บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

Action BUY (Maintain)

TP upside (downside) +21.0%

Close Aug 16, 2022 Price (THB) 28.25

12M Target (THB) 34.20

Previous Target (THB) 31.00

What’s new?

  • บริษัทให้ข้อมูลยอดขายในช่วงเดือน ก.ค – ส.ค ยังเติบโตต่อเนื่องราว 30%YoY
  • บริษัทมีการปรับเป้าหมายการเติบโตของยอดขายในปี 2565 จากเดิมที่คาด 12-15% เป็น 15-20% ขณะที่เรามีการปรับประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้นจากเดิม 11%
  • หลังจบ COVID ภาพระยะกลาง – ยาว ปรับกลยุทธ์รุกตลาดลูกค้าประกัน และ Wellness & Residence รับสังคมไทยเข้าช่วง Aging Society

Our view

  • เรามองว่าผลประกอบการของ BDMS จะ Outperform กลุ่มในปี 2565 -2566 ผลบวกจากรายได้ลูกค้าต่างชาติที่ฟื้นตัว ต่างจากหลาย รพ. ที่คาดกำไรปรับลดลงจากฐานที่สูง
  • เราปรับมูลค่าพื้นฐานในปี 2565 จากเดิมที่ 31.00 บาท เป็น 34.20 บาท สะท้อนการปรับกำไร อิงวิธี DCF ที่ส่วนลด WACC ที่ 6.8%

BANGKOK DUSIT MEDICAL SERVICE ปรับเป้าการเติบโตเพิ่ม สะท้อนคนไข้ต่างชาติที่ฟื้นดีกว่าคาด

คาด 2H65 ยังเติบโตโดดเด่น YoY

จากงาน Analyst Meeting เมื่อวานนี้ เรายังคงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการใน 2H65 บริษัทให้ข้อมูลยอดขายในช่วงเดือน ก.ค. – ส.ค ยังเติบโตต่อเนื่องราว 30%YoY ซึ่งหลักๆ มาจากการกลับมาใช้บริการของคนไข้ปกติ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติที่เติบโตกว่า 60% กลุ่มที่พื้นเด่น ได้แก่ ลูกค้า CLMV และกลุ่มตะวันออกกลาง ซึ่งจะมีกลุ่มลูกค้าใหม่ คือ ซาอุดิอาระเบีย ที่กลับมาหลังจากประเทศไทยกลับมาเชื่อมสัมพันธ์ทางการทูตอีกครั้ง ในขณะที่คนไข้ไทยเติบโตราว 15% ขณะที่บริษัทให้ข้อมูลว่า รายได้เกี่ยวกับ COVID-19 จะปรับลดลงจาก 1H65 ที่ราว 15% รองรายได้รวมมาเหลือราว 5% ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดที่บรรเทาความรุนแรงลง  โดยคาดทั้งปีอยู่ที่ราว 10% ของรายได้รวม ส่วนกรณีผลกระทบจากเงินเฟ้อ และการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ บริษัทให้ความเห็นว่ากระทบน้อยมาก เนื่องจากสามารถปรับราคาได้ตามเงินเฟ้อ ขณะที่ค่าแรงเฉลี่ยสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว

ปรับเป้าการเติบโตสะท้อนลูกค้าต่างชาติที่ฟื้นดีกว่าคาด

ด้วยกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่กลับมาใช้บริการฟื้นดีกว่าที่คาด ทำให้บริษัทมีการปรับเป้าหมายการเติบโตของยอดขายในปี 2565 จากเดิมที่คาด 12-15% เป็น 15-20% โดยคาดสัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างชาติใน 2H65 จะกลับมาใกล้เคียงก่อนช่วงวิกฤต COVID-19 ที่ราว 35% ขณะที่เรามีการปรับประมาณการกำไรในปี 2565 เพิ่มจากเดิม 11% เป็น 11,030 ล้านบาท (+43%YoY) จากการปรับสมมติฐานรายได้เพิ่มขึ้น 4% เป็น 86,870 ล้านบาท (+17%YoY) และปรับอัตรากำไรขั้นต้นขั้นราว 0.37% และปรับลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลงราว 1% ซึ่งถือว่าผลประกอบการในปี 2565 ของ BDMS เติบโต Outperform กลุ่มที่ส่วนใหญ่มีผลประกอบการติดลบ

จบ COVID กลับมารุกตลาด wellness และกลุ่มลูกค้าประกัน

บริษัทให้มุมมองแนวโน้มปี 2566 คาดยังเห็นการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งจะรับผลบวกเต็มปีจากการฟื้นตัวของคนไข้ต่างชาติ ซึ่งคาดจะฟื้นดี สามารถชดเชยรายได้เกี่ยวกับ COVID-19 ที่ลดลง รวมถึงการปรับกลยุทธ์มาเจาะกลุ่มลูกค้าประกันที่มีแนวโน้มเติบโตดี ขณะที่ภาพระยะกลาง-ยาว จะขยายฐานลูกค้า Wellness & Residence สอดคล้องกับการที่ประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) จากโครงการ BDMS Silver Wellness & Residence ซึ่งจะเริ่มเซ็นสัญญาภายในเดือนนี้ โดยจะหนุนการเติบโตในช่วง 4-5 ปีข้างหน้า รวมถึงเริ่มส่งเสริมในส่วนของ health technology รองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี

คงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับมูลค่าพื้นฐานเพิ่มเป็น 34.20 บาท

เราคงมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการในปี 2565 2566 ที่คาดเติบโตเด่นสุดในกลุ่ม รพ. เราปรับมูลค่าพื้นฐานในปี 2565 จากเดิมที่ 31.00 บาท เป็น 34.20 สะท้อนการปรับเพิ่มประมาณการกำไร อิงวิธี DCF ที่ส่วนลด WACC ที่ 6.8%

 

- Advertisement -