ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

ปรับขึ้นต่อ แต่ยังอยู่ในกรอบจำกัด

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันจันทร์ ปรับขึ้น แต่น่าจะอยู่ในกรอบจำกัด… หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว  ตลาดหุ้นไทยรีบาวด์แรงกว่าที่เราคาด หนุนโดยฟันด์โฟลว์ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากตลาดการเงินโลกมีสัญญาณการ peak out ของค่าเงินดอลลาร์ฯ และบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ และสะท้อนว่าตลาดรับรู้ประเด็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯ ไปแล้วค่อนข้างมาก… ขณะที่ในวันนี้ ปัจจัยต่อตลาดหุ้นไทยเป็นบวกเล็กน้อย i) ทางการจีนเริ่มคลายล็อกเมืองเซี่ยงไฮ้เมื่อวานนี้ โดยการเปิดระบบขนส่งมวลชนบางส่วน ซึ่งเป็นสัญญาณดีต่อแผนการเปิดเมืองในเดือนหน้า และน่าจะส่งผลดีต่อจิตวิทยาตลาดหุ้นในเอเชีย ii) ในสัปดาห์นี้ สหรัฐฯ จะมีการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ PCE เดือนเมษายน ซึ่ง consensus คาดว่า core PCE inflation rate จะชะลอตัวสู่ 4.9% YoY เทียบกับระดับ 5.2% YoY ในเดือนมีนาคม… ด้านปัจจัยภายในประเทศ การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เมื่อวานนี้ ผู้สมัครอิสระ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนเสียงสูงสุดนับจากมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ มา และผู้ชนะเลือกตั้ง สก. นั้น มีสัดส่วนเกินกว่าครึ่ง ที่มาจากพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ตั้งรัฐบาลน่าจะต้องนำไปวางแผนสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2566… ขณะที่เข้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อทรงตัวอยู่ที่ 4,099 ราย เสียชีวิต 29 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 8,856 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน 

เก็งกำไร IP, PTG*, BEC*

  • IP (เป้า Consensus 26.6 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 20.1 บาท / แนวต้าน 21.1 – 21.9 บาท กรณี Breakout ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 225 บาท (Stop loss 19.3 บาท) 2) ประเมินกรณี บ.อินโนบิก (บ.บ่อย ของ PTT*) เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบ PP มูลค่ารวม 1 พันล้านบาท (ราคาเฉลี่ย 14 บาท/หุ้น) โดย บ. อินโนบิกจะเข้าถือหุ้น IP 20% จะเป็นบวกต่อ IP ในด้าน i) การเร่งปิดดีลร้านขายยา Lab Pharmacy ii) โอกาสเร่งเปิดสาขาร้านขายยาผ่านเครือข่ายของกลุ่ม PTT* โดยเฉพาะปั้มน้ำมันของ OR* ที่มีสาขารวม +2 พันแห่ง iii) การต่อยอดผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสุขภาพกับกลุ่ม PTT* 3) Consensus คาดกำไรปีนี้ 170 ล้านบาท EPS คำนวณรวมผลการเพิ่มทุน เท่ากับ 0.5 บาท/หุ้น จำนวนหุ้นถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก) คิดเป็น Forward PE +/-40 เท่า ยังถูกกว่าหุ้น HL ที่ Forward PE +/-57 เท่า
  • PTG* (เป้าพื้นฐาน 17.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 14.8 บาท / แนวต้าน 15.2 บาท กรณี Breakout แนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 16.0 – 16.5 บาท (Stop loss 14.0 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินพ้นจุดต่ำสุด โดยค่าการตลาดเริ่มฟื้นตัวกลับสู่ระดับปกติตั้งแต่ต้น 2Q65 แล้ว ขณะที่คาดปริมาณขายน้ำมันจะฟื้นตัวต่อเนื่องตามการเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเต็มรูปแบบตั้งแต่กลางปีนี้ 3) Valuation ไม่แพง Forward PE ปีนี้ยังต่ำเพียง 16 เท่า (เท่ากับ 1 เท่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของค่าเฉลี่ยในอดีต) และหากพิจารณาในมุม PEG จะต่ำเพียง 0.6 เท่า (คาด EPS โต +42.5% CAGR 2564 – 66)
  • BEC* (เป้าพื้นฐาน 18 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 14.8 บาท / แนวต้าน 15.5 บาท กรณี Breakout ผ่านแนวต้านนี้ได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 16 บาท (Stop loss 14.1 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้นพักฐานก่อนหน้านี้จาก i) ถูกขายทำกำไรหลังจากราคาหุ้นปรับขึ้นไปชนราคา ii) เป้าหมายของฝ่ายวิจัยฯ ก่อนหน้านี้ (ปัจจัยพื้นฐานไม่เปลี่ยน) iii) ไตรมาส 1 เป็น low season ของธุรกิจ เป็นโอกาสสะสม โดยคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเริ่มฟื้นตัว QoQ ตั้งแต่ 2Q65 หลังจากโควิด-19 ในไทยเริ่มผ่อนคลาย และเตรียมกลับมาเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจเต็มรูปแบบตั้งแต่กลางปีนี้ 3) ประเมินธุรกิจผลิตคอนเทนต์อย่าง BEC ได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อในปัจจุบันที่จำกัด (ไม่มีต้นทุนทางตรงจากราคาสินค้าทั่วไปที่ปรับขึ้น) คาดกำไรปีนี้โต +46% YoY ต่อเนื่องหลังการ Turnaround ในปีก่อน

หุ้นมีข่าว

(+) BEM* ทราฟฟิกขึ้นอีกใกล้แล้วประมูลสีส้ม (ทันหุ้น) BEM ทราฟฟิกสุดแกร่ง ทั้งทางด่วนล้านคัน รถไฟฟ้า 2.9 แสนคนต่อวัน ยกคิวอีเวนต์ศูนย์ประชุมแน่น ดันทราฟฟิกวิ่งขึ้นอีก กำงบลงทุน สร้าง S-Curve ลั่นพร้อมประมูลโครงการรถไฟฟ้าสีส้ม พ.ค.-มิ.ย. นี้ มี Double Deck โครงการอื่นรออยู่ เคลียร์ชัดต้นทุนค่าไฟที่เร่งตัวขึ้น 15-20% ไม่กระทบปีนี้กำไรฟื้นแกร่ง

(+) PTT* ควักพันล้านซื้อ IP 20% ต่อยอดผลิตภัณฑ์สุขภาพ (ข่าวหุ้น) “ปตท.” อัดงบกว่า 1 พันล้านบาท ซื้อหุ้นเพิ่มทุนพีพีของ IP คิดเป็นสัดส่วน 20% จ่อเซ็นสัญญาการลงทุน มิ.ย.นี้ หวังต่อยอดการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพแบบครบวงจร นอกจากนี้ยืดเวลาให้ กฟผ.ชำระหนี้ค่าก๊าซ 1.3 หมื่นล้านบาท ออกไป 4 เดือน

(+) BANPU* ทุ่ม 2.5 หมื่นล.ลงทุนอัพผลิตแหล่งก๊าซในสหรัฐ (ทันหุ้น) BANPU รุกขยายกำลังผลิตก๊าซ ธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา เพื่อตอบรับอุตสาหกรรมพลังงานที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว โดยบริษัทย่อย BKV ได้ลงนามในสัญญาซื้อขาย เพื่อเข้าซื้อสัดส่วนผลประโยชน์ในแหล่งก๊าซธรรมชาติ และครอบคลุมถึงธุรกิจกลางน้ำบริเวณแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ ด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 25,125 ล้านบาท คาดว่าการซื้อขายจะเสร็จสิ้นภายในเดือนมิถุนายน 2565

(+) LEO จีนเปิดเมือง ขนส่งบูม ดันวอลุ่มฟู พันธมิตรพรึ่บ (ทันหุ้น) LEO รับอานิสงส์จีนประกาศคลายล็อก เชื่อค่าเฟดพุ่ง หนุนวอลุ่มขนส่งฟู ยอดนำเข้าสูงถึง 70% บอสใหญ่ “เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์” เผยมีพันธมิตรสายการเดินเรือเพียบ เพื่อนำเข้า-ส่งออกคึกคัก พร้อมดันผลงานไตรมาส 2/2565 ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อ

(+) EKH รับอานิสงส์จีนกระตุ้นสร้างทายาทหนุนดีมานด์ IVF พุ่ง (ทันหุ้น) EKH ส่งสัญญาณบวก รับจีนวางนโยบายกระตุ้นการมีทายาทด้วยสิทธิ “ซื้อบ้าน” เพิ่มอีก 1 หลัง เมื่อมีบุตรเพิ่มเป็น 2 หรือ 3 คน เพื่อแก้ปัญหาประชากรลดจํานวนลง หนุนลูกค้าจีนกลับมาใช้บริการศูนย์ผู้มีบุตรยาก (IVF) เพิ่มมากขึ้น พร้อมเตรียมเปิดให้บริการโรงพยาบาลเฉพาะทางและศูนย์ดูแลผู้สูงอายุไตรมาส 3/2565 หนุนรายได้เติบโตมั่นใจผลงานปีนี้โดดเด่น

(+) GULF* ตั้งบริษัทร่วม SCC รุกโซลาร์รูฟพื้นที่นิคมฯ ประเดิมเครือเอสซีจี ตอบโจทย์เทรนด์พลังงานหมุนเวียน (ข่าวหุ้น) GULF* ผนึกกำลังกลุ่ม SCC ตั้งบริษัท “เอสจี โซล่าร์” เพื่อดำเนินธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป ในพื้นที่นิคมฯ เจาะกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม และโรงไฟฟ้า SPP พร้อมเล็งขยายฐานกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมและกลุ่มพาณิชยกรรม

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • BCP* (เป้าพื้นฐาน 35 บาท) แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 33.5 บาท)
  • BEM* (เป้า Consensus 9.9 บาท) แนวรับ 8.75 บาท / แนวต้าน 8.9-9.0 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ ได้แนะนำ “Let profit run” (Trailing stop 8.6 บาท)
  • CPF* (เป้าพื้นฐาน 30.5 บาท) แนวรับ 24.8 บาท / แนวต้าน 25.75-27.0 บาท (Trailing stop 24.7 บาท)
  • IVL* (เป้าพื้นฐาน 59 บาท) แนวรับ 48.5 บาท / แนวต้าน 50-52 บาท (Trailing stop 47.5 บาท)
  • INTUCH* (เป้าพื้นฐาน 89.5 บาท) แนวรับ 72 บาท / แนวต้าน 73.5-75 บาท (Stop loss 71 บาท)
  • CPALL* (เป้าพื้นฐาน 75 บาท) แนวรับ 64 บาท / แนวต้าน 65-67 บาท (Stop loss 63.5 บาท)
  • DOHOME* (เป้าพื้นฐาน 22.5 บาท) แนวรับ 19.0 บาท / แนวต้าน 19.7-20.0 บาท (Stop loss 18.8 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • RATCH* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 42 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นกลาง ไม่มีประเด็นใหม่เพิ่มเติม โดยเป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าในปี 2558 ยังคงไว้ที่ 1 หมื่น MWe จาก ปัจจุบันที่ 9,219MWe คาดแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q65 จะฟื้นตัว QoQ จากโรงไฟฟ้าหงสา High season ของโรงไฟฟ้า IPPS และไม่มีรายการพิเศษเช่นใน 1Q65
  • HANA* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 48 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์ มุมมองเป็นลบเล็กน้อย โดยฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดประมาณการฯ ลง สะท้อนความเสี่ยงด้านต้นทุนการผลิต แม้ว่าผลการดำเนินงานใน 2H65 คาดจะฟื้นตัว เนื่องจากคาดผลขาดทุนจาก บ.ลูก (PMS) จะทยอยลดลงก็ตาม
- Advertisement -