บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
MK Restaurant (M TB) พลิกมีกำไรโตแกร่ง
กำไร 2Q65 โตเกินคาด จากยอดขายทานในร้านพุ่ง คงแนะนำ “ซื้อ”
M รายงานกำไรหลัก 2Q65 แข็งแกร่งเกินคาดที่ 439 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% QoQ และสูงกว่าคาดการณ์ของ Bloomberg 22% ฟื้นตัวจากขาดทุน 99 ล้านบาทในไตรมาส 2/64 การเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของยอดขายที่แข็งแกร่ง (15% QoQ/60% YoY เป็น 4 พันล้านบาท) เนื่องจากลูกค้ามาทานอาหารที่ร้านมากขึ้นหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย บริษัทไม่ได้เปิดเผยการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) แต่ก่อนหน้านี้ตั้งเป้าไว้ที่ 55% เรายังเลือก M เป็น Top Pick ของเราในกลุ่มร้านอาหารไทย และเชื่อว่าผลประกอบการ 2Q65 ที่ดีจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้น กำไรครึ่งปีแรกคิดเป็น 54% ของประมาณการของเราในปี 65 คงแนะนำ “ซื้อ” โดยมี upside 30% จากราคาเป้าหมาย 65 บาท
EBITDA margin ดีขึ้นจาก operating leverage
แม้จะขึ้นราคาเมนู แต่อัตรากำไรขั้นต้นยังคงลดลง 0.3 ppt QoQ เนื่องจากเงินเฟ้อทำต้นทุนเพิ่ม แต่ก็ปรับตัวดีขึ้น 2.1ppt YoY ที่สำคัญคือสัดส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขายรวมลดลงแรง 4.7 ppt QoQ และ 17.8 ppt YoY เหลือ 52.7% จากการเติบโตของยอดขายที่แข็งแกร่งจากฐานต้นทุนคงที่เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ EBITDA Margin เพิ่มขึ้น 2ppt QoQ และ 10.9ppt YoY เป็น 52.7%
ต้นทุนอาหารพุ่งอาจกดดันผลกำไร
ในฐานะผู้ดำเนินการร้านอาหาร M ต้องเผชิญกับต้นทุนอาหารที่สูงขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงนี้ M ได้ขึ้นราคาเมนูสองครั้งในปีนี้ และจะขึ้นราคาต่อไปหากต้นทุนอาหารยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทยังล็อกราคาอาหารบางรายการไว้ด้วย (ยกเว้นเนื้อหมู) อย่างไรก็ตาม อาจมีต้นทุนเพิ่มขึ้นที่อาจกดดันผลกำไรของบริษัท เราประเมินว่าต้นทุนอาหารที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 1% อาจส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิ 0.8%
ความเสี่ยงสําคัญคือแรงกดดันด้านต้นทุนอาหาร
เราใช้วิธี DCF (WACC 8.6% และเติบโต 2.9%) ประเมินราคาเป้าหมายของเราที่ 65 บาท เรามองว่า M เป็นผู้รับผลประโยชน์หลักจากการเปิดประเทศด้วยเครือข่ายร้านอาหารทั่วประเทศ หุ้น M ซื้อขายที่ P/E ปี 66 ที่ 23.2 เท่า ซึ่งถูกที่สุดในกลุ่มร้านอาหารไทย อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.6% ต่อ EPS ปี 66 ก็อยู่ในเกณฑ์ดีเช่นกัน
ความเสี่ยงที่สำคัญ คือ แรงกดดันด้านต้นทุนอาหารที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลกำไร