WHAUP ประกาศเดินเกมรุกตามแผน เร่งขยายพอร์ตพลังงานหมุนเวียนผ่านการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาต่อเนื่อง ล่าสุดคว้าดีลติดตั้ง Solar Rooftop โครงการเมกาบางนา รวม 13 อาคาร พื้นที่หลังคารวม 62,000 ตารางเมตร ขนาดการผลิตไฟฟ้า 10 เมกะวัตต์ มูลค่า 245 ล้านบาท แย้มภายในไตรมาส 2/65 จ่อเซ็นสัญญาเพิ่มอีก 3 โครงการ คิดเป็น 15.9  เมกะวัตต์ พร้อทเตรียม COD อีก 4 โครงการ คิดเป็น  22.5 เมกะวัตต์ มั่นใจหนุนเป้าทั้งยอดทั้งปีมียอดเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สะสมได้ 150 เมกะวัตต์ตามแผน

นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าขยายพอร์ตโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ทั้งภายในและภายนอกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป โดยตั้งเป้ายอดเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเป็น 150 เมกะวัตต์ จากปีก่อนที่มียอดเซ็นสัญญา 92 เมกะวัตต์

ล่าสุดบริษัทได้เซ็นสัญญากับบริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด เพื่อดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) โครงการเมกาบางนา จำนวน 13 อาคาร บนพื้นที่หลังคา ทั้งหมด 62,000  ตารางเมตร กำลังผลิตติดตั้งรวม 10 เมกะวัตต์  มูลค่า 245 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการตอกย้ำแผนการขับเคลื่อนการขยายพอร์ตพลังงานหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ โครงการเมกาบางนา ถือเป็นการดำเนินการติดตั้งระบบ Solar Rooftop นอกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอที่มีขนาดใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการให้บริการในธุรกิจติดตั้งระบบ Solar Rooftop  ซึ่งจะรวมไปถึงบริการหลังการขายให้กับลูกค้าเป็นระยะเวลา 20 ปี โดยมีแผนดำเนินการติดตั้งตั้งแต่ภายในเดือนมิถุนายนนี้ และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2566 พร้อมทยอยรับรู้รายได้เข้ามาทันที

นอกจากนี้ ภายในไตรมาส 2/65 นี้ บริษัทเตรียมเซ็นสัญญาติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) อีกประมาณ  3 โครงการ คิดเป็นกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 15.9 เมกะวัตต์ และเตรียมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) จำนวน 4 โครงการ ภายใต้กำลังผลิตไฟฟ้ารวม 22.56 เมกะวัตต์ ทำให้มั่นใจว่า เป้ายอดเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์สะสมในปี 2565 มีโอกาสเพิ่มเป็น 150 เมกะวัตต์ ตามแผนที่วางไว้อย่างแน่นอน

ด้านนางสาวพลินี คงชาญศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (SFD) ระบุว่า WHAUP เป็นผู้นำในการให้บริการด้านสาธารณูปโภคและพลังงานอย่างครบวงจรระดับชั้นนำของประเทศ  โดยมีทีมเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านวิศวกรรมที่มีประสบการณ์ในการให้บริการอย่างมืออาชีพ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้ SFD มีความเชื่อมั่นในศักยภาพในการบริการของ WHUP

ทั้งนี้ ศูนย์การค้าเมกาบางนา ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการติดตั้ง Solar Rooftop นอกจากจะช่วยลดต้นทุนด้านการใช้พลังงานไฟฟ้า ตลอดอายุการใช้งาน 25 ปี หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,040 ล้านบาท ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Offset) สู่ชั้นบรรยากาศได้ถึง 210,592 ตัน ตามนโยบายรักษ์โลก ลดโลกร้อน และลดการเกิดภาวะเรือนกระจกได้อีกด้วย

*******

- Advertisement -