บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Land and Houses (LH.BK/LH TB)*
ผลประกอบการ 2Q65: กำไรสุทธิเป็นไปตามคาด
Event
ผลประกอบการ 2Q65
Impact
กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 14% YoY และ11% QoQ
กำไรสุทธิของ LH ใน 2Q65 อยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท (+14% YoY, +11% QoQ) เป็นไปตามคาด โดยโมเม นตัมของกำไรยังคงแข็งแกร่งจากยอด presales โครงการแนวราบในงวด 1H65 ที่ทำได้ดี ซึ่งส่งผลให้ยอดโอนโครงการแนวราบแข็งแกร่งตามไปด้วย นอกจากนี้ รายได้จากค่าเช่าและค่าบริการยังดีดตัวขึ้นเพราะสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นของโครงการที่อยู่อาศัยทำสถิติสูงสุดในรอบหลายไตรมาสที่ 33.6% (+1.9ppts YoY, +0.8ppts QoQ) จากการรับรู้รายได้ของโครงการที่มี margin สูง
ยอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ที่ 8.4 พันล้านบาท (ทรงตัว YoY, +20% QoQ) แบ่งเป็น i) โครงการแนวราบ 7.3 พันล้านบาท (-3% YoY, +14% QoQ) และ ii) โครงการคอนโดมิเนียม 1 พันล้านบาท (+10% YoY, +88% QoQ) จากการเริ่มโอนโครงการ The Key – พระราม 3 (ขายหมดแล้ว มูลค่าโครงการ 2 พันล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือ (คิดเป็น 30% ของกำไรสุทธิใน 2Q65) ลดลง 9% QoQ เหลือ 651 ล้านบาท เพราะผลการดำเนินงานของ LH Financial Group (LHFG.BK/LHFG TB) อ่อนแอ
สำหรับในระยะต่อไป เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 3Q65F จะเพิ่มขึ้น YoY เนื่องจากจะมียอดโอนโครงการ The Key พระราม 3 อย่างต่อเนื่อง และคาดว่าผลการดำเนินงานของโครงการแนวราบจะแข็งแกร่ง
ปรับประมาณการกำไรปี 2565F/2566F ขึ้นอีก 4%/3%
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F/2566F ขึ้นอีก 4%/3% เพื่อสะท้อนถึงอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น และการปรับสมมติฐานส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือที่เป็นปัจจุบัน ซึ่งหลังจากที่ปรับประมาณการใหม่แล้ว กำไรปกติในงวด 1H65 จะคิดเป็น 48% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา
Valuation & action
LH ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.25 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 2.8% จากราคาปิดล่าสุด (กำหนดขึ้น XD วันที่ 25 สิงหาคม) ทั้งนี้ เนื่องจากเรามองบวกกับแนวโน้มผลการดำเนินงานโครงการแนวราบของ LH และธีมการเปิดประเทศซึ่งจะช่วยสนับสนุนธุรกิจโรงแรม และธุรกิจการเช่า ดังนั้น เราจึงขยับไปใช้ราคาเป้าหมาย SOTP ปี 2566F ที่ 11.20 บาท จากเดิมที่ 10.80 บาท (ธุรกิจ conventional 7.10 บาท และธุรกิจการลงทุน 4.10 บาท)
Risks
COVID-19 ระบาดนานกว่าที่คาดไว้







