บล.บัวหลวง: 

Charoen Pokphand Foods (CPF TB/CPF.BK)

CPF – กำไรหลักสูงกว่าคาด; คาดพลิกกลับเป็นกำไรหลัก YoY ในไตรมาส 3/65

ผลประกอบการหลักดีกว่าที่คาดก่อนหน้า

CPF รายงานกําไรสุทธิไตรมาส 2/65 ที่ 4.21 พันล้านบาท ลดลง 11% YoY แต่เพิ่มขึ้น 48% QoQ ถ้าหากไม่รวม 7 รายการพิเศษในไตรมาส 2/65 ได้แก่ 1) ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้รอตัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้างองค์กร 1.7 พันล้านบาท 2) ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 208 ล้านบาท 3) กำาไรจากสินทรัพย์ชีวภาพ 634 ล้านบาท 4) กำไรหลังหักภาษีจากการเทรดดิ้งหุ้น CPALL 545 ล้านบาท 5) การกลับรายการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ 51 ล้านบาท 6) กําไรจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน 1.43 พันล้านบาท และ 7) กำไรจากการซื้อกิจการที่ต่ำกว่ามูลค่ายุติธรรม 145 ล้านบาท กําไรหลักไตรมาสนี้อยู่ที่ 3.31 พันล้านบาท ลดลง 11% YoY แต่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 341%QoQ กําไรสุทธิต่ำกว่าที่เราคาด 8% เนื่องจากการบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษภาษีจ่าย ดังข้างต้น แต่กําไรหลักสูงกว่าที่เราคาด 9% เนื่องจากยอดขายที่สูงกว่าคาดและภาระภาษีจ่ายจากการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาด ยอดขายสูงกว่าที่เราคาด 7% ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสนี้อยู่ที่ 14.5% ซึ่งใกล้กับที่เราคาดที่ 14.7% (เทียบกับ 16.4% ในไตรมาส 2/64 และ 12.8% ในไตรมาส 1/65) ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมในไตรมาสนี้อยู่ที่ 793 ล้านบาท โดยมาจากขาดทุนจาก CTI และ HyLife ที่มากกว่าที่เราคาด

ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ

กําไรหลักที่ลดลง YoY เนื่องจาก 1) อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงจากราคาหมูต่างประเทศที่ปรับลดลง (ซึ่งได้แก่ ราคาหมูในประเทศจีน เวียดนาม กัมพูชา และรัสเซีย) และต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งรวมถึงราคาข้าวโพดและกากถั่วเหลืองในประเทศ 2) ส่วนแบ่งขาดทุนจาก CTI และ CPP ที่เพิ่มขึ้น 3) การพลิกกลับไปเป็นขาดทุนอย่างมากของ HyLife 4) ขาดทุนที่เพิ่มมากขึ้นของ Bellisio และ 5) กําไรที่ลดลงจากธุรกิจในประเทศรัสเซีย ทั้งนี้กําไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก QoQ ได้รับปัจจัยหนุนมาจาก 1) ราคาหมูในประเทศจีนที่ปรับเพิ่มขึ้น (เพิ่มขึ้น 18% QoQ) ประเทศไทย (เพิ่มขึ้น 3%) เวียดนาม (เพิ่มขึ้น 5%) ลาว (เพิ่มขึ้น 4%) กัมพูชา (เพิ่มขึ้น 11%) มาเลเซีย (เพิ่มขึ้น 19%) และฟิลิปปินส์ (เพิ่มขึ้น 15%) 2) ราคาไก่ที่เด้งแรงในประเทศฟิลิปปินส์ (เพิ่มขึ้น 42% QoQ) เวียดนาม (เพิ่มขึ้น 22%) ลาว (เพิ่มขึ้น 18%) อินเดีย (เพิ่มขึ้น 14%) ไต้หวัน (เพิ่มขึ้น 15%) และกัมพูชา (เพิ่มขึ้น 9%) 3) การพลิกกลับไปเป็นกําไรของธุรกิจในประเทศอินเดีย QoQ และ 4) ผลขาดทุนที่ลดลง QoQ ของ CPP ทั้งนี้ผลกําไรจากการดำเนินงานของธุรกิจปศุสัตว์ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นมากถึง 290% YoY และ 66% QoQ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผลกําไรจากการดำเนินงานของธุรกิจปศุสัตว์ในต่างประเทศยังคงลดลง YoY เช่นเดียวกับผลกำไรจากการดำเนินงานของธุรกิจสัตว์น้ำทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศที่ลดลง YoY

แนวโน้ม

เราคาดกําไรหลักที่ 4 พันล้านบาทในไตรมาส 3/65 หรือพลิกกลับไปเป็นกําไรหลัก YoY จากขาดทุนหลัก 4.96 พันล้านบาทในไตรมาส 3/64 (จากฐานอัตรากำไรขั้นต้นและกำไรหลักในไตรมาส 3/64 ที่ต่ำมาก บวกกับราคาหมูและไก่ในประเทศและต่างประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก) และเพิ่มขึ้น 21% QoQ (เนื่องจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของการส่งออก บวกกับราคาหมูจีนเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นไปอยู่ ที่ 22 หยวน/กก. นับตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/65 จนถึง ณ ปัจจุบัน ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ CTI พลิกกลับไปเป็นกำไรในไตรมาส 3/65 เทียบกับต้นทุนการเลี้ยงของ CTI ที่ 16-17 หยวน/กก.) สำหรับราคาตลาดในไตรมาส 3/65 เราคาดราคาหมูไทยเฉลี่ยที่ 102 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 47% YoY และ 5% QoQ และราคาไก่ไทยเฉลี่ยที่ 47 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 56% YoY และ 15% QoQ ทั้งนี้เราคาดราคาหมูจีนเฉลี่ยในไตรมาส 3/65 ที่ 22 หยวน/กก. เพิ่มขึ้น 51% YoY และ 43% QoQ และราคาหมูเวียดนามเฉลี่ยในไตรมาส 3/65 ที่ 61,000 ดอง/กก. เพิ่มขึ้น 18% YoY และ 10% QoQ

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป

เราทำการปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 เพิ่มขึ้นอีก 14% (ไปเป็น 1.41 หมื่นล้านบาท) เพื่อสะท้อนยอดขายที่ปรับเพิ่มขึ้นอีก 3% และอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับเพิ่มขึ้นจาก 14% ไปเป็น 14.3% ราคาเป้าหมายที่อิงจากวิธี DDM ปรับเพิ่มขึ้นอีก 5% (ไปเป็น 33.5 บาท)

คําแนะนํา

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” โดยอิงจากผลการดำเนินงานหลักที่จะพลิกกลับ YoY ไปเป็นกำไรหลักในช่วงครึ่งหลังของปี 2565

- Advertisement -