บล.พาย: 

IVL: บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ส “ธุรกิจ IOD หนุนกำไร 2Q22 สู่จุดสูงใหม่”

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐานใหม่ที่เพิ่มขึ้น 6% เป็น 58.0 บาท เพื่อสะท้อนการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2022 ขึ้น 58% กำไรสุทธิ 2Q22 โต +143% YoY และ +44% QoQ เป็น 2.03 หมื่นล้านบาท นับเป็นกำไรรายไตรมาสที่ยอดสูงใหม่ หนุนจากธุรกิจออกไซด์และอนุพันธ์แบบบูรณาการ (IOD) ที่แข็งแกร่ง หลังจากรับรู้กำไรครั้งแรกจาก Oxiteno เข้ามาใน 2Q22 ซึ่งช่วยชดเชยส่วนแบ่งธุรกิจเส้นใยที่อ่อนตัวลงได้ คาดว่ากำไรจะแข็งแกร่งต่อเนื่องใน 2H22 จาก 1) ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์กลุ่ม CPET ที่สูงขึ้น 2) ประโยชน์ร่วมจาก Oxiteno และ 3) ส่วนแบ่งธุรกิจเส้นใยที่ดีขึ้น หลังจากจีนกลับมาเปิดประเทศ

ธุรกิจ IOD ที่แข็งแกร่งช่วยขับเคลื่อนกำไร 2Q22

  • กำไรสุทธิ 2Q22 โตแตะจุดสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 2.03 หมื่นล้านบาท (+143% YoY, +44% QoQ) นับว่าดีกว่าคาดและสูงกว่าที่ตลาดคาด 83%
  • หากไม่รวมรายการพิเศษครั้งเดียว กำไรปกติจะอยู่ที่ 1.32 หมื่นล้านบาท (+99% YoY, +25% QoQ) การเติบโตของกำไรได้แรงหนุนจากธุรกิจ IOD ที่แข็งแกร่ง หนุนจากส่วนแบ่งใหม่ที่ได้รับจาก Oxiteno ที่รวมเข้ามาใน 2Q22 ซึ่งช่วยชดเชยส่วนแบ่งจากธุรกิจเส้นใยที่ลดลงได้
  • อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ยังอยู่ในระดับสูงที่ 22.7% (+3ppts YoY, ทรงตัว QoQ) หนุนจากส่วนต่างราคา PET ที่แข็งแกร่ง

คาดส่วนแบ่งธุรกิจ CPET และเส้นใยจะฟื้นตัวใน 2H22

  • คาดกำไรที่แข็งแกร่งใน 1H22 จะลากยาวไปถึง 2H22 (ปรับดีขึ้น YoY ทรงตัว HoH) หนุนจาก 1) ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ธุรกิจ CPET ที่สูงขึ้น และ 2) upside ด้านประโยชน์ร่วมจาก Oxiteno ที่จะช่วยหนุนการ เติบโตของ EBITDA ในธุรกิจ IOD และ 3) ผลการดำเนินงานของธุรกิจเส้นใยที่ฟื้นตัวขึ้นหลังจีนกลับมาเปิดประเทศ
  • ด้วยรายได้ 70% ของบริษัทมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์จำเป็นที่มีความมั่นคงสูง (บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม สุขภัณฑ์ ฯลฯ) จึงเล็งเห็นว่าบริษัทมีกันชนเพียงพอต่อความเสี่ยงสภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดย Core EBITDA ของบริษัทมีสัดส่วนเพียง 1% ที่พัวพันกับความเสี่ยงด้านอุปทานจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าพื้นฐานใหม่ที่ 58.0 บาท

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ขณะที่ปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานขึ้น 6% เป็น 58.0 บาท เพื่อสะท้อนการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2022 ขึ้น 58% มูลค่าพื้นฐานนี้อิง 1.7xPBV’23E คิดเป็นค่าเฉลี่ย 5 ปี และสะท้อนภาพรวมธุรกิจปิโตรเคมีปลายน้ำเชิงบวกในปี 2022-23

กำไรสุทธิ 2Q22 โต 143% YoY และ 44% QoQ

  • กำไรสุทธิ 2Q22 โตแตะจุดสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 2.03 หมื่นล้านบาท (+143% YoY, +44% QoQ) นับว่าดีกว่าคาดและสูงกว่าที่ตลาดคาด 83%
  • หากไม่รวมรายการพิเศษครั้งเดียว กำไรปกติจะอยู่ที่ 1.32 หมื่นล้านบาท (+99% YoY, +25% QoQ) การเติบโตของกำไรได้แรงหนุนจากธุรกิจ IOD ที่แข็งแกร่ง หนุนจากส่วนแบ่งใหม่ที่ได้รับจาก Oxiteno ที่รวมเข้ามาใน 2Q22 ซึ่งช่วยชดเชยส่วนแบ่งจากธุรกิจเส้นใยที่ลดลงได้
  • GPM ยังอยู่ในระดับสูงที่ 22.7% (+3ppts YoY, ทรงตัว QoQ) หนุนจากส่วนต่างราคา PET ที่แข็งแกร่ง
  • EBITDA ธุรกิจ CPET โต +35% YoY เป็น 1.48 หมื่นล้านบาท ทรงตัว QoQ จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ปรับดีขึ้นเพราะสภาวะอุปทานตึงตัว และการปรับสัญญา PET และ PTA ในตลาดตะวันตก บริษัทได้ประโยชน์จากการคิดค่าพรีเมี่ยมต่อส่วนต่างราคา PET/PTA ปกติสำหรับกิจการในยุโรปและสหรัฐฯ เนื่องจากค่าขนส่งที่สูงทำให้การนำเข้าไม่ใช่ทางเลือกที่น่าดึงดูด
  • EBITDA ธุรกิจ IOD พุ่งแตะ 8.9 พันล้านบาท (+162% YoY, +106% QoQ) หนุนจากอัตรากำไร MTBE ที่แข็งแกร่ง และการรับรู้กำไรครั้งแรกจาก Oxiteno ทั้งนี้ ส่วนแบ่งจากทั้ง Oxiteno และธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในเวียดนามอยู่ที่ 3 พันล้านบาทของ EBITDA รวมใน 2Q22 หรือ 11% จากทั้งหมด
  • EBITDA ธุรกิจเส้นใยลดลงเหลือ 1.9 พันล้านบาท (-15% YoY, -35% QoQ) ฉุดลงจากปริมาณขายที่อ่อนแอจากการล็อกดาวน์ในจีน และข้อจำกัดด้านการส่งออกจากค่าขนส่งที่สูง รวมถึงต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบที่สูงขึ้น

ภาพรวม 2H22 เป็นบวกจากผลงานในธุรกิจ PET และ IOD ที่แข็งแกร่ง

  • คาดกำไรที่แข็งแกร่งใน 1H22 จะลากยาวไปถึง 2H22 (กำไรปกติปรับดีขึ้น YoY ทรงตัว HoH) หนุนจาก 1) ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ธุรกิจ CPET ที่สูงขึ้น และ 2) upside ด้านประโยชน์ร่วมจาก Oxiteno ที่จะช่วยหนุนการเติบโตของ EBITDA ในธุรกิจ IOD และ 3) ผลการดำเนินงานของธุรกิจเส้นใยที่ฟื้นตัวขึ้นหลังจีนกลับมาเปิดประเทศ
  • ธุรกิจ CPET (63% ของ EBITDA): คาดบริษัทจะได้ประโยชน์จากส่วนต่างราคา PET และ PTA ที่แข็งแกร่ง  สืบเนื่องจากการปรับสัญญาในตลาดตะวันตก และค่าขนส่งที่สูงต่อเนื่อง ขณะที่เล็งเห็นการฟื้นตัวของปริมาณขายจากการกลับมาดำเนินงานของโรงผลิต PTA ในไทย หลังจากปิดซ่อมบำรุงก่อนหน้านี้ และส่วนแบ่งที่สูงขึ้นจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในเวียดนาม (เข้าซื้อเมื่อ 2022)
  • ธุรกิจ IOD (22% ของ EBITDA): คาด EBITDA ของธุรกิจ IOD จะโตต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 2H22 หนุนจากประโยชน์ร่วมจากการรวมสินทรัพย์ Oxiteno เข้ามา (แล้วเสร็จในช่วงต้น 2Q22) บริษัทคาด upside ด้าน EBITDA จาก Oxiteno ที่ 10%-30% สำหรับปี 2023-25
  • Downside risk เล็กน้อย: ด้วยรายได้ 70% ของบริษัทมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์จำเป็นที่มีความมั่นคงสูง (บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม สุขภัณฑ์ ฯลฯ) จึงเล็งเห็นว่าบริษัทมีกันชนเพียงพอต่อความเสี่ยงสภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดย Core EBITDA ของบริษัทมีสัดส่วนเพียง 1% ที่พัวพันกับความเสี่ยงด้านอุปทานจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2022 ขึ้น 58%

  • ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2022 ขึ้น 58% เป็น 4.64 หมื่นล้านบาท หนุนจาก 1) รายได้ที่สูงขึ้นจากธุรกิจ Oxiteno และธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในเวียดนามที่เข้าซื้อในช่วง 2Q22 และ 2) ราคา CPET ที่ดีกว่าคาด รวมถึงอุปสงค์กลุ่ม IOD ที่สูงขึ้น
  • ปรับเพิ่มรายได้ปี 2022 ขึ้น 21% และ GPM ขึ้น +2.3ppts เป็น 20.5% จากส่วนต่างราคา PET และ PTA ในตลาดตะวันตกที่ปรับดีขึ้น สืบเนื่องจากสภาวะอุปทานดึงตัวจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน

Revenue breakdown

กลุ่มธุรกิจ PET โดยรวมคิดเป็น 63% ของ EBITDA ทั้งหมดของ IVL ซึ่งจะรวมถึงกิจการประเภทอะโรเมติกส์ PET PX PTA บรรจุภัณฑ์ และโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล ส่วนเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษจะรวมถึง PET เรซิน ซึ่งเป็นส่วนที่ IVL มีสถานะเป็นผู้ผลิตเชิงพาณิชย์รายเดียวในโลก สำหรับกลุ่มลูกค้าหลักของหน่วยธุรกิจนี้ คือ กลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ ขวดฟิล์ม และสิ่งทอชนิดพิเศษ

กลุ่มธุรกิจเส้นใยคิดเป็น 15% ของ EBITDA ทั้งหมด โดยธุรกิจนี้จะประกอบไปด้วยเส้นใยเส้นด้ายโพลีเอสเตอร์  เส้นใยโพลีโอเลฟินส์ และเส้นใยสังเคราะห์ผสม (bicomponent) ที่ใช้ในภาคยานยนต์ (9%) ผลิตภัณฑ์สุขอนามัยส่วนบุคคล (62%) และสินค้าประเภทไลฟ์สไตล์ (29%) ธุรกิจออกไซด์และอนุพันธ์แบบบูรณาการ (IOD) คิดเป็น 22% ของ EBITDA ทั้งหมด ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์จำพวกออฟไซด์ ไกลคอล และสารลดแรงตึงผิว ซึ่งจะรวมไปถึง MTBE ที่คิดเป็น 100% ของยอดขายในอเมริกาเหนือและใต้

- Advertisement -