รอบด้านตลาดหุ้น: วันนี้คาดดัชนี ดีดต่อ

Market wrap & Outlook

วานนี้ดัชนีบวกต่อ หุ้นบวกนำโดย DELTA MAKRO TEAMG DITTO CPH CPR และหุ้นใหญ่อื่นๆ BTS (บวกรับคำตัดสินศาลให้ กทม. จ่ายค่าจ้างเดินรถ) CPALL AOT TLI ส่วนหุ้นลบกดดันตลาด เช่น KBANK BBL BANPU JASIF TOP BCP JTS

วันนี้คาดดัชนี ดีดต่อ จากแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นที่มีอิทธิพลต่อดัชนีฯ จากกระแสข่าวได้โอกาสกลับมาติด SET50 จากการเปลี่ยนเกณฑ์ Turnover ratio และหุ้นกลับมาติดโผเช่น DELTA (ซึ่งเป็นที่รู้กันทั่วไปว่ามีอิทธิพลต่อดัชนี) RATCH COM7 BJC เป็นต้น โดยเกณฑ์ดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างประชาพิจารณ์ นอกจากนี้เรายังคงเชื่อว่าสภาพคล่องในตลาดที่กลับมาจากฝั่ง รายย่อยในประเทศ (จากการเริ่มหลุดดอย) จะเอาอยู่ แม้ต่างชาติจะเริ่มขายหุ้นและ ปิดสถานะ ทำกำไร ตามที่เราประเมินก่อนหน้านี้ กอปรกับรายงาน Management guidance วานนี้ทำให้เราเห็นโอกาสในการ Buy on dips ช้อนซื้อไว้ดักผลการดำเนินงานแจ่มในครึ่งปีหลัง…

What to watch

การประชุมธนาคารกลางหลายประเทศสัปดาห์นี้ ล้วนปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายตามแรงกดดันเงินเฟ้อ เช่น ECB คาดปรับขึ้นดอกเบี้ยแรง 0.75% ออสเตรเลียขึ้น 0.5% มาเลเซียขึ้น 0.25%

เดือน ก.ย. ติดตามการประชุมที่สำคัญ ได้แก่ ECB (8 ก.ย.), BOE (15 ก.ย.), เฟด (21-22 ก.ย.) และ กนง. (28 ก.ย.)

ตลาดฯ ทำเฮียริ่ง ปรับเกณฑ์เข้าคำนวณ SET50/100 ลด Turnover Ratio ลงมาจากเดิม 5% เหลือแค่ 2% อุ้มหุ้นขนาดใหญ่อยู่ หลังนักลงทุนหันไปซื้อหุ้นกลาง-เล็กมากขึ้น ด้าน DELTA, BJC, RATCH และ COM7 ติดโผเข้า SET50 รอบครึ่งปีแรก 66 ขณะที่ MAKRO มีลุ้นหลังซีพี ออลล์ ส่งสัญญาณเพิ่มฟรีโฟลต (ที่มา ข่าวหุ้น)

หุ้นแนะนำวันนี้

AIT ดูรายงานวันนี้ และ กลต.รายงาน ผบห. SABUY ชูเกียรติ รุจนพรพจี เก็บหุ้น เพิ่ม 0.0193% รวมถือ 5.0164% คาดจะสร้างกระแส และหนุนการเก็งกำไรหุ้น AIT วันนี้

NSL หุ้นที่เราเรียกซื้อคู่กันมากับ SNNP ราคายังคง Outperform ตลาดตามธีมที่เราแนะ วันนี้แนะซื้อเก็งกำไรเพิ่มทั้งคู่ เป็นหนึ่งในกลุ่มที่เราเชื่อมั่นใน Earnings visibility ครึ่งปีหลัง ตามมุมมอง Management guidance

Global Investing Brief : Apple เปิดตัวเรือธงใหม่ “iPhone 14” เริ่มวางขายวันที่ 16 ก.ย. นี้ // Tesla ตั้งเป้าผลิตรถจำนวน 20 ล้านคันต่อปี ภายในปี 73

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ 

  • เมื่อคืนนี้ 3 ดัชนีหลักฟื้นเด่น โดยดัชนี DJIA +1.4%, S&P 500 +1.8% และ Nasdaq +2.1% นำโดยหุ้นเทคโนโลยี Microsoft (MSFT) +1.9%, Alphabet (GOOGL) +2.5%, Apple (AAPL) +0.9% หลัง bond yield สหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับลงอยู่ที่ 3.26% เทียบกับวันก่อนหน้าที่ 3.35% โดย Lael Brainard รองประธาน Fed เผยว่าแม้มีความจำเป็นในการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อไปอีกระยะ แต่ Fed จะไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยจนเกินไป โดยจะพิจารณาปัจจัยอื่นประกอบด้วย เช่น สภาวะเศรฐกิจ เป็นต้น
  • Business Insider รายงานว่า Tesla (TSLA) มีแผนสร้างโรงงานผลิตรถเพิ่มอีก 10-12 แห่งทั่วโลก โดยตั้งเป้ายอดผลิตที่จำนวน 20 ล้านคันต่อปี ภายในปี 73 โดยแต่ละโรงงานจะมีกำลังการผลิตที่ราว 1-2 ล้านคันต่อปี จากกำลังการผลิตที่ 2 ล้านคันในปี 65 โดยเรามองว่าแผนการขยายโรงงานผลิตนี้จะเป็นปัจจัยหนุนยอดส่งมอบรถของบริษัทที่โต 50% ต่อปี ด้าน Bloomberg Consensus ให้ TP ที่ $290.83

ตลาดหุ้นฮ่องกง 

  • เมื่อวานนี้ ดัชนีฮั่งเส็งปิดลบ 0.8% นำโดย Alibaba (9988) -0.7%, Tencent (0700) -0.8%, Ping An (2318) -0.2% หลังกรมศุลกากรจีนเผยตัวเลขการส่งออกเดือน ส.ค. อยู่ที่ $294bn เพิ่มขึ้น 7.1%YoY แต่ต่ำกว่าตลาดคาดว่าเพิ่มขึ้นที่ 12.8%YoY และชะลอตัวลงจากตัวเลขในเดือน ก.ค. ที่เพิ่มขึ้น 18.0%YoY ขณะที่ตัวเลขการนำเข้าสินค้าชะลอตัวเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้น 0.7%YoY อยู่ที่ $235bn หลังได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกทำให้ความต้องการซื้อสินค้าชะลอตัว รวมทั้งมาตรการ Zero-Covid ของจีนเป็นหลัก
  • Alibaba Cloud ธุรกิจคลาวด์ภายใต้ Alibaba (9988) ร่วมมือกับ State Grid Intelligence บริษัทวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์ ในการพัฒนาระบบหุ่นยนต์ตรวจสอบเส้นทางและการควบคุมตำแหน่งของการขับขี่อัตโนมัติ ให้การวางแผนเส้นทางระบบขับขี่อัตโนมัติมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งเรามองบวกต่อความร่วมมือนี้ โดยคาดว่าจะหนุนรายได้ธุรกิจคลาวด์ (สัดส่วนราว 9% ของรายได้รวม) ของ Alibaba ตั้งแต่ไตรมาส 4 ด้าน Bloomberg Consensus ให้ TP ที่ HKD147.73

ตลาดหุ้นเวียดนาม 

  • เมื่อวานนี้ ดัชนี VN ปิดลบ 2.7% กดดันจากหุ้นกลุ่มธนาคาร VPB -3.5%, TCB -2.8%, MBB -2.7% หลังธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) คงเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ที่ 14% ในปีนี้ ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 16% เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากเงินเฟ้อทั่วโลกที่ปรับสูงขึ้น อย่างไรก็ดี เรามองว่าเป้าการเติบโตที่ระดับ 14% เป็นระดับที่น่าพอใจ เนื่องจากเป็นอัตราที่สูงกว่าปีก่อนที่โตราว 13% และทำให้การควบคุมคุณภาพสินเชื่อเป็นไปตามแผน
  • โบรกเวียดนามคาดการณ์ว่ากำไรของ VHM ที่มีสัดส่วนราว 6% ในดัชนี VN30 ที่เป็นดัชนีอ้างอิงของ DR E1VFVN3001 ในปี 66-67 มีแนวโน้มโตเด่นที่ 26.4%YoY และ 20.3%YoY ตามลำดับ หนุนจากแผนเปิดตัวโครงการใหม่ เช่น Vinhomes Co Loa เป็นต้น นอกจากนี้เรามองว่ามูลค่าหุ้นน่าสนใจหลังมี discount จากมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ถึง 53.3% ต่ำกว่าเฉลี่ยย้อนหลัง 2 ปีที่มี discount ราว 23% ด้านโบรกเวียดนามให้ TP ที่ VND103,400

Highlight 

Apple (AAPL) เปิดตัว iPhone 14, AirPods และ Apple Watch ในงาน Apple Event 2022 โดยเรือธงอย่าง iPhone 14 จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 16 ก.ย. และ iPhone 14 Plus เริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 7 ต.ค. ในราคาเริ่มต้นที่ $799 และ $999 ตามลำดับ และมาพร้อมกับฟังก์ชันใหม่อย่างระบบ Crash Detection และ Emergency SOS Satellite ที่ผู้ใช้สามารถขอความช่วยเหลือในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ได้ ซึ่งระบบนี้จะเริ่มใช้ในสหรัฐฯ และแคนาดาก่อน โดยเรามองว่าการเปิดตัวสินค้าใหม่นี้จะหนุนรายได้ในครึ่งปีหลังของ Apple โดยคาดการณ์ Bloomberg Consensus เผยว่ารายได้ F4Q65 (ก.ค.-ก.ย 65) และ F1Q66 (ต.ค.-ธ.ค. 65) จะโตราว 6%YoY และ 3%YoY ตามลำดับ

Greed & FearBarometer: มาตรวัดความโลภและความกลัว

Overview:

Sentiment ตลาดอ่อนแอลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง แต่ยังคงอยู่ในโซน Greed มาตรวัดปรับตัวลงจาก 69 คะแนนเป็น 55 คะแนน สัญญาณที่อ่อนแอลง ได้แก่ ดัชนี Bull-to-Bear ที่ปรับตัวลงสู่ระดับต่ำกว่าโซน Neutral เล็กน้อย ดัชนี Volume Index ที่ปรับตัวลงเป็นสัปดาห์แรกหลังจากที่ปรับขึ้นมา 4 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ และดัชนี Momentum Strength ที่อ่อนแอลงหลังจากแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2021

มาตรวัดความโลภและความกลัว (Greed & Fear Barometer):

จิตวิทยาในตลาดหุ้นมักถูกผลักดันด้วยสองอารมณ์หลัก คือ ความโลภและความกลัว โดยเมื่อยิ่งมีอารมณ์โลภมาก (Extreme Greed) หรือ อารมณ์กลัวมาก (Extreme Fear) ขึ้นเท่าใด การตัดสินใจด้วยเหตุผลก็มักจะลดลงไปเท่านั้น เช่น เมื่อเกิด Extreme Greed นักลงทุนก็อาจจะไล่ซื้อหุ้นมากจนเกินไปโดยไม่สนใจราคา ในขณะที่เวลาเกิด Extreme Fear ก็จะขายหุ้นมากเกินไปด้วยความตื่นตระหนก ดังนั้นหากอารมณ์ตลาดยิ่งเอนเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งมากเท่าใด โอกาสที่ดัชนีจะสวิงกลับไปในทิศทางตรงกันข้ามก็มากขึ้นเท่านั้น ด้วยเหตุที่ภาวะ extreme นั้น มักทำให้เกิดการซื้อหรือขายมากเกินไป (Overbought/ Oversold)
BLS Greed & Fear Barometer คำนวณมาจากเครื่องชี้วัดดังต่อไปนี้ 1) Bull-to-Bear 2) Momentum Strength 3) Yield Spread (Bond vs Equity) 4) Market Volatility 5) Market Breadth และ 6) Volume Index

 

- Advertisement -