บล.พาย:
GGC: บมจ. ไกลบอลกรีนเคมิคอล “ภาพรวมท้าทายใน 2H22”
คงคำแนะนำ “ขาย” มูลค่าพื้นฐาน 12.80 บาท อิง 1.2BV’23E ทั้งนี้ ด้วยภาพรวมกำไรที่อึมครึมใน 2H22 และ 2Q23 จากราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) และน้ำมันเมล็ดในปาล์ม (CPKO) ที่อ่อนแอเพราะปัจจัยตามฤดูกาล และสภาวะอุปทานล้นตลาด จึงแนะนำลดสถานะการถือครองหุ้น GGC ลง กำไรปกติ 2Q22 อยู่ ที่ 451 ล้านบาท (+489%YoY, -3%QoQ) นับว่าดีกว่าคาดจากอัตรากำไรที่แข็งแกร่ง โดยการเติบโตขึ้น YoY เป็นผลจาก adjusted EBITDA margin ในธุรกิจแฟตตี้แอลกอฮอล์ (FA) ที่โตขึ้น (+12ppts YoY)
การประชุมนักวิเคราะห์ให้น้ำหนักเป็นกลาง
เล็งเห็นความท้าทายต่อทิศทางการเติบโตใน 2H22 เพราะช่วง low season ใน 3Q22 รวมถึงการที่รัฐบาลไทยยังคงสัดส่วน B5 ตามเดิม ผนวกกับอุปสงค์ตลาดต่อเมทิลเอสเตอร์ (ME) ที่จะชะลอลงพร้อมกับภาพรวมด้านดีเซลที่ซบเซาในช่วงฤดูมรสุม ยิ่งกว่านั้น คาดว่าราคา CPO จะลดลงตั้งแต่ 2Q22 เป็นต้นไป เพราะคาดว่าอุปทานที่สูงขึ้น จากอินโดนีเซียจะมีน้ำหนักเหนืออุปสงค์ ชี้เป็นนัยถึงการชะลอตัวลงของอัตรากำไร สืบเนื่องจากการขาดทุนสต็อก นอกจากนี้ ยังเล็งเห็นว่าอุปสงค์ FA จะอ่อนตัวลงใน 3Q22 เพราะอุปสงค์จากจีนและตลาดโลกที่ลดลง ท่ามกลางความกังวลว่าราคา CPKO จะลดลงในช่วงที่การผลิตในตลาดโลกปรับสูงขึ้น จนนำไปสู่การขาดทุนสต็อก
โครงการนครสวรรค์ ไบโอคอมเพล็กซ์ดำเนินไปตามแผนการ
คาดว่าโครงการนครสวรรค์ ไบโอคอมเพล็กซ์เฟส 1 จะเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ (COD) ใน 1Q23 จึงเล็งเห็น upside ที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว ขณะที่โครงการนครสวรรค์ ไบโอคอมเพล็กซ์เฟส 2 มีกำหนดการ เริ่มดำเนินงานใน 1Q24
ธุรกิจ FA หนุนผลประกอบการ 2Q22
กำไรปกติ 2Q22 อยู่ที่ 451 ล้านบาท ก้าวกระโดดขึ้น 489%YoY แต่ลดลง 3%QoQ นับว่าสูงกว่าคาด การเติบโต YoY ได้แรงหนุนจากส่วนแบ่งธุรกิจ FA ที่สูงขึ้น (35% ของยอดขายใน 2Q22) ทั้งนี้ แม้ปริมาณในธุรกิจ FA ลดลง 3% แต่ด้วยราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้น 57% YoY จึงทำให้ adjusted EBITDA ในธุรกิจนี้แข็งแกร่งขึ้นเป็น 580 ล้านบาท คิดเป็น 73% ของ EBITDA รวม
ภาพรวมไม่น่าตื่นเต้นและขาดปัจจัยบวกสำคัญใน 2H22
คงคำแนะนำเป็น “ขาย” มูลค่าพื้นฐาน 12.80 บาท อิง 1.2xPBV’23E หรือที่ค่าเฉลี่ย 5 ปี ทั้งนี้ ประเมินภาพการเติบโตที่ซบเซาใน 2H22 และปี 2023 สืบเนื่องจากทิศทางราคาวัตถุดิบที่อ่อนตัวลง (CPO และ CPKO) จึงแนะนำขายเพราะหุ้นขาดปัจจัยบวกสำคัญ
กําไรปกติ 2Q22 โต YoY แต่ลดลง QoQ
- กำไรปกติ 2Q22 อยู่ที่ 451 ล้านบาท ก้าวกระโดดขึ้น 489%YoY แต่ลดลง 3%QoQ นับว่าสูงกว่าคาด
- การเติบโต YoY ได้แรงหนุนจากส่วนแบ่งธุรกิจ FA ที่สูงขึ้น (35% ของยอดขายใน 2Q22) ทั้งนี้ แม้ปริมาณในธุรกิจ FA ลดลง 3% แต่ด้วยราคาขายเฉลี่ยที่สูงขึ้น 57% YoY จึงทำให้ adjusted EBITDA ในธุรกิจนี้แข็งแกร่งขึ้นเป็น 580 ล้านบาท คิดเป็น 73% ของ EBITDA รวม ส่วนที่ลดลง QoQ เป็นผลจาก adjusted EBITDA ของธุรกิจ ME ที่ลดลง (-3ppts QoQ) จากนโยบายกำกับสัดส่วน B5 และปัจจัยตามฤดูกาล
- เล็งเห็นความท้าทายต่อทิศทางการเติบโตใน 2H22 เพราะเป็นช่วง low season ใน 3Q22 (ฤดูมรสุม) ผนวกกับนโยบาย B5 ที่จะกดดันอุปสงค์ ME ขณะที่ธุรกิจ FA ก็ชะลอตัวลงเช่นกันในช่วงที่อุปทานโลกปรับสูงขึ้น หลังจากที่อินโดนีเซียยกเลิกนโยบายข้อบังคับตลาดในประเทศ (DMO) บวกกับการกลับมาเดินเครื่องต่อของผู้ผลิต FA รายใหญ่ที่จะทำให้มีปัญหาอุปทนล้นตลาดต่อเนื่อง และไปกดดันราคาผลิตภัณฑ์อีกต่อ โดยรวมแล้วด้วยการที่ความกังวลด้านมหภาคและอุปทานผ่อนคลายลง จึงคาดว่า CPO และ CPKO จะมีทิศทางเป็นขาลง ซึ่งจะกดดันอัตรากำไรเพราะอาจก่อให้เกิดผลขาดทุนสต็อกได้
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2022-24
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2022-24 ขึ้น 20%/6%/10% ตามลำดับ จากผลประกอบการ 2Q22 ที่ดีกว่าคาด หนุนจากส่วนแบ่งธุรกิจ ME และ FA ทั้งนี้ มีการปรับเพิ่มสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ปี 2022 ขึ้น 0.3ppts เพื่อสะท้อนถึงราคาดีเซลและ FA ที่สูงขึ้นใน 2Q22 ทั้งยังปรับลดสมมติฐานอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายปี 2022-24 ลง 0.9ppts/0.6ppts/ 0.6ppts ตามลำดับ เพื่อสะท้อนถึงการคุมต้นทุนได้ดีขึ้นและจากการปรับเพิ่มรายได้ขึ้น
Revenue breakdown
- เมทิลเอสเทอร์ (ME) หรือที่รู้จักกันในชื่อ B100 คือสารที่ใช้ผสมผสานกับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว เพื่อให้ได้มาซึ่งไบโอดีเซล โดยบริษัทได้จัดจำหน่าย ME ให้กับลูกค้าในประเทศเป็นหลัก ซึ่งหน่วยธุรกิจนี้คิดเป็น 73% ของรายได้ทั้งหมดของ GGC ในปี 2021
- แฟตตี้แอลกอฮอล์ธรรมชาติเป็นผลผลิตที่ได้มาจากการสกัดน้ำมันเมล็ดในปาล์ม โดยแฟตตี้แอลกอฮอล์ (FA) คือส่วนประกอบสำคัญที่ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง เครื่องหนัง และพลาสติก ซึ่งคิดเป็น 27% ของยอดขายทั้งหมดของ GGC
- GGC จัดจำหน่ายกลีเซอรีนบริสุทธิ์ให้กับกลุ่มผู้ผลิตและซัพพอลายเออร์ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลทั้งในและต่างประเทศ เช่น จีน เกาหลี และอินเดีย
- นอกจากนี้ กระบวนการผลิต ME ยังให้ผลิตภัณฑ์พลอยได้จำพวกเคมีภัณฑ์อย่างอื่นด้วย เช่น กลีเซอรีนดิบ กลีเซอรีนสีเหลือง โพแทสเซียมซัลเฟต กากเมทิลเอสเทอร์ และกากแฟตตี้แอลกอฮอล์
