บล.โกลเบล็ก:

CHAMNI’S EYE PCL. (CEYE)

แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 7.12 บาท (ราคาปิด 5.40 บาท)

ประมาณการกำไร่ใหม่ปี 65 เติบโต 90%YoY

  • 2Q65 กำไรลดลงแรง 318%YoY เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายพิเศษ
  • คาดกำไร 3Q65 มีแนวโน้มฟื้นตัว QoQ และ YoY จากฐานต่ำ
  • ปรับประมาณการกำไรปี 65 ลดลง 7% ซึ่งยังเติบโต 90%YoY
  • แนะนำ “ซื้อ” ปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 2566 เท่ากับ 7.12 บาท

ประเด็นสําคัญในการลงทุน

  • 2Q65 มีกำไรลดลงแรง 318%YoY เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายพิเศษ : งวด 2Q65 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 67 ล้านบาท +25%YoY จากการผ่อนปรนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการใช้บริการเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจโดยเฉพาะงานด้านบริหารสื่อออนไลน์ อัตรากำไรขั้นต้นลดเหลือ 22.5% ดีขึ้นจาก 14.7% ในงวด 2Q64 แต่ต่ำกว่าระดับ 34.1% ใน 1Q65 ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร +109%YoY และ +60%QoQ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายพิเศษในการจัดงานบางกอกไพรด์ 2022 เรนโบว์โทเปีย และค่าใช้จ่ายในการ IPO ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 0.8 ล้านบาท +315%YoY -96%YoY หากไม่รวมค่าใช้จ่ายพิเศษจะมีกำไรปกติ 5.9 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 1H65 มีกำไร 22.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น145%YoY คิดเป็น 39% ของประมาณการเดิม
  • คาดกำไร 3Q65 มีแนวโน้มฟื้นตัว QoQ และ YoY จากฐานต่ำ: ทิศทางการดำเนินงานในช่วง 2H65 มีแนวโน้มดีกว่า 1H65 จากความต้องการด้านครีเอทีฟและโปรดักชั่นโฆษณาที่มีแนวโน้มสดใสและฟื้นตัวโดดเด่น เมื่อ เทียบกับปีที่แล้วที่มีช่วงล็อกดาวน์บางส่วน และฐานลูกค้าจากธุรกิจที่หลากหลายทั้งกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม รถยนต์ การเงิน และสินค้า อุปโภคบริโภค ทำให้รายได้มีโอกาสเติบโต QoQ โดยคาดจะเห็นการเติบโต YoY จากช่วงที่มีการล็อกดาวน์บางส่วนอย่างมีนัยสำคัญ และไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษเช่นที่เกิดขึ้นใน 2Q65
  • ปรับประมาณการกำไรปี 65 ลดลง 7% ซึ่งยังเติบโต 90%YoY: ปี 65 คาดว่าเม็ดเงินลงทุนโฆษณามีแนวโน้มฟื้นตัว เพื่อผลิตสื่อโฆษณาในการเข้าถึงผู้บริโภค ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการรายได้จากการให้บริการในปี 2565 ตามเดิมที่ราว 362 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36%YoY ด้วยสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นเดิมที่ 29.2% แต่ปรับค่าใช้จ่ายขายและบริหารเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 16% เพื่อสะท้อนถึงค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ ประมาณการกำไรใหม่ปี 65 ลดลง 7% เหลือ 54 ล้านบาท ซึ่งยังเพิ่มขึ้น 90%YoY ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ระหว่างปี 2562-2565 เท่ากับ 12% ต่อปี สำหรับปี 66 ฝ่ายวิจัยประมาณการรายได้และกำไรสุทธิ 398 ล้านบาท และ 64 ล้านบาท ซึ่งเติบโต 10% และ 19% ตามลำดับ ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจโฆษณาและแผนขยายงานออนไลน์โปรดักชั่นในต่างประเทศมากขึ้น จากเดิมที่ให้บริการเพียงภาพนิ่งเป็นหลัก
  • แนะนํา “ซื้อ” ปรับใช้ราคาเหมาะสมปี 2566 เท่ากับ 7.12 บาท: การประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี PER ซึ่งเพิ่ม Prospective PER จากเดิมที่ ระดับ 21x เป็น 30x ซึ่งใกล้เคียงกับอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ระหว่างปี 64-66 (PER เฉลี่ยกลุ่ม media ในตลาด SET = 34x) เราประมาณกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปี 66 ราว 0.237 บาทต่อหุ้น คำนวณเป็นราคาเหมาะสมเท่ากับ 7.12 บาท สำหรับปี 2566 ซึ่งยังมี upside จึงแนะนำ “ซื้อ”

ปัจจัยเสี่ยง

1) การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานปกติ จากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม การจำกัดการรวมกลุ่มคนลูกค้าต่างประเทศเดินทางมาใช้บริการไม่ได้ และลูกหนี้บางส่วนชำระเงินล่าช้า

2) ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ลูกค้าชะลอ และ/หรือ ลดปริมาณการจัดทำสื่อโฆษณา

3) ต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น

- Advertisement -