สรุปภาวะตลาด
วันพุธที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหว sideway ในช่วงเช้า ก่อนที่จะมีแรงซื้อเร่งตัวในภาคบ่าย ทำให้ดัชนี ปรับตัวขึ้น +6 จุด หน้าหุ้นที่ปรับตัวขึ้นเป็นหุ้นที่ตลาดเก็งว่าอาจจะผ่านเกณฑ์เข้า SET50, SET100 จากประเด็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์ของดัชนีตลาดหลักทรัพย์เรื่องแนวทางการปรับปรุง Turnover ratio สำหรับ SET50, SET100 เช่น DELTA BJC MAKRO ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,639.92 จุด +6.05 จุด +0.37% มูลค่าการซื้อขาย 71,204 ลบ.ต่างชาติ -2,585.32 ลบ. TFEX -10,432 สัญญา ตราสารหนี้ -260.89 ลบ.
ปัจจัยบวก+
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 435.98 จุด +1.40% หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลง ช่วยหนุนแรงซื้อหุ้นกลุ่มเติบโต รวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รวมทั้งการที่นักลงทุนเข้าซื้อหุ้น Defensive ซึ่งเป็นหุ้นที่ปลอดภัยและสามารถต้านทานวัฏจักรทางเศรษฐกิจได้ดี
+ ประธานาธิบดี โจ ไบเดนเชื่อมั่นว่าจะมีโอกาสพบปะพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 ซึ่งจะจัดขึ้นที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย ในเดือนพ.ย.นี้ หากผู้นำจีนเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
+ กกร.ยังคงกรอบประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2565 ที่คาดจะขยายตัวได้ในกรอบ 2.75% ถึง 3.5% การส่งออกยังคงขยายตัว 6-8% และอัตราเงินเฟ้อทั่วไป 5.5-7% จากการเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีจะทยอยฟื้นตัวจากภาคการท่องเทียว แรงหนุนจาก มาตรการคนละครึ่งเฟส 5 ที่จะกระตุ้นกำลังซื้อ
+ ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index: ICI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.2% จากเดือนก่อนหน้ายังคงอยู่ในเกณฑ์ทรงตัว นักลงทุนมองว่าการฟื้นตัวของภาค ท่องเที่ยวจะเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมาคือการไหลเข้าของเงินทุน
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ป่วยรายใหม่รักษาในรพ. 1,587 ราย มีผู้เสียชีวิต 19 ราย รักษาหาย 1,969 ราย
ปัจจัยลบ –
– สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 4.83 ดอลลาร์ -5.2% ปิดที่ 88 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากข้อมูลการค้าที่อ่อนแอของจีน ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางทั่วโลกเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรม ทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน
– สรุปภาวะเศรษฐกิจใน 12 เขตของสหรัฐหรือ Beige Book ระบุว่า แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจอ่อนแอลง แม้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง
– เฟดเผยแบบจําลอง GDPNow บ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.4% ใน Q3/65 ต่ำกว่าระดับ 2.6% ที่มีการระบุก่อนหน้านี้
– จีนรายงานว่ายอดส่งออกเดือนส.ค.ของจีนปรับตัวขึ้นเพียง 7.1% ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากจากเดือนก.ค.ที่มีการขยายตัว 18% เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อส่งผลให้อุปสงค์สินค้า จีนในต่างประเทศลดลง
– สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมืองใหญ่ๆ หลายแห่งของจีน รวมถึงเมืองหนานจิงและอู๋ซีในมณฑลเจียงซูทางตะวันออกของจีน ได้แนะนำให้ประชาชนอยู่บ้านในช่วง วันหยุดยาวเทศกาลไหว้พระจันทร์ 10-12 ก.ย.นี้ โดยเลี่ยงการเดินทางหากไม่จำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้โรคโควิด-19 แพร่ระบาด
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดต่างประเทศ จากแรงหนุนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลง ขณะ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน นักลงทุนยังจับตาที่ประชุมศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,630-1,650 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- ผู้ป่วยต่างชาติเพิ่มขึ้น : BH BDMS D
- โครงการคนละครึ่งเฟส 5 : TNP KK BJC MAKRO CBG OSP TKN ICHI SAPPE
- ผลประกอบการหุ้นกลุ่มโรงแรมเริ่มฟื้นตัว + ขยายวีซ่านักท่องเที่ยว : ERW CENTEL AWC
- วิกฤตพลังงานยุโรป : PRM VL BANPU LANNA PTTEP
- แอปเปิล ประกาศจัดอีเวนต์ 7 ก.ย.เปิดตัว iPhone 14 : CPW SPVI COM7 SYNEX JMART
- นายกฯ ออกเกณฑ์ให้ต่างชาติได้ BOI ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ : WHA AMATA ROJNA
หุ้นรายงานพิเศษ
NEX (ราคาเหมาะสม IAA Consensus เฉลี่ย 23.30 บาท) ธุรกิจรถ EV หนุนผลการดำเนินงาน 2H65 มีโอกาสพลิกฟื้น
(-) 2Q65 ขาดทุน 45 ล้านบาทลดลงจากขาดทุน 63 ล้านบาทใน 1Q65 งวด 1H65 ขาดทุน 122 ล้านบาทมากกว่างวด 1H64 ที่ขาดทุน 71 ล้านบาท เนื่องจากขาดทุนในธุรกิจขนส่ง ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้น -20.7% จากต้นทุนหลัก คือค่าเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ยังมีรายได้เข้ามาน้อยไม่พอชดเชย ขณะที่ธุรกิจคอมพิวเตอร์และระบบซอฟท์แวร์และธุรกิจรถบัส ยังมีกำไรโดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 24.3% และ 47.7% ตามลำดับ ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้นเป็น 58 ล้านบาทจาก 9 ล้านบาทในงวด 1H64 เนื่องจากโรงงานผลิตรถไฟฟ้าเพิ่งก่อสร้างเสร็จต้นปี 65 และ อยู่ในช่วงทดสอบไลน์การผลิตก่อนผลิตจริง คาดจะผลิตและส่งมอบสินค้าได้ใน 3Q65
(+) กำไรในช่วง 2H65 ดีกว่า 1H65 จากการทยอยส่งมอบรถบัสไฟฟ้า จนครบราว 800 คันภายในเดือนต.ค. 65 ที่ส่งมอบล่าช้าตั้งแต่ต้นปี 65 เนื่องจากสถานการณ์โควิต-19 ส่งผลให้รายได้จากธุรกิจรถมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนได้เสียของบริษัทร่วมมีโอกาสขาดทุนลดลงหรืออาจพลิกมีกำไรจากไลน์การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตจริง เพื่อทยอยส่งมอบ (ถือหุ้น 45% บจ.แอ็บโซลูท แอสเซมบลี : AAB ดำเนินการผลิตและประกอบรถ EV เชิงพาณิชย์) บริษัทจะเริ่มขายรถไฟฟ้าใน 3Q65
ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานที่มีโอกาสพลิกฟื้นจากขาดทุนจากการเปลี่ยนประเภทสินค้าจากรถยนต์ดีเซล เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่รายได้มีโอกาสเติบโตจากศักยภาพของโรงงานผลิตและประกอบรถ EV และการมี synergy จากพันธมิตรในกลุ่ม ได้แก่ EA และ BYD ราคาหุ้นปรับขึ้น 15% จาก 6 เดือนที่ผ่านมา แต่ยังลดลง 5%YTD เป็นโอกาสในการซื้อเก็งกำไร
หุ้นมีข่าว
(+) OR (Bloomberg Consensus 29.00 บาท) เดินหน้าปรับโครงสร้างรายได้เป็นค้าปลีกและนํ้ามัน จากปัจจุบันอีบิทดาส่วนใหญ่มาจากธุรกิจน้ำมัน เน้นธุรกิจไลฟ์สไตล์-รายได้จากต่างประเทศต่อเนื่อง เตรียมส่ง “คาเฟ่ อเมซอน” บุกซาอุ-ตะวันออกกลาง ขณะที่ยังรักษามาร์เก็ตแชร์ในประเทศ 40% ผลงานปีนี้โตต่อ อานิสงส์เปิดประเทศ เดินทางท่องเที่ยวหนุน พร้อมดีลซื้อกิจการ-JV เพิ่ม (ที่มา ทัน หุ้น)
(+) RP (Bloomberg Consensus – บาท) เผยหลังจับมือ SABUY เพิ่มอีโคซิสเต็มครบวงจรบน 3 เกาะใหญ่ในสุราษฎร์ธานี ชูแผนติดตั้งตู้เวนดิ้งทั้งหมด 5 พันตู้ เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 4/2565 นี้เป็นต้นไป คาดทยอยรับรู้รายได้ในปีหน้า มั่นใจช่วยต่อยอดระบบโลจิสติกส์แข็งแกร่งขึ้น ส่วนทิศทางการ ท่องเที่ยวดีขึ้น ครึ่งปีแรกมาเลย์ เวียดนาม อินเดีย เดินทางเข้าเพียบ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) ZEN (Bloomberg consensus 15.80 บาท) มั่นใจรายได้รวมทั้งปี 2565 มากกว่า 3 พันล้านบาท หลังคุมต้นทุนได้ดี ปรับเมนูอาหารหลากหลาย จัดกิจกรรมการตลาดหนุน เดินหน้าเปิดสาขาต่อเนื่อง ซุ่มศึกษาเปิดสาขาย่อยแบรนด์ระดับพรีเมียม ประเดิมสาขาแรกในศูนย์สิริกิติ์ต้นปี 2566 (ที่มา ทันหุ้น)
(+) BE8 (Bloomberg consensus 56.88 บาท) ส่งซิกครึ่งปีหลัง 2565 โตก้าวกระโดด ทำนิวไฮต่อเนื่อง หลังควบรวมกิจการ X10 เริ่มรู้รายได้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 แถมตุนแบ็กล็อกในมือ 713 ล้านบาท เดินหน้าขออนุมัติผู้ถือหุ้นควบรวม เบย์คอม 12 ตุลาคม 2565 ลั่นแผนยุทธศาสตร์ ควบรวม “X10 – เบย์คอม” สร้างมูลค่าเพิ่มธุรกิจ ดันรายได้รวมปีหน้าทะลุ 2 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- 13 ก.ย. ก.พลังงานเตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนบรรเทาผลกระทบด้าน พลังงานเข้าที่ประชุมครม.
- สัปดาห์ที่ 3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
- สัปดาห์ที่ 4 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
- สัปดาห์ที่ 5 สํานักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
- 28 ก.ย. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 5/2565
- 30 ก.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 8 ก.ย. ธนาคารกลางยุโรป (ECB) แถลงมติอัตรา ดอกเบี้ย
- สหรัฐ รายงานจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
- 9 ก.ย. จีน รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค. ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค.
- สหรัฐ รายงานสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือน ก.ค.
- 13 ก.ย. อียู รายงานดัชนีความเชื่อมั่นทาง เศรษฐกิจเดือนก.ย.ของยูโรโซนจากสถาบัน ZEW สหรัฐ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค. 14 ก.ย. สหรัฐ รายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค.
- 20-21 ก.ย. ประชุม FED









