Our View? “ยังคงพักต่อ”

คาดตลาดวันนี้ “มีโอกาสปรับลดลง” ตามทิศทางตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ ที่มีความกังวลต่อเศรษฐกิจถดถอยเพิ่มขึ้น ทั้งจาก (1) ตัวเลขประมาณการ GDP ครั้งสุดท้าย 1Q165 ของสหรัฐฯ หดตัว 1.6% ต่ำกว่าประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 ที่หดตัว 1.4% ตามลำดับ ซึ่งหากตัวเลข GDP – 2Q/65 ออกมาหดตัว จะบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากมีการหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน และ (2) การส่งสัญญาณของประธานเฟด และประธาน ECB ในการประชุมประจำปีของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด อาจส่งผลกระทบต่อการไหลเข้าของ Fund Flow ส่วนเกินลดลงในระยะถัดไป

ขณะที่เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อ (1) จีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19 มากขึ้น ทั้งปรับลดระยะเวลากักตัวสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในสถานที่ซึ่งรัฐบาลจัดเตรียมไว้เหลือเพียง 7 วัน จากเดิม 14 วัน และกักตัวที่บ้านพักหลังจากนั้น ลดลงเหลือเพียง 3 วัน จากเดิม 7 วัน มองเป็นการส่งสัญญาณดีจากการเตรียมเปิดประเทศของจีนในระยะถัดไป คาดเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-สายการบิน (AOT, MINT, CENTEL, ERW, SPA, AAV และ BA) และ (2) ติดตามการยกเลิกมาตรการกีดกันสินค้านำเข้าจีนของสหรัฐ ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะหมดอายุลงในช่วงเดือน ก.ค. หากไม่มีมาตรการใดออกมาเพิ่มเติม มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางตลาดในภูมิภาค

สำหรับสัญญาราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ส.ค. ลดลง 1.98 ดอลลาร์ หรือ 1.8% อยู่ที่ 109.78 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซิน น้ำมันกลั่น รวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น @2.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะลดลง 452,000 บาร์เรล และ 525,000 บาร์เรล ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ยังได้รับแรงหนุนจาก Supply ในตลาดที่ตึงตัวมากขึ้น หลังกำลังการผลิตของซาอุดีอาระเบีย และ UAE ใกล้เต็มศักยภาพแล้ว พร้อมกับลิเบีย และเอกวาดอร์ กำลังเผชิญภาวะไม่สงบทางการเมือง ซึ่งเป็นปัจจัยกระทบต่อการผลิตน้ำมัน

ขณะที่แนะติดตามการประชุม OPEC+ ซึ่งหารือกันเกี่ยวกับการยืนยันกำลังการผลิตในเดือนส.ค. แต่จะยังไม่มีการหารือเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันในเดือนก.ย. โดยการประชุมก่อนหน้ามีมติเพิ่มกำลังการผลิต 648,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค.และส.ค. พร้อมติดตามผลการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐและอิหร่าน หากมีสัญญาณบวกจากการประชุมดังกล่าว มองเป็นการเปิดทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันดิบได้อีกครั้ง ทําให้มองว่าการปรับขึ้นของราคาน้ำมันหลังจากนี้อาจเป็นไปอย่างจำกัด

ทางด้านปัจจัยในประเทศ ติดตาม Window Dressing – 2Q/65 อย่างไรก็ตาม อาจไม่ส่งผลต่อตลาดมากนัก ขณะที่คาดมีแรงเก็งกำไรระยะสั้นหุ้นในกลุ่ม Big Cap. ได้บ้าง รวมถึง (1) กลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB และ BBL) หลัง ธปท. ส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเดือน ส.ค. และ (2) กลุ่มท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน-รพ. จากจํานวน นทท. ต่างชาติที่มีแนวโน้มดีขึ้น 2H765 โดยเฉพาะ 4Q/65 หลังเปิดประเทศเต็มรูปแบบ

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “AOT” ได้ประโยชน์จากจำนวน นทท. ต่างชาติ โดยเฉพาะ 4Q/65 คาดสูงถึง 4.5 ล้านคน และ คาดผลการดำเนินงานมีแนวโน้มขาดทุนลดลง หลังการเดินทางเริ่มเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ราคาเป้าหมาย 74.83 บาท (ราคาเฉลี่ยจาก Settrade consensus 30/6/65)

 

 

- Advertisement -