บล.พาย: 

OSP: บมจ.ไอสถสภา “เสียส่วนแบ่งตลาดในไทย”

คงคำแนะนำ “ถือ” มูลค่าพื้นฐาน 32 บาท กำไรสุทธิ 2Q22 อยู่ที่ 604 ล้านบาท (-26%YoY, -20%QoQ) สอดคล้องกับประมาณการของเรา แต่ต่ำกว่าที่ Bloomberg consensus คาด 10% กำไรใน 1H22 คิดเป็น 49% ของประมาณการทั้งปี 2022 กำไรที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เกิดขึ้นจากปริมาณขายเครื่องดื่มชูกำลังในไทยที่ลดลง ด้วยส่วนแบ่งตลาดลดลงเหลือ 49.1% ใน 2Q22 จาก 54% ใน 1Q22 หลังจากดำเนินกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยม (M150 ขวดละ 12 บาท) ผนวกกับอัตรากำไรที่หดตัวลงจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น และประสิทธิภาพการผลิตที่ลดลงจากสายการผลิตใหม่ (ขวดน้ำหนักเบา) คาดกำไร 3Q22 จะอ่อนตัวลงทั้ง YoY และ QoQ สู่จุดต่ำสุดของปี เพราะ low season ในช่วงไตรมาส (ฤดูฝน) และค่าใช้จ่ายการตลาดที่สูงขึ้นจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่

กำไร 2Q22 ลดลง YoY และ QoQ

  • กำไรสุทธิ 2Q22 อยู่ที่ 604 ล้านบาท (-26%YoY, -20%QoQ)
  • รายได้ 2Q22 อยู่ที่ 7.2 พันล้านบาท (+4%YoY, +4%QoQ) หนุนจากยอดขายเครื่องดื่มระหว่างประเทศที่โตขึ้น 6.3%YoY และยอดขายเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่โตแข็งแกร่ง (ส่วนแบ่งตลาดใน 2Q22 ที่ 44.6% จาก 37% ใน 2Q21)
  • GPM อยู่ที่ 31.2% (-500 bps YoY, -50 bps QoQ) จากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น ประสิทธิภาพการผลิตที่ลดลงจากสายการผลิตใหม่ (ขวดน้ำหนักเบา) ส่วนผสมอัตรากำไรที่ไม่เป็นใจจากส่วนแบ่งยอดขาย C Vitt และยันฮีที่สูงขึ้น

ภาพรวมกำไรที่ไม่สู้ดีใน 3Q22

  • คาดกำไรจะทรงตัว YoY และลดลง QoQ สู่จุดต่ำสุดของปี สืบเนื่องจากช่วง low season (ฤดูฝน) และค่าใช้จ่ายการตลาดที่สูงขึ้นจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่

คงคำแนะนำ “ถือ” ยังไม่ถึงเวลาเข้าซื้อ

ด้วย upside ที่จำกัดต่อมูลค่าพื้นฐานและความเสี่ยงที่จะสูญเสียส่วนแบ่งตลาด เนื่องจากผู้บริหารยังคงกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยม จึงยังคงคำแนะนำ “ถือ” ด้วยมูลค่าพื้นฐานที่ 32 บาท อิง 30xPE’23E หรือที่ค่าเฉลี่ย 3 ปี

Revenue breakdown

  • บริษัทเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคไปยังตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นประเทศในกลุ่ม CLM (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) รวมถึงประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง
  • ธุรกิจผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท ซึ่งคิดเป็น 85% ของรายได้รวม โดยผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มของบริษัทนั้นสามารถแบ่งออกเป็น เครื่องดื่มชูกำลัง เครื่องดื่มเกลือแร่ และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
  • ธุรกิจผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลคิดเป็น 8% ของรายได้รวมของบริษัท โดยบริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายรวมถึงผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ผลิตภัณฑ์ความงามสำหรับผู้หญิง และผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ชาย
  • ผลิตภัณฑ์ส่วนอื่นๆ มีสัดส่วนรายได้ 7% ของรายได้รวม โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์นี้ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ลูกอม การรับจ้างผลิต (OEM) และบรรจุภัณฑ์แก้ว
- Advertisement -