Our View? “ยังอยู่ในภาพของการรีบาวด์”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Up” มองแนวรับที่บริเวณ 1,555 / 1,550 และแนวต้านที่บริเวณ 1,570 / 1,580 ยังให้น้ำหนักการฟื้นของตลาดตามทิศทางตลาดต่างประเทศ จากการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC รอบเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ไม่ได้มีการส่งสัญญาณใหม่ใดๆ โดยยังคงให้ความสำคัญกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดการเร่งตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ โดยคณะกรรมการคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งที่เพียงพอให้ FED มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.50-0.75% ในการประชุม FOMC เดือน ก.ค. นี้ ตามที่ตลาดคาดไว้ก่อนหน้า อีกทั้งเมื่อคืนนี้แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ของ FED สาขาแอตแลนตาคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐ 2Q′65 จะหดตัวลงที่ระดับ 1.9% จากเดิมคาดที่หดตัว 2.1% แม้คาดการณ์ว่าจะหดตัวในระดับที่น้อยลงแต่ยังแสดงถึงภาวการณ์หดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน และเป็นการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่ US Bond Yield เมื่อคืนนี้ยังคงเกิดภาวะ Inverted yield curve ในพันธบัตรอายุ 2 – 10 ปี ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน สะท้อนมุมมองตลาดกังวลการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทั้งนี้เราคาดว่าหากเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยจริง คาด FED มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่น้อยลง ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดได้ในระยะถัดไป

ในส่วนของตลาดในภูมิภาคยังต้องติดตามแนวโน้มการยกเลิกมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจีนของสหรัฐมูลค่ากว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อสกัดการเร่งตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อสหรัฐ รวมทั้งแนวโน้มการออกมาตรการอัดฉีดงบลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของจีนวงเงินราว 7.47 หมื่นล้านดอลลาร์ คาดจะเป็นปัจจัยหนุนทิศทางตลาดในภูมิภาคพื้นตัวขึ้นได้

ทางด้านสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. เมื่อคืนนี้รีบาวด์ขึ้นแรง +4.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 102.73 ดอลลาร์/บาร์เรล +4.26% โดยได้รับปัจจัยหนุนการฟื้นตัวจากการที่รัสเซียมีคำสั่งให้โครงการแคสเปียน ไปป์ ไลน์ คอนซอร์เทียม (Caspian Pipeline Consortium: CPC) ระงับการดำเนินการเป็นเวลา 30 วัน โดยอ้างเหตุผล จากการรั่วไหลของน้ำมัน ซึ่ง CPC ต้องปฏิบัติตามคำตัดสินของศาล คาดจะกระตุ้นความกังวลด้านอุปทานน้ำมันตึง ตัวระยะสั้น ผสานกับสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมัน เบนซินรายสัปดาห์ลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 0.5 ล้านบาร์เรล สะท้อนอุปสงค์น้ำมันเบนซินในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม มองเป็นปัจจัยกระตุ้นการฟื้นตัวของราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานระยะสั้นเท่านั้น เราคาดว่าราคาพลังงานยังมี Upside ที่จำกัดมากขึ้น ตามแรงกดดันของแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยในระยะถัดไป

สำหรับปัจจัยในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาช่วยหนุนการฟื้นตัวของทิศทางตลาดหุ้นไทยโดนเด่นมากนัก ขณะที่มองความไม่แน่นอนทางการเมืองคาดจะเป็น Noise รบกวนตลาดได้บ้าง อีกทั้งเราเริ่มมีความกังวลต่อประเด็นตลาดเริ่มกลับมากังวลต่อการเร่งตัวขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในประเทศ คาดจะหนุนทิศทางราคาหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลปรับตัวขึ้นได้อีกครั้ง

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “MAKRO”

กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 35.75 / 34.75 Target 37.50 / 40.00 Stop <34.25

- Advertisement -