WICE เผยทิศทางครึ่งปีหลัง 65 เติบโตต่อเนื่อง ทำนิวไฮ 3 ปีซ้อน ธุรกิจเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น เดินหน้าทำนิวไฮ 3 ปีซ้อน มุ่งเน้น Key Drivers เพิ่มปริมาณขนส่งสินค้าทางทะเล ขนส่งข้ามแดน ผนึกบริษัทในเครือขยายตลาดจีน สหรัฐฯ เข้าดำเนินงานคลังสินค้ารูปแบบออนไซต์ 15,000 ตร.ม. ลุ้นปิดดีลเสริมบริการโลจิสติกส์ E-commerce คาดมีความชัดเจนในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ด้านผลงานปีนี้ มั่นใจรายได้โตตามเป้าที่ 9,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมยื่นไฟลิ่ง ETL บริษัทในเครือ ส่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai คาดเสนอขาย IPO พร้อมส่งหุ้นเข้าเทรดได้ภายในปีนี้

 

นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มดี จากการเข้าสู่ช่วงธุรกิจไฮซีซั่น คาดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นปีที่ 3 โดยมีปัจจัยหนุนด้านมาตรการคลายล็อคดาวน์ของประเทศจีน อีกทั้งสหรัฐฯ มีการพิจารณาลดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน และสถานการณ์ค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ส่งผลให้มีความต้องการขนส่งสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น อาทิ กลุ่มสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน โดยบริษัทมุ่งเน้นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนธุรกิจ (Key Drivers) ได้แก่ การเพิ่มปริมาณขนส่งสินค้าทางทะเล การขนส่งสินค้าข้ามแดน และความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจ

สำหรับบริการขนส่งทางทะเล (Sea Freight) มีปริมาณความต้องการขนส่งเพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศสหรัฐฯ ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทสามารถขนส่งสินค้าได้จำนวน 5,091 TEUS หรือคิดเป็นร้อยละ 51 โดยในปี 2565 ตั้งเป้าปริมาณการขนส่งทางทะเลโดยเฉพาะประเทศสหรัฐฯ ทั้งสิ้นจำนวน 10,000 TEUS

ขณะที่ความร่วมมือกับสาขาต่างประเทศที่ให้บริการจำนวน 9 แห่ง ประกอบด้วย WICE Logistics (Singapore) Pte.Ltd., WICE Logistics (Malaysia) Sdn.Bhd. (สาขากัวลาลัมเปอร์, ยะโฮร์ บาห์รู และ ปีนัง), WICE Logistics (Hong Kong) Ltd. (สาขาฮ่องกง, เซี่ยงไฮ้, กวางโจว, เซินเจิ้น และ หนิงโป) เพื่อขยายปริมาณการขนส่งระหว่างประเทศกลุ่มอาเซียน-จีน และ จีน-สหรัฐฯ รวมถึงรองรับการย้ายฐานการผลิตของประเทศจีนกลับมาประเทศไทย ส่งผลให้มีจำนวนการขนส่งที่เพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายการให้บริการดังกล่าวจำนวน 3,000 TEUS ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรก 2565 บริษัทสามารถขนส่งได้เป็นจำนวน 1,702 TEUS หรือคิดเป็นร้อยละ 56.73

ด้านการขนส่งทางอากาศ (Air Freight) มีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ของประเทศจีน โดยบริษัทมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งคาดว่า หากประเทศจีนมีการเปิดประเทศในช่วงไตรมาส 4/65 จะส่งผลให้มีจำนวนเที่ยวบินการขนส่งเพิ่มขึ้น

ส่วนธุรกิจขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross Border Service) ภายใต้การบริหารงานของบริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETL มีปริมาณความต้องการขนส่งเพิ่มขึ้นจากการให้บริการขนส่งทางรถไฟ (Road-Rail Service) ซึ่งเป็นทางเลือกที่ช่วยลดปัญหาการติดค้างของสินค้าหน้าด่านศุลกากร โดยคาดว่าหากสถานการณ์ผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ของประเทศจีนดีขึ้นและสามารถเปิดด่านขนส่งสินค้าได้ จะส่งผลให้บริษัทมีปริมาณการขนส่งที่เพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีการติดตามสถานการณ์ต่างๆ ที่จะส่งผลกับต้นทุนการให้บริการ อาทิ ค่าระวางเรือที่ปรับตัวลดลง สถานการณ์เปิดด่านขนส่งสินค้าของประเทศจีน และ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น พร้อมทั้งเตรียมแผนการให้บริการและแผนการบริหารต้นทุนล่วงหน้าเพื่อรักษาอัตราการทำกำไรให้อยู่ในเกณฑ์ดีสม่ำเสมอ

นอกจากนี้ บริษัท ไวส์ ซัพพลายเชน โซลูชั่นส์ จำกัด  ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนโซลูชั่นส์แบบครบวงจร ทั้งงานคลังสินค้า การกระจายสินค้า การขนส่งสินค้า (Equipment) ขนาดใหญ่ บริษัทได้เข้าดำเนินการบริหารคลังสินค้าในกลุ่มสินค้าประเภทแพคเกจจิ้งของบริษัทในเครือบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) พื้นที่ขนาด 15,000 ตร.ม. โดยเป็นการให้บริการรูปแบบออนไซต์ (Onsite Warehouse Management) ครอบคลุมการออกแบบขั้นตอนการปฏิบัติงาน วางแผนและจัดหากำลังคน รวมถึงควบคุมการทำงานภายในคลังสินค้า อีกทั้ง บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรผู้จัดจำหน่ายและบริหารช่องทางการขาย E-commerce แบบครบวงจรของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะมีความชัดเจนในช่วงเดือนสิงหาคมนี้

“แม้ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทได้พบกับปัจจัยลบต่างๆ ที่เกิดขึ้น อาทิ ราคาน้ำมันและภาวะเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม บริษัทก็สามารถรักษาการเติบโตให้อยู่ในเกณฑ์ดีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับทิศทางครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงมุ่งมั่นดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้ พร้อมทั้งมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจร่วมกับพันธมิตรครอบคลุมทุกการให้บริการ ขณะเดียวกัน บริษัทประเมินสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อบริหารจัดการต้นทุนการขนส่ง และ รักษาความสามารถในการทำกำไรให้อยู่ในระดับดี ประกอบกับการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นธุรกิจโลจิสติกส์ อีกทั้งปัจจัยเสริมด้านมาตรการผ่อนคลายล็อคดาวน์ของจีน และการพิจารณาลดภาษีนำเข้าสินค้าบางประเภทจากจีนของสหรัฐฯ และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีปริมาณความต้องการขนส่งเพิ่มขึ้น คาดว่าจะสร้างการเติบโตของรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 9,000 ล้านบาท” นายชูเดช กล่าว

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ปัจจุบัน ได้แก่ การขนส่งทางทะเล (Sea Freight) 50%, การขนส่งทางอากาศ (Air Freight) 21%, การขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross Border Service) 22% และ งานซัพพลายเชนโซลูชั่นส์ 7%

ขณะเดียวกัน บริษัทอยู่ระหว่างการนำบริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETL ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยได้แต่งตั้งบริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เป็นแกนนำจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ อยู่ในระหว่างการปรับโครงสร้าง ETL ซึ่งขณะนี้ได้มีการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมต่างๆ เพื่อรอที่จะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ต่อไป โดยคาดว่าจะดำเนินการเสนอขาย IPO และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ได้ภายในปีนี้

“การเตรียมเป้าหมายให้ ETL เพื่อเข้าไปเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวที่สำคัญที่จะทำให้ ETL มีโอกาสในการที่จะขยายธุรกิจให้เติบโตได้ รวมทั้งยังทำให้ ETL มีภาพลักษณ์ที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อลูกค้า คู่ค้า ตลอดจนเป็นการการสร้างรากฐานของ ETL ให้มีความมั่งคง และเติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งยกระดับองค์กรให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างต่อไป” นายชูเดช กล่าว

อนึ่ง บริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETL ดำเนินธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ขนส่งข้ามพรมแดน (Cross-Border Transport Services) ระหว่างประเทศจีน ฮ่องกง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในโมเดลเส้นทางการขนส่งข้ามชายแดน) Cross border) ตามเส้นทาง One Belt One Road ของจีน โดยมีจุดเด่นในการดำเนินงาน ประกอบด้วย ครอบคลุมเส้นทางจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไปถึงเส้นทางเดินรถไปถึงยุโรป มีระบบความปลอดภัยสูงสุด ด้วยระบบล็อคที่ได้มาตรฐาน รวมถึงมีระบบการติดตามตำแหน่งรถด้วย GPS และกล้อง CCTV และมีระบบการตรวจสถานการณ์ขนส่งตลอดเส้นทาง

**********

- Advertisement -