ให้นําหนักการฟื้นของ SET ต่ำ เน้นกลยุทธ์ลงทุนรายตัว
ประเมินถ้อยแถลงประธานเฟดเมื่อคืนนี้เป็นลบต่อตลาด จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่สูงขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อที่ยากต่อการควบคุม หรือกดให้กลับมาอยู่ในระดับเป้าหมายที่ 1-4% และมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่เศรษฐกิจรวมถึงกำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาดจะอยู่ในทิศทางชะลอตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยจากการประเมินของเราเชื่อว่ากลุ่มธนาคารกลางสำคัญ (รวมถึงแบงก์ชาติของไทย) จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อกดเงินเฟ้อและขยายระดับ policy space ให้มากพอ สำหรับการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งถัดไป (ซึ่งอาจเกิดขึ้นในปี 66) ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรยังคงปรับลง เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นต่อ สะท้อนความต้องการเงินสดหรือ safe-heaven ที่ยังคงสูงกว่ากลุ่มสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) ยังคงปรับลดลง สะท้อนภาพ risk-off
ยังเน้นเลือกหุ้นรายตัวในกลุ่มที่แนวโน้มกำไรเป็นบวก กลุ่มหุ้นเล็ก หรือ growth stocks ที่อ่อนไหวต่อดอกเบี้ยขาขึ้นและเงินเฟ้อจะมีการเคลื่อนไหวที่แย่กว่า ขณะที่กลุ่มหุ้นใหญ่ SET50 ยังมีโครงสร้างที่แข็งแกร่งกว่า สามารถเลือกเก็งกำไรได้ โดยเน้นที่ 1) กลุ่มที่โมเมนตัมกำไรเป็นขาขึ้น อาทิ ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า อาหาร และ 2) กลุ่มที่เป็นเป้าหมาย Window dressing ได้แก่ การเงิน โรงไฟฟ้า ค้าปลีก สื่อสาร ซึ่งหุ้นที่เราชอบ ได้แก่ SPA, VRANDA, MBK, CPN, CRC, CPF, TU, KSL, MTC, TIDLOR, SAWAD, BAM, SCGP, BGRIM, GPSC, MAKRO, CPALL, ADVANC, เป็นต้น
ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มเครื่องดื่ม อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE 2) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR 4) กลุ่มอาหารและเกษตร CPF, GFPT, TFG, TU, KSL, KTIS, KBS, BIS, ASIAN 5) หุ้นประกัน TIPH, BLA, TVI, THREL (แค่เก็งกำไรรับไทยประกันเข้า IPO) 6) หุ้นพลังงาน-ปิโตรที่ไม่กระทบจากการขอความร่วมมือ IVL, OR 7) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA
ภาพรวมกลยุทธ์: แรงทำกำไรระยะสั้นอาจกด SET แกว่งตัว 1,570-1,580 จุด แต่คาดยังไม่เสียโมเมนตัมเชิงบวก เน้นเลือกเก็งกำไรหุ้นที่โมเมนตัมกําไรเป็นบวก (ท่องเที่ยว อาหาร) ทยอยสะสมหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจฟื้นในช่วงครึ่งหลัง (กลุ่มธนาคาร ค้าปลีก การเงิน) และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน (DR และ ETF อิง หุ้นจีน)
หุ้นแนะนำ: SPA*, VRANDA*, TTCL*, MAKRO*
แนวรับ: 1,565-1,570 / แนวต้าน : 1,590 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
ประเด็นการลงทุน
- “พาวเวล” ยันเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยสู้เงินเฟ้อ – นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวยืนยันว่า เฟดมีความมุ่งมั่นในการสกัดเงินเฟ้อ แม้การใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินจะชะลอการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
- สหรัฐเผยเศรษฐกิจหดตัวมากกว่าคาดใน Q1/65 – ตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายสำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/65 หดตัว 1.6% จากเดิมที่รายงานว่าหดตัวเพียง 1.4% และ 1.5% ในตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 ตามลำดับ
- EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน – สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 400,000 บาร์เรล
- เวิลด์แบงก์ทบทวน GDP ไทยปี 65 เป็นโต 2.9% ก่อนฟื้นโต 4.3% ในปี 66 – ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ประจำประเทศไทย คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 65 จะขยายตัวที่ 2.9% ลดลงจากประมาณการเดิม (ธ.ค. 64) ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.9% โดยมองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 65 จะฟื้นตัวได้ดีขึ้น จากแรงกระตุ้นของการบริโภคภาคเอกชน และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้เท่ากับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ได้ในช่วงไตรมาส 4/65
- SET50/SET100 : ประกาศหุ้นเข้าออกดัชนี มีผลตั้งแต่ 1 ก.ค. – 31 ธ.ค. 65
- SET50 เข้า (+) BLA, JMT, JMART / ออก (-) COM7, RATCH, STGT
- SET100 เข้า (+) FORTH, ONEE, PSL, TIPH / ออก (-) BPP, RS, SIRI, TVO
- SETHD เข้า (+) BCH, CHG, HANA, SAWAD / ออก (-) BPP, PTG, SIRI, TVO
ประเด็นติดตาม: 30 มิ.ย. – US Initial Jobless Claims / 1 ก.ค. – EU CPI, EU Manufacturing PMI, US ISM Manufacturing PMI / 6 ก.ค. – อาจเห็นการยกเลิกคำสั่งปธน.เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน / 8 ก.ค. – US Nonfarm Payrolls, US Participation Rate, US Unemployment Rate / 13 ก.ค. US CPI / 13-20 ก.ค. การรายงานงบกลุ่มธนาคารไทย
ประเด็นลงทุนสำหรับหุ้นแนะนำ
- เก็งกำไร SPA* (13) : Laggard play ในกลุ่มท่องเที่ยว โดดเด่นด้วย ROIC ช่วงก่อนโควิดที่สูงกว่ากลุ่มโรงแรมโดยรวม ตัดขาดทุน 7.80 บาท
- เก็งกำไร VRANDA* (9) : Laggard play ในกลุ่มท่องเที่ยว ขณะที่ผลการดำเนินงานคาดกลับมามีกำไรเร็วกว่าคนอื่น ตั้งแต่ไตรมาส 2/65 ตัดขาดทุน 6.80 บาท
- เก็งกำไร TTCL* (5.60): ผลการดำเนินฟื้นตัว (tumaround) จากราคาน้ำมันดิบและก๊าซที่สูงหนุนวัฏจักรการลงทุนกลุ่มพลังงาน ขณะที่หุ้นไม่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ตัดขาดทุน 4.98 บาท
- เก็งกำไร MAKRO* (38): ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวจากการเปิดเมืองและเปิดประเทศ ตัดขาดทุน 33.50 บาท
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
Market News & Factors
ตลาดหุ้นสหรัฐ – ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันพุธ (29 มิ.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณ เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงก็ตาม (อินโฟเควสท์)
ตลาดหุ้นยุโรป – ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงในวันพุธ (29 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น หลังประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ (อินโฟเควสท์)
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น – ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบเป็นครั้งแรกหลังปรับตัวขึ้น 4 วันติดต่อกัน เนื่องจากดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐทรุดตัวลงอย่างหนัก ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ตลอดจนนักลงทุนเทขายทํากําไร (อินโฟเควสท์)
ตลาดน้ำมัน – สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (29 มิ.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินและน้ำมันกลั่นพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ (อินโฟเควสท์)
“พาวเวล” ยันเดินหน้า ขึ้นดอกเบี้ยสู้เงินเฟ้อ – นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวยืนยันว่า เฟดมีความมุ่งมั่นในการสกัดเงินเฟ้อ แม้การใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินจะชะลอการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (อินโฟเควสท์)
สหรัฐเผยเศรษฐกิจหดตัว มากกว่าคาดใน Q1/65 – ตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายสำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/65 หดตัว 1.6% จากเดิมที่รายงานว่าหดตัวเพียง 1.4% และ 1.5% ในตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 ตามลำดับ (อินโฟเควสท์)
EIA เผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ ลดลง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน – สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 400,000 บาร์เรล (อินโฟเควสท์)
เวิลด์แบงก์ ทบทวน GDP ไทย ปี 65 เป็นโต 2.9% ก่อนฟื้นโต 4.3% ในปี 66 – ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ประจำประเทศไทย คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 65 จะขยายตัวที่ 2.9% ลดลงจากประมาณการเดิม (ธ.ค. 64) ที่คาดว่าจะขยายตัวได้ 3.9% โดยมองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 65 จะฟื้นตัวได้ดีขึ้น จากแรงกระตุ้นของการบริโภคภาคเอกชน และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้เท่ากับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ได้ในช่วงไตรมาส 4/65 (อินโฟเควสท์)
SET50/SET100 : ประกาศหุ้น เข้าออกดัชนี มีผลตั้งแต่ 1 ก.ค. – 31 ธ.ค. 65
- SET50 เข้า (+) BLA, JMT, JMART / ออก (-) COM7, RATCH, STGT
- SET 100 เข้า (+) FORTH, ONEE, PSL, TIPH / ออก (-) BPP, RS, SIRI, TVO
- SETHD เข้า (+) BCH, CHG, HANA, SAWAD / ออก (-) BPP, PTG, SIRI, TVO
Report & Corporate News
OR Maintained BUY TP: 33.00 บาท – เรามีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มกำไรของ OR ในอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้าจาก: 1) ความต้องการที่เพิ่มขึ้น สำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่น้ำมัน (อาหารและเครื่องดื่ม) และ 2) EBITDA margin ที่ ยั่งยืนจากการจัดการสินค้าคงคลังที่ยืดหยุ่นมากขึ้น และการควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจาก IVL แล้ว OR ยังเป็นหนึ่งหุ้นเด่นของเรา เนื่องจากทั้ง 2 บริษัทน่าจะเห็นโมเมนตัมของกำไรที่เป็นบวกในอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้า คงคําแนะนํา ซื้อ ราคาเป้าหมาย: 33.00 บาท
Media OVERWEIGHT – เราคาดว่ากลุ่มสื่อจะน่าประทับใจในปี 2022 หลังจากขาดทุนอย่างหนักในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ค่าโฆษณา โดยเฉพาะสื่อนอกบ้าน (OOH) จะฟื้นตัวสูงสุดด้วยการกลับมาเปิดเต็มรูปแบบในไทย สื่อในบ้าน (In home) อาจเติบโตช้ากว่าแต่จะยังดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เราประมาณการกำไรหลักของกลุ่มสื่อไทยรวมกันที่ 2.6 พันล้านบาท (+464% yoy) ในปี 2022 เริ่มต้นคำแนะนำของกลุ่มสื่อด้วย OVERWEIGHT โดยมี Top Pick ของเราคือ ONEE และ MAJOR
AOT – บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) พบปัญหา สัมภาระจากเที่ยวบินเปลี่ยนลำตกค้างบางส่วน แต่ยังคงสามารถบริหารจัดการได้ ด้วยการจัดเตรียมพื้นที่รองรับการจัดเก็บสัมภาระของผู้โดยสารเพื่อรอสายการบินนำส่งให้ผู้โดยสาร ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากเที่ยวบินต้นทางบางเที่ยวบินที่มาจากยุโรปมาถึง ทสภ.ล่าช้า ทำให้ไม่สามารถขนถ่ายสัมภาระที่ต้องเปลี่ยนลำได้ทัน เที่ยวบินที่จะต้องเดินทางต่อ ปัญหาที่เกิดขึ้น ทสภ.ได้เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยประสานผู้ให้บริการภาคพื้นทั้ง บมจ. การบินไทย (THAI) และ บริษัท บริการภาคพื้นการบินกรุงเทพเวิลด์ไวด์ไฟล์ทเซอร์วิส จำกัด (BFS) ให้ดำเนินการขนถ่ายสัมภาระให้ทันเวลา หรือหากไม่ทันขอให้เร่งส่งสัมภาระไปยังเที่ยวบินถัดไปโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ ทสภ. พร้อมร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้รักษาคุณภาพการให้บริการให้เป็นมาตรฐานสากลต่อไป (อินโฟเควสท์)
SCM – บมจ.ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ “SCM” เดินหน้าปั้นนักขายมือทอง พร้อมขยายฐานกลุ่มสมาชิกแบบต่อเนื่อง ควบคู่ ไปกับการปั้นแบรนด์ผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ล่าสุด “นพ.สิทธวีร์ เกียรติชวนันต์” และ CEO นพกฤษฎ์ นิธิเลิศวิจิตร ประกาศความสำเร็จที่ SCM ปั้นนักธุรกิจในสังกัด 3 คน ขึ้นแท่นเป็นนักขายมือทองแห่งวงการ MLM เตรียมเข้ารับรางวัลนักธุรกิจขายตรงดีเด่น รางวัล TDSA AWARD 2022 จากสมาคมการขายตรงไทย ในเร็วๆ นี้ (อินโฟเควสท์)