 2H22 เพราะโรงไฟฟ้าชีวมวลใหม่ 2 แห่ง (3.4MWe) มีกำหนดการ COD ใน 2Q22 ซึ่งจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตรวมของบริษัทขึ้น 5% ยิ่งกว่านั้นโครงการ CRB ก็จะกลับมาดำเนินงานตามปกติหลังจากปิดซ่อมบำรุงไปก่อนหน้านี้
- บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าขยะขนาด 26MWe โดยคาดว่าจะมีความแน่นอนในปี 2023-25 และมาช่วยสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวได้
ปรับลดประมาณการกำไรปี 2022-23 ลง 34%-50%
- ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2022-23 ลง 50% และ 34% ตามลำดับ หลังจากปรับลดสมมติฐานการเติบโตของรายได้และ GPM
- ปรับลดสมมติฐานการเติบโตของรายได้ปี 2022 ลง 2% หลังจากนับรวมประเด็นการปิดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าชีวมวล CRB ขนาด 6.7MWe ในช่วง 1Q-2Q22 และการเริ่ม COD โรงไฟฟ้าขยะขนาด 3.4MWe ใน 2Q22 เข้ามาร่วมคำนวณในประมาณการ ขณะที่ปรับลดสมมติฐาน GPM ปี 2022-23 ลงเป็น 22% และ 25% ตามลำดับ เนื่องจากมีต้นทุนเชื้อเพลิงที่สูงกว่าคาดบวกกับการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน
Revenue breakdown
TPCH มีโรงไฟฟ้าชีวมวลอยู่ทั้งหมด 10 โรง ส่วนใหญ่เริ่มดำเนินงานและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ไปแล้ว เช่น บริษัท ช้าง แรก ไบโอเพาเวอร์ จำกัด (CRB) (12.7% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2021) บริษัท แม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ จำกัด (MWE) (1.91%), บริษัท มหาชัย กรีน เพาเวอร์ จำกัด (MGP) (12.7%), บริษัท ทุ่งสัง กรีน จำกัด (TSG) (11.75%), บริษัท พัทลุงกรีน เพาเวอร์ จำกัด (PGP) (14.83%), บริษัท สตูล กรีน เพาเวอร์ จำกัด (SGP) (14.63%) บริษัท ปัตตานี กรีน จำกัด (25.45%) บริษัท ทีพีซีเอช เพาเวอร์ 1 จำกัด (TPCH1) (5.37%) บริษัท ทีพีซีเอช เพาเวอร์ 2 จำกัด (TPCH2) (6.28%) และบริษัท ทีพีซีเอช เพาเวอร์ 5 จำกัด (TPCH5) (7.05%)
เชื้อเพลิงชีวมวล คือ วัตถุดิบที่ใช้ในกระบวนการอุตสาหกรรมจำนวนมาก เช่น การผลิตพลังงานหรือเคมีภัณฑ์ วัตถุดิบที่นำมาผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลก็มีมากมาย เช่น ของเสียจากโรงงานหรือสัตว์ที่ไม่ได้ใช้ผลิตเป็นอาหารหรืออาหารสัตว์ ของเสียที่ว่าอาจมาจากการทำฟาร์ม การแปรรูปอาหาร การเพาะเลี้ยงสัตว์ (ปุ๋ยที่อุดมไปด้วยไนโตรเจนและฟอสฟอรัส) หรือของเสียจากมนุษย์ที่มาจากน้ำเสียในโรงงาน โดยโรงไฟฟ้าของบริษัทจะใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายตามท้องถิ่น เช่น เม็ด ยาง กากมะพร้าว และกากปาล์ม







