Daily Focus: Value and Selective Play

2022 SET Target: 1770

ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่องและแข็งแกร่งกว่าที่ประเมิน ปิดบวกได้อีก 16.97 จุด หลังจีนปรับลดดอกเบี้ย LPR 5 ปีลงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ศบค.ผ่อนคลายมาตรการเพิ่มเติม สถาบันในประเทศพลิกมาขายสุทธิในดลาดหุ้น 1.1 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนดางชาติยังซื้อสุทธิหนาแน่นอีก 3.1 พันลบ. (และ Long SET50 Index Futures อีก 6.2 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index จะยังแกว่งตัว Sideways Up โดยมีแนวด้านสําคัญบริเวณ 1,630+-จุด ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวกลับขึ้นมายืน US$110 ต่อบาร์เรลอีกครั้ง หนุนกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงจับตาและประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อทั่วโลกที่ยังสูง และเริ่มส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจให้โตชะลอ โดยปลายสัปดาห์นี้จะมีเงินการประกาศเงินเฟ้อ PCE เดือน เม.ย. ของสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยในประเทศยังดูแข็งแรงกว่า แม้ภาคการผลิตอาจมีผลกระทบในฝังต้นทุนกดดันแค่กลุ่มบริการยังคงได้อานิสงส์จากการ Reopening และ ล่าสุด ศบค.ผ่อนคลายมาตรการต่อเนื่อง ทั้งการเปิดสถานการณ์บันเทิง และยกเลิก Thailand Pass ซึ่งจะหนุนการท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดขึ้นใน 2H22 เป็นบวกต่อเศรษฐกิจระยะยาว ในเชิงกลยุทธ์ เรายังเน้นลงทุนในหุ้น Reopening และ Value Play ที่มี PER/PBV ไม่สูงเทียบกับช่วงปี 2019 ที่ยังไม่มี COVID-19 และมีแนวโน้มกาไร 2Q22 แข็งแกร่งต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าจะสามารถปรับตัวได้แข็งแรงกว่าตลาดท่ามกลางนโยบายการเงินของธนาคารกลางหลักทั่วโลกที่ตึงด้ว โดยเฉพาะ FED สําหรับการลงทุนระยะกลาง-ยาวส่วนที่สะสมแล้วบริเวณ 1,600+- จุดแนะนําถือลงทุนต่อเนื่อง

กลยุทธ์ : เนินลงทุนหุ้น Value Play ทีแนวโน้มกําไร 2Q22-2H22 แข็งแกร่ง

หุ้นเด่นเดือน พ.ค. : GFPT, ILINK, SAPPE, SMT, TH

หุ้นเด่นวันนี้ : SHR

  • แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมายจาก FSSIA 5.20 บาท
  • โมเมนตัมการฟื้นตัวยังดีต่อเนื่อง โดย Occ Rate เดือน เม.ย. ขนจาก 1Q22 ในทุก Destination ขณะที่ ADR ปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น และคาดชดเชยฝังต้นทุนที่เพิ่มได้ทั้งหมด
  • SHR คาดว่ารายได้จะปรับตัวขึ้น 3 เท่าในปี 2025 ทั้งสินทรัพย์โรงแรมเดิมที่เติบโต การเปิดโรงแรมใหม่ รวมถึงดีล M&A ในอนาคตด้วยวงเงินลงทุน 4.5 พันลบ. Valuation ยังต่ำเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มฯ โดยเทรด PBV เพียง 0.9 เท่า
  • แนวรับ 4//3.88 บาท แนวต้าน 4.18//4.40-4.50 บาท

Fund Flow: เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนพลิกกลับมาไหลเข้าภูมิภาค US$516 ล้าน นำโดยเกาหลีใต้และไต้หวัน US$239 ล้าน และ US$182 ล้าน ตามลำดับ อาเซียนไหลเข้าเกือบทุกประเทศ นำโดยไทย US$90 ล้าน มีเพียงเวียดนามที่ไหลออก แนวโน้มของกระแสเงินทุนวันนี้ คาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลเข้า แต่ปริมาณไม่หนาแน่นนัก นักลทุนยังจับตาเงินเฟ้อและการเติบโตของเศรษฐกิจที่ชะลอ

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) CBG ประชุมเมื่อวันศุกร์โทนบวก ผู้บริหารให้ภาพรายได้ และ Margin ฟื้นตัวใน 2Q22 จากทั้งกัมพูชา พม่า และจีน โดยยังตั้งเป้ารายไดจีน +50% Y-Y ส่วนต้นทุนอลูมิเนียม 2Q22 ยังเป็นสต็อกเก่าราคาสูง แต่จะลดลงใน 3Q22 ตามราคาตลาดโลก และอยู่ระหว่างปรับ Packaging ให้เบาและบางลง ส่วนราคาขายยังตรึงที่ 10 บาทไปอีก 6 เดือน เพื่อดู Market Share และปรับกลยุทธ์อีกครั้ง รวมถึงจะขยายตลาดเวียดนาม และพิจารณาตั้งรง.ในจีน ปัจจุบัน FSSIA ให้ราคาเป้าหมาย 128 บาท เชิงกลยุทธ์แนะนํา “ซื้อ” และมีแนวต้านสําคัญที่ 110+- บาท

(+) BANPU ล่าสุดใ บ.ลูก BKV ที่ถือหุ้นอยู่ 96% เข้าลงทุนสัดส่วน 93% ใน XTO Energy ซึ่งทําธุรกิจ Shale Gas ที่ราคาราว 2.5 หมื่นลบ. เรามีมุมมองเป็นบวก เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ดีในราคาที่ไม่แพง นอกจากนี้จากคาดการณ์ของเราคาดว่าจะช่วยให้สัดส่วน Hedging Volume ของ BANPU ลดลงจาก 70% เหลือ 60% ด้านผลการดำเนินงานคาดกำไร 2Q22 จะยังเติบโตแข็งแกร่ง ทั้ง Q-Q และ Y-Y จากราคาขายที่สูงขึ้น และ Hedging Loss ที่ลดลง เราคาดกําไรปีนี้ +14% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 18.80 บาท แนะนํา “ชื้อ” (Source: FSSIA)

(-) HANA แนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q22 ไม่สดใส หลังเผชิญปัจจัยลบจากสงครามรัสเซีย และจีน Lockdown คาดกระทบให้รายได้ของโรงงานในจีนลดลงราว 25% กอปรกับจะรับรู้ขาดทุนจากโรงงานในเกาหลีใต้มากขึ้นอย่างมีนัยยะ แม้ยังคาดหวังการฟื้นตัวใน 2H22 แต่ยังความเสี่ยงจากสงครามที่อาจยืดเยื้อ รวมถึงเงินเฟ้อที่จะกระทบต่อกำลังซื้อ โดยเฉพาะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่าง Smartphone และ Computer มีเพียงอุตสาหกรรม EV car ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ต่อเนื่องในระยะยาว แต่สัดส่วนสําหรับ HANA ยังน้อย ต้องรอการเติบโตของ สินค้าใหม่ SiC ในระยะถัดไป เราปรับลดกําไรปกติปี 2022 ลงเหลือ -27% Y-Y และคาดกลับมาโตในปี 2023 +24% Y-Y ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 48 บาท ลดคําแนะนําเป็น “ถือ”

(+) STANLY ประกาศกำไร 4Q21 (ม.ค.-มี.ค. 22) +19% Q-Q, -16% Y-Y เป็นกำไรสูงสุดในรอบปี และดีกว่าคาด 9% ภาพรวมฟื้นตัวได้ดีจากไตรมาสก่อน เนื่องจากลูกค้ากลุ่มรถยนต์ไม่มีปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วน Semiconductor ทําให้รายได้ฟื้นตัว ขณะที่ Gross Margin ชะลอตัวเล็กน้อยจากต้นทุนที่สูงขึ้น จบปี 2021 กําไร +45% Y-Y เราคาดกำไร 1Q22 จะเป็นจุดต่ำสุดของปีจากวันหยุดที่มาก เราปรับกำไรปี 2022 ลงเล็กน้อยจากประเด็นต้นทุน แต่คาดภาพรวมปี 2022-2024 ยังโดได้แข็งแกร่ง +14% CAGR ยังคงราคาเป้าหมายที่ 250 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) ตลาดดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 8.77 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 31,261.90 จุด โดยการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก จากความคาดหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของยุโรป หลังธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี (LPR)

(+) ตลาดเอเชีย ปรับขึ้น ตามทิศทางตลาดดาวโจนส์ รวมถึงคาดว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะอนุญาตให้ธุรกิจในทุกภาคส่วนกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่าขึ้น ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 32.31 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.02 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 113.23 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลภาวะอุปทานน้ำมันที่ตึงตัว หลังสหภาพยุโรป (EU) ได้รับการสนับสนุนเพิ่มขึ้นสำหรับข้อเสนอในการห้ามนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 0.9 ดอลลาร์ หรือ 0.05% ปิดที่ 1,842.1 ดอลลาร์/ออนซ์ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางตลาดที่ยังกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1063.43

- Advertisement -