บล.พาย:
CBG: ได้เวลาสะสม
การประชุมนักวิเคราะห์ให้น้ำหนักเป็นบวกต่อภาพรวมกำไรปี 2022-25 คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานจาก 115 บาทเป็น 125 บาท อิง 35xPE’1H23E หรือคิดเป็นค่าเฉลี่ยกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังในไทย
- คาดอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) พ้นจุดต่ำไปแล้วใน 1Q22 เพราะ 1) ส่วนแบ่งรายได้ที่สูงขึ้นจากแบรนด์ของบริษัท (มี GPM โดยรวมสูงกว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์อื่น) 2) การปรับราคาขายส่ง 1%-3% 3) อัตรากำไรที่สูงขึ้นของรายได้การจัดจําหน่าย 4) การประหยัดต้นทุนจากขวดที่มีน้ำหนักเบา และ 5) ราคาม้วนอลูมิเนียมที่ลดลง QoQ
- คาดถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปี 2022-25 หนุนจากยอดขายที่ฟื้นตัวขึ้นในกัมพูชา รายได้ที่แข็งแกร่งใน เมียนมา การเจาะตลาดจีนได้สำเร็จ โอกาสด้านการเติบโตในเวียดนาม การเติบโตของรายได้การจัดจำหน่ายสุราที่แข็งแกร่ง และการตอบรับที่ดีจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 2-3 รายการในปี 2022
- คาดกำไรจะปรับดีขึ้น QoQ ทุกๆ ไตรมาสของปี 2022 ด้วยแรงกระตุ้นจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 2-3 รายการ การเติบโตของรายได้การจัดจำหน่ายสุราที่แข็งแกร่ง การปรับราคาขายส่ง 1%-3% ปริมาณขาย เครื่องดื่มชูกำลังที่พุ่งสูงขึ้นในไทย และยอดขายที่ฟื้นตัวขึ้นใน CLMV และจีน
ภาพรวม GPM ดีขึ้น
- GPM ลดลงจากยอดสูงใน 1Q20 เพราะ 2 สาเหตุหลักคือ 1) ส่วนแบ่งรายได้ที่สูงขึ้นในกลุ่มที่มีอัตรากำไร (รายได้การจัดจำหน่าย) และ 2) ต้นทุนม้วนอลูมิเนียม น้ำตาล และต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น
- คาด GPM พ้นจุดต่ำไปแล้วใน 1Q22 เพราะ 1) ส่วนแบ่งรายได้ที่สูงขึ้นจากแบรนด์ของบริษัท (มี GPM โดยรวมสูงกว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์อื่น) 2) การปรับราคาขายส่ง 1%-3% 3) อัตรากำไรที่สูงขึ้นของรายได้การจัดจำหน่าย 4) การประหยัดต้นทุนจากขวดที่มีน้ำหนักเบา และ 5) ราคาม้วนอลูมิเนียมที่ลดลง QoQ
คาดถึงการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง
- คาดถึงผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปี 2022-25 ด้วยปัจจัยสนับสนุนดังต่อไปนี้
(1) ยอดขายที่ฟื้นตัวขึ้นในกัมพูชาหลังจากกลับมาเปิดประเทศ และกลับมาจำหน่ายยานยนต์ในพนมเปญ
(2) รายได้ที่เติบโตแข็งแกร่งในเมียนมา จากความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาด จุดขายที่เพิ่มขึ้น และการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย
(3) ผลกระทบในวงจำกัดจากการล็อกดาวน์ในจีน และการเจาะตลาดจีนได้สำเร็จ
(4) การเติบโตของรายได้การจัดจำหน่ายสุราที่แข็งแกร่ง
(5) ความสำเร็จของการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 2-3 รายการในปี 2022
ได้เวลาเข้าสะสมหุ้น
- คาดกำไรจะปรับดีขึ้น QoQ ทุกๆ ไตรมาสของปี 2022 ท่ามกลางสภาวะที่ต้นทุนวัตถุดิบปรับสูงขึ้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐาน 125 บาท อิง 35xPE’1H23E
สรุปผลประกอบการ
- กำไรที่ลดลง YoY เป็นเพราะอัตรากำไรที่หดตัวลงเป็น 30.7% ต่ำสุดในรอบ 16 ไตรมาส มีสาเหตุมาจากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น (ม้วนอลูมิเนียม) และส่วนแบ่งที่สูงขึ้นจากการจัดจําหน่ายสินค้าบุคคลที่ 3 ที่มีอัตรากําไรต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) โดยรวม
- กำไรที่ปรับดีขึ้น QoQ ขับเคลื่อนจากรายได้การจัดจำหน่ายสินค้าบุคคลที่ 3 ที่พุ่งขึ้นเป็น 1.4 พันล้านบาท (+100%YoY) โดยธุรกิจในส่วนนี้มี GPM 10% เทียบกับ 7.9% ใน 4Q21
- ยอดขายสินค้าแบรนด์ในประเทศลดลง 5%YoY ใน 1Q22 เป็นเพราะยอดขายเครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์คาราบาวแดงที่ลดลง ตามแนวโน้มของตลาดเครื่องดื่มชูกำลังของไทยที่หดตัวลง 6.7% YoY
- ยอดขายต่างประเทศใน 1Q22 ลดลงเหลือ 1.7 พันล้านบาท (-5%YoY, +32%QoQ) เป็นเพราะยอดขายในจีนที่ลดลง 71%YoY เหลือ 60 ล้านบาท โดยมีสาเหตุจากการออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ตามกฎเกณฑ์ใหม่
- รายได้การจัดจำหน่ายสินค้าบุคคลที่ 3 ใน 1Q22 อยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท (+100%YoY) หนุนจากการจำหน่ายสินค้าใหม่
Revenue breakdown
CBG จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งในและต่างประเทศ ส่วนแบ่งตลาดในประเทศคิดเป็น 42% ของรายได้ทั้งหมด สำหรับธุรกิจในไทยจะมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ ผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้าของ CBG ได้แก่ เครื่องดื่มชูกำลัง น้ำอัดลม และน้ำดื่ม อีกประเภทคือกาแฟกระป๋อง ขณะที่ให้บริการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จำพวกอาหารและอื่นๆ ของบุคคลที่ 3 ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ บริษัทได้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้กับทั้งร้านค้าแบบดั้งเดิมจำนวนมากผ่านนายหน้าและรถเงินสด และร้านค้าโมเดิร์นเทรดอีกมากมาย
ขณะที่ส่วนแบ่งตลาต่างประเทศคิดเป็น 58% ของรายได้ทั้งหมด ในส่วนนี้บริษัทจะจำหน่ายเฉพาะเครื่องดื่มชูกำลัง 2 ชนิด คือ เครื่องดื่มแบบขวดและเครื่องดื่มชนิดไม่อัดลมแบบกระป๋อง ด้วยการจำหน่ายผลิตภัณฑ์หน่วยสุดท้ายให้กับคู่ค้าที่เป็นผู้นำเข้า นายหน้า หรือตัวแทนจำหน่ายในท้องถิ่น เพื่อนำไปจัดจำหน่ายให้กับผู้บริโภคในประเทศนั้นๆ ต่อไป