บล.เอเซีย พลัส:

ปันผลดีกว่าคาด

กำไรปกติ 4Q64/65 (ม.ค. – มี.ค. 65) ที่ 468 ล้านบาท เติบโต 19% QoQ (-16% YoY) จากยอดขายขยายตัว รวมถึงสัดส่วน SG&A/Sales ลดลง ขณะที่กำไรปกติทั้งปีดีกว่าคาด 7% อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% YoY เชื่อมีโมเมนตัมต่อในปีนี้ จึงคงคาดกำไรปกติปี 2565/66 สูงขึ้น 12% YoY

ราคาหุ้น STANLY มี PBV ซื้อขายที่ 0.63 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตราว 1 S.D. และกลุ่มฯ คาดช่วย Limit Downside ของราคาหุ้น ขณะที่สถานะการเงินเป็น Net cash ราว 6.1 พันล้านบาท (ราว 47% ของ Market Cap) และการลงทุนขนาดใหญ่เริ่มเบาลง นำไปสู่การยกระดับอัตราการจ่ายเงินปันผลมาที่ 42.8% จากค่าเฉลี่ย 3 ปีก่อนที่ 34% คิดเป็น DPS ที่ 8.5 บาทต่อหุ้น ดีกว่าคาด เทียบเท่า Div yield ประมาณ 4.9% ขึ้น XD วันที่ 11 ก.ค. 65

กำไรปกติ 4Q64/65 ฟื้นตัว 19% QoQ ส่วนทั้งปีดีกว่าคาดเพิ่ม 45% YoY

กำไรสุทธิงวด 4Q64/65 (ม.ค. – มี.ค. 65) อยู่ที่ 473.4 ล้านบาท หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 5.7 ล้านบาท มีกำไรปกติ 467.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% QoQ (-16% YoY) จากยอดขายเติบโต 9% QoQ (ทรงตัว YoY) เป็นไปในทิศทางเดียวกับยอดผลิตรถยนต์ไทย งวด 1Q65 เพิ่ม 1.3% QoQ (+3% YoY) ส่วนยอดผลิตรถจักรยานยนต์ลบ 2.4% QoQ (-5% YoY) ขณะที่ Operating profit margin เร่งตัวเป็น 11.9% เทียบกับ 11.2% ในงวดก่อน (4Q63/64 ที่ 15.3%) เนื่องจากสัดส่วน SG&A/Sales ลดลงเหลือ 6.8% จาก 7.8% งวดก่อน (4Q63/64 ที่ 8.5%) สะท้อนการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด ชดเชย Gross Margin (GPM) ลดลงมาอยู่ที่ 18.8% จาก 19% ในงวด 3Q64/65 (4Q63/64 ที่ 23.8%) ตามสภาวะ Inflation จากต้นทุนวัตถุดิบอย่างเม็ดพลาสติก

โดยรวมกําไรปกติ 2564/65 เท่ากับ 1.5 พันล้านบาท (+45% YoY) ดีกว่าคาด 7% เพราะ Operating profit margin สูงกว่าคาดการณ์ 10.1% เป็น 10.8% เพิ่มจาก 7.6% งวดปีก่อน แม้สัดส่วน SG&A/Sates ที่ 7.5% (คาด 6.4%) ทรงตัวจากปี 2563/64 แต่ Gross Margin ดีกว่าที่ประเมินเท่ากับ 18.3% (คาด 16.5%) เร่งตัวจาก 15.1% ปีก่อน หนุนด้วย Economies of scale อานิสงค์จากยอดขายขยายตัวตามคาดการณ์ 16% YoY อยู่ที่ 1.36 หมื่นล้านบาท ขับเคลื่อนด้วยยอดผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ช่วงเดียวกัน (เม.ย. 64 – มี.ค. 65) สูงขึ้น 18% และ 6% YoY ตามลำดับ

ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรปกติปี 2565/66 (เม.ย. 65 – มี.ค.66) อยู่ที่ 1.68 พันล้าน บาท (สัดส่วน 85% ของกำไร Pre-COVID) เติบโต 12% YoY จากแนวโน้มยอดขายเพิ่มขึ้น 7% YoY หนุนด้วยการฟื้นตัวของยอดผลิตรถยนต์และคาด Operating profit margin 11% ดีขึ้นตามการประหยัดจากขนาด (สมมติฐาน GPM 17.5% และ SG&A/Sales ที่ 6.5%) โดยกำไรปกติ 1Q65/66 (เม.ย. 65 – มิ.ย. 65) อ่อนตัวตามปัจจัยฤดูกาล ก่อนจะฟื้นตัว QoQ ในช่วงที่เหลือของปี หลังผ่าน Low Season และการ Reopening ประเทศ จะเป็นปัจจัยประคองกำลังซื้อในประเทศ ในยามที่ค่าครองชีพถูกกดดันจากเงินเฟ้อ

สำหรับปัญหา Supply Chain มองว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อกำไรรายไตรมาส แต่หลังค่ายรถยนต์หาชิ้นส่วนได้ สามารถกลับมาผลิตทดแทนได้เช่นกัน ด้าน Gross Margin แม้ต้นทุนเผชิญกับสภาวะ Inflation อย่างไรก็ตาม สมมติฐานฝ่ายวิจัยค่อนข้างอนุรักษ์นิยมต่ำกว่าปีก่อน ทั้งนี้ภายใต้ Sensitivity Analysis พบว่าทุก 1% ของ Gross Margin เพิ่มขึ้น (ลดลง) จากสมมติฐานปี 2565/66 จะทำให้กำไรปกติและมูลค่าพื้นฐานเพิ่มขึ้น (ลดลง) 7%

ซื้อ … Net Cash ทำให้อัตราการจ่ายเงินปันผลเริ่มสูงขึ้น

อิง PER 11 เท่า ให้ FV ปี 2565/66 ที่ 241 บาท คงแนะนำ ซื้อ เพราะชิ้นส่วนไฟรถยนต์สามารถเติบโตพร้อมกับ EV Car กอปรกับราคาหุ้นมี PBV ซื้อขายที่ 0.63 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีราว 1 SD และมี PER ที่ 7.8 เท่า ไม่แพงเมื่อเทียบกับ AH (PBV 0.9, PER 9.4 เท่า) และ SAT (PBV 0.98, PER 7.8 เท่า) คาดช่วย Limit Downside ราคาหุ้น

นอกจากนี้สถานะการเงินแกร่ง ณ สิ้นงวด 4Q64/65 เป็น Net Cash (รวมเงินลงทุนระยะสั้น 3.5 พันล้านบาท) ประมาณ 6.1 พันล้านบาท (47% ของ Market Cap และ 27% ของสินทรัพย์) ขณะที่การลงทุนเริ่มเบาลง สะท้อนจาก CAPEX งวดปี 2564/65 อยู่ที่ 927 ล้านบาท ลดลงจาก 1.6 พันล้านบาทปีก่อน, 3.3 พันล้านบาทในปี 2562/63 และ 2.6 พันล้านบาทปี 2561/62 ทำให้บริษัทฯ ยกระดับการจ่ายเงินปันผลงวดปี 2564/65 เป็น 42.8% จาก 39.7% (5.5 บาทต่อหุ้น) ปีก่อน และเฉลี่ย 32% (8.25 บาทต่อหุ้น) ในปี 2561/62 – 2562/63 (นโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิ) โดย DPS งวดปี 2564/65 สูงกว่าคาดที่ 6.5 บาทมาที่ 8.5 บาทต่อหุ้น (เทียบเท่าเงินสด 651 ล้านบาท, CFO เฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังราว 2.75 พันล้านบาทต่อปี) คิดเป็น Div yield 4.9% ขึ้น XD วันที่ 11 ก.ค. 65

ประเด็นความเสี่ยง

1.สภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว มีโอกาสทำให้ยอดผลิตรถยนต์ต่ำกว่าสมมติฐาน อาจส่งผลต่อประมาณการยอดขาย และส่งผลต่อเนื่องถึง Economies of scale

2. โรงงาน Lamp 8 ที่เริ่มเปิดดำเนินการอาจมีของเสียการผลิตสูง และอาจส่งผลให้ Gross Margin ต่ำกว่าคาดการณ์

3. ต้นทุนวัตถุดิบ (เช่น Resin) ที่ปรับตัวสูงขึ้น ตามแนวโน้มเงินเฟ้อ อาจส่งผลต่อ Gross Margin ให้ต่ำคาดได้

STANLY แนะนํา : ซื้อ

ราคาปัจจุบัน (บาท) 172.00

ราคาเป้าหมาย (บาท) 241.00

Upside (%) 40.1

Dividend Yield (%) 4.9

- Advertisement -