บล.พาย:

JWD: บมจ. เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ “คาดกำไร 2Q22 คือจุดต่ำสุดของปี”

กำไรสุทธิ 2Q22 อยู่ที่ 154 ล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษประมาณ 60 ล้านบาท กำไรปกติจะลดแตะจุดต่ำรอบ 5 ไตรมาสที่ 105 ล้านบาท สอดคล้องกับที่เราและตลาดคาด ทั้งนี้ เชื่อว่ากำไรดังกล่าวคือจุดต่ำสุดของปี 2022 โดยคาดว่ากำไร 2H22 จะฟื้นตัวแข็งแกร่งจากช่วง high season สำหรับธุรกิจคลังสินค้า และส่วนแบ่งกำไรที่โตขึ้นจากบริษัทร่วม คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐาน 17.50 บาท ทั้งนี้ ราคาหุ้นน่าดึงดูดมากขึ้นด้วยอัตราคิดลด 40% ต่อค่าเฉลี่ยกลุ่มขนส่งไทย ขณะที่คาดว่ากำไรปกติจะโตอย่างโดดเด่นเฉลี่ยต่อปีที่ 19% ในช่วงปี 2022-24

กำไร 2Q22 แตะจุดต่ำสุดของปี ก่อนจะฟื้นตัวใน 2H22

  • กำไรปกติ 2Q22 อยู่ที่ 105 ล้านบาท (-8%YoY, -7%QoQ) ต่ำสุดในรอบ 5 ไตรมาส การปรับลดลง YoY และ QoQ เป็นผลจากอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ลดลงเหลือ 22.3% จากกำลังการรองรับบริการที่ลดลงในส่วนของท่าเรือเทียบชายฝั่ง และอัตราการเช่าที่ลดลงในส่วนของลานพักสินค้าประเภทยานยนต์และห้องเย็น โดยคาดว่าเป็นผลจากสภาวะขาดแคลนชิปและปัจจัยตามฤดูกาล ตามลำดับ ในด้านอัตรากำไรธุรกิจอาหาร (21% ของรายได้รวม) ลดลงมาอยู่ที่ 7.8% จากฐานสูงที่ 11.3% ใน 1Q22
  • แม้ธุรกิจขนส่งและจัดจำหน่ายมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง (30% ของรายได้รวม) ขณะที่มีส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจในเวียดนาม (TMS) ที่ดี แต่ไม่น่าเพียงพอต่อการชดเชยผลกระทบจากธุรกิจคลังสินค้าที่อ่อนแอ
  • ส่วนแบ่งกำไรอยู่ที่ 123 ล้านบาท (+67%QoQ) มาจากกำไรพิเศษ 60 ล้านบาท ของ Alpha ส่วนที่เหลือมาจาก ESCO (ถืออยู่ 15%) และ TMS (ถือ 23.4%)

คาดผลประกอบการที่แข็งแกร่งใน 2H22

คาดกำไร 2H22 โตแข็งแกร่ง YoY และ HoH หนุนจากช่วง high season สำหรับธุรกิจคลังสินค้า โดยเฉพาะห้องเย็นที่มองว่าได้ประโยชน์อีกแรงจากราคาทูน่าที่ลดลง (การเก็บสินค้าอาหารทะเลคิดเป็นสัดส่วนราว 35%) ส่วนคลังสินค้าสำหรับสินค้าอันตราย (10% ของรายได้รวม) คาดว่าจะฟื้นตัวตามปริมาณที่สูงขึ้น หลังจากที่ลดลงในช่วง 2Q22 เพราะจำนวนวันทำงานที่น้อยลงในช่วง เดือน เม.ย.-พ.ค. 2022 ขณะที่คาดว่าส่วนแบ่งกำไรจะยังแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในเวียดนาม (TMS) ที่กิจการขนส่งโตแข็งแกร่ง ขณะที่ ESCO และ PPSP ในกัมพูชา ยังได้ประโยชน์จากปริมาณคอนเทนเนอร์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (20% ของปริมาณในท่าเรือแหลมฉบังผ่าน ESCO) นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนเพิ่มสัดส่วนการลงทุน จาก 15% เป็น 20% ภายในปี 2022

มูลค่าหุ้นน่าสนใจพร้อมกับ upside ที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าพื้นฐานใหม่ที่ 17.50 บาท อิง 27.3xPE’23E หรือที่ค่าเฉลี่ย 4 ปี สะท้อนอัตราคิดลด 50% ต่อค่าเฉลี่ยกลุ่มขนส่งไทย ยังคงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของกำไรในช่วงปี 2022-23 หนุนจากการเติบโตในธุรกิจคลังสินค้า โดยเฉพาะห้องเย็นและห้องเก็บของให้เช่า ดีล M&A ธุรกิจขนส่งและการจัดจำหน่ายในไทยและเวียดนาม รวมถึงประโยชน์ร่วม และ upside ด้านกำไรจากโครงการร่วมทุน เช่น Alpha กับ Origin และ Fuze Post ที่จับมือกับผู้เล่น ด้านการจัดส่งพัสดุด่วนรายอื่น รวมถึง ไปรษณีย์ไทยและ Flash

รีวิวผลประกอบการ

  • กำไรสุทธิ 2Q22 อยู่ที่ 154 ล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษประมาณ 60 ล้านบาท กำไรปกติจะลดแตะจุดต่ำรอบ 5 ไตรมาสที่ 105 ล้านบาท ( 8% YoY -7%QoQ)
  • การปรับลดลง YoY และ QoQ เป็นผลจาก GPM ที่ลดลงเหลือ 22.3% จากกำลังการรองรับบริการที่ลดลงในส่วนของท่าเรือเทียบชายฝั่ง และอัตราการเช่าที่ลดลงในส่วนของลานพักสินค้าประเภทยานยนต์และห้องเย็น โดยคาดว่าเป็นผลจากสภาวะขาดแคลนชิปและปัจจัยตามฤดูกาล ตามลำดับ ในด้านอัตรากำไรธุรกิจอาหาร (21% ของรายได้รวม) ลดลงมาอยู่ที่ 7.8% จากฐานสูงที่ 11.3% ใน 1Q22
  • รายได้อยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท (+10%YoY +1%QoQ) การเติบโต YoY ได้แรงหนุนจากการเติบโตของธุรกิจขนส่งและกิจการต่างประเทศ
  • อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายลดลงเหลือ 22.3% ใน 2Q22 จาก 24.3% ใน 1Q22 หนุนจากความประหยัดต่อขนาด (economies of scale)
  • ส่วนแบ่งกำไรอยู่ที่ 123 ล้านบาท (+67%QoQ) มาจากกำไรพิเศษ 60 ล้านบาท ของ Alpah ส่วนที่เหลือมาจาก ESCO (ถืออยู่ 15%) และ TMS (ถือ 23.4%)

Revenue breakdown

  • รายได้หลักของ JWD มาจากบริการจัดการคลังสินค้า คิดเป็น 45% ของรายได้ทั้งหมด สามารถแบ่งออกเป็นธุรกิจห้องเย็น 16% ลานพักสินค้าอันตราย 11% และการบริหารสินค้าประเภทรถยนต์ 9% และสินค้าทั่วไป 8%
  • ทั้งยังให้บริการขนส่งกับลูกค้าครอบคลุมทั้งพื้นที่ในประเทศและข้ามพรมแดนไปยังลาว กัมพูชา และเมียนมา โดยกลุ่มนี้จะรวมถึงหน่วยธุรกิจใหม่ เช่น การบริหารท่าเทียบเรือสินค้าชายฝั่งและสินค้าทางราง (barge & rail) ศูนย์บริหารจัดการคลังสินค้า (fulfillment center) และบริการส่งสินค้าด่วนแบบควบคุมความเย็น (cold chain express) โดยหน่วยธุรกิจขนส่งนี้คิดเป็น 19% ของรายได้ทั้งหมด
  • ยิ่งกว่านั้นบริษัทก็ประกอบธุรกิจบริการอาหารที่รวมถึงการจัดหาวัตถุดิบและบริการโลจิสติกส์ ซึ่งคิดเป็น 25% ของรายได้ทั้งหมด
  • บริการขนย้ายสิ่งของคิดเป็น 4% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งจะครอบคลุมงานขนย้ายสิ่งของในครัวเรือน เครื่องใช้สำนักงาน เครื่องจักร อุตสาหกรรม และสินค้ามูลค่าสูง
  • ส่วนธุรกิจอื่นๆ (7% ของยอดขายทั้งหมด) จะรวมถึงบริการจัดเก็บเอกสารสำนักงานและคลังสินค้าให้เช่า และบริการด้าน IT ในส่วนงานจัดการห่วงโซ่อุปทาน
- Advertisement -