SINGER ฟอร์มเด่นต่อเนื่อง โชว์งบ Q2/65 กำไรนิวไฮอยู่ที่ 265 ล้านบาท โต 44.8% ส่วนรายได้รวมอยู่ที่ 1,426 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.8% ชูกลยุทธ์การขยายซิงเกอร์แฟรนไชส์ ควบคู่การบริหาร Product Mix ด้านธุรกิจ C4C ขยายตัวในอัตราเร่ง ด้วยความแข็งแกร่งของเงินทุน และค่าใช้จ่ายทางการเงินที่มีแนวโน้มลดลงในครึ่งปีหลัง ดันผลงานสิ้นปีทุบสถิติ ปักเป้ากำไรโต 75% จากปีก่อน ด้านบอร์ดไฟเขียวอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลตอบแทนผู้ถือหุ้น 0.30 บ.ต่อหุ้น กำหนดจ่าย 9 กันยายนนี้

 

นายกิตติพงศ์  กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 2/65 กำไรทำสถิติสูงสุดรายไตรมาสได้ต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 265 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,426 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 44.4% อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 29.5% สาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มสินค้าเชิงพาณิชย์เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์กลุ่มตู้แช่ และตู้เติมน้ำมันหยอดเหรียญ ในแง่ของจำนวนทีมขายและเครือข่ายสาขาย่อยของซิงเกอร์แฟรนไชส์ ก็มีการเติบโตตามเป้าหมายอยู่ที่ 5,078 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศ จากเป้าหมายสิ้นปีวางไว้ที่ 7,000 แห่ง

นอกจากนี้ การขยายพอร์ตสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (C4C) ภายใต้แบรนด์รถทำเงินของบริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ยังคงเติบโตโดดเด่น จากเม็ดเงินที่บริษัทได้จากการเพิ่มทุนเข้ามา ทำให้บริหารจัดการได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยงวดไตรมาส 2/65 มีพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 13,475 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นสินเชื่อเช่าซื้อกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าเชิงพาณิชย์ (Hire Purchase : HP) 41% สินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (C4C) 56% ขณะที่ภาพรวมการควบคุมดูแลคุณภาพลูกหนี้ ยังคงสามารถบริหารจัดการได้ดี โดยมีอัตรา NPL อยู่ที่ 3.5% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน และวางเป้าหมายควบคุม NPL ในปีนี้ไม่เกิน 4%

“ภาพรวมกลุ่มลูกค้าของ SINGER ซึ่งถือว่าเป็นเศรษฐกิจในภาคชุมชนยังคงมีความสามารถในการชำระเงินที่ดี มองภาพบวกในกลุ่มสินค้าเชิงพาณิชย์และร้านค้าที่เติบโตโดดเด่นมาโดยตลอดตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา สนับสนุนให้คุณภาพพอร์ตหนี้ในสินค้ากลุ่มนี้ยังดี สำหรับภาพรวม NPL ในกลุ่มสินเชื่อรถทำเงินยังคงอยู่ในระดับต่ำมาก หรือไม่ถึง 1% และกลุ่มบริษัทยังคงเดินหน้าขยายพอร์ตสินเชื่อดังกล่าวให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้”

ทั้งนี้ จากความสำเร็จของผลการดำเนินงาน สนับสนุนให้งวดครึ่งแรกของปี 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,637 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.4% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

สำหรับแนวโน้มในครึ่งปีหลัง คาดว่า SINGER จะยังเดินหน้าเติบโตเชิงรุก สอดรับกับแผนการขยายตลาด ขยายผลิตภัณฑ์ ขยายพันธมิตร และบรรยากาศเศรษฐกิจที่เริ่มกลับมาคึกคัก หลังสถานการณ์โควิดผ่อนคลาย ขณะที่ต้นทุนทางการเงินของบริษัทมีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่อง จากเงินลงทุนที่มีพร้อมขยาย รวมถึงการจ่ายคืนหุ้นกู้บางส่วน สนับสนุนเป้าหมายกำไรสุทธิที่เติบโตได้ราว 75% จากปีก่อนอยู่ที่ 701 ล้านบาท

จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกในอัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นเงินจำนวนเงินทั้งสิ้น 245,921,196 บาท กำหนดวันปิดสมุดทะเบียน (Record Date) ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 กันยายน 2565 โดยจ่ายจากกำไรสุทธิของบริษัท  คิดเป็น 51.1% ของกำไรสุทธิงวดครึ่งปีแรก

*********

- Advertisement -