บล.พาย:

DELTA: บมจ. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) “หุ้นแพงและได้รับผลกระทบจากสภาวะถดถอย”

ลดคำแนะนำจากถือเป็น “ขาย” และปรับลดราคาเป้าหมายลง 9% จาก 475 บาท เป็น 434 บาท อิง 38.6×PE’23E (ค่าเฉลี่ย 5 ปี) การประชุมนักวิเคราะห์ให้น้ำหนักเป็นกลาง สภาวะขาดแคลนวัตถุดิบปรับดีขึ้นแต่ยังไม่ฟื้นเต็มตัว กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และดาต้าเซ็นเตอร์ยังโตท่ามกลางเงินเฟ้อ แต่เชื่อว่ามีโอกาสที่จะเผชิญสภาวะถดถอยในปี 2023 เห็นได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ระยะยาวต่ำกว่าระยะสั้น (inverted yield curve) ที่อาจกระทบธุรกิจของบริษัทและรั้งการเติบโตในสหรัฐฯ และยุโรปลง (อย่างน้อย 53% ของรายได้ปี 2021 ของ DELTA) เมื่ออิงจากมุมมองเชิงลบต่อภาพรวมกำไรปี 2023 ที่ลดลง 7% YoY และมูลค่าซื้อขายหุ้นที่ 53.9xPE’23E จึงมองว่าราคาปัจจุบันนั้นแพงเกินไป

การประชุมนักวิเคราะห์

• สภาวะขาดแคลนวัตถุดิบปรับดีขึ้น แต่บางกลุ่มยังมีลักษณะตึงตัวอยู่ (ทรานซิสเตอร์ MOSFES, แผ่นวงจรรวม (IC), อุปกรณ์แรงดันไฟฟ้าสูง) ไม่คิดว่าสถานการณ์จะกลับสู่ช่วงก่อนโควิด-19 ไปถึงอย่างน้อยครึ่งแรกของปี 2023 ซึ่งน่าจะกระทบกรอบเวลาการจัดส่ง (lead-time) และยอดขายของบริษัท

• โรงงาน 8 แห่งใหม่สร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์ EV โดยคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องภายในครึ่งหลังปี 2023 นอกจากจะช่วยหนุนส่วนแบ่งยอดขายแล้ว ยังอาจทำให้อัตรากำไรของบริษัทได้ประโยชน์จากส่วนผสมผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นอีกด้วย

• แม้ผู้บริหารยังระมัดระวังต่อสภาวะถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในปี 2023 แต่บริษัทยังเชื่อว่ากลุ่ม EV และดาต้าเซ็นเตอร์จะมีอุปสงค์แข็งแกร่งไหลเข้ามาเรื่อยๆ ขณะที่เราเชื่อว่าการเติบโตในช่วงที่ตลาดโลกถดถอยเป็นสิ่งที่ท้าทาย อิงจากรายได้ของบริษัทที่ลดลง 6 ไตรมาสติดในช่วงภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ (2007-09)

กำไรไตรมาส 3/22 ลดลงเล็กน้อย QoQ จากส่วนผสมผลิตภัณฑ์

  • กำไรสุทธิไตรมาส 3/22 อยู่ที่ 4.1 พันล้านบาท (+245% YoY, -4% QoQ) การเติบโต YoY หนุนจากอัตรากำไรที่ขยายตัวขึ้น แต่ลดลง QoQ เพราะอัตราทําไรที่หดตัวลง
  • รายได้โตขึ้น 47% มาอยู่ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท (+12% QoQ) มีอุปกรณ์จ่ายไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์เป็นตัวชูโรงในเชิง YoY และ QoQ โดยเฉพาะ กลุ่ม EV
  • ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อยู่ที่ 23.3% (+4.1ppts YoY, – 1.8ppts QoQ) การเติบโตอย่างมาก YoY เป็นผลจากส่วนผสมผลิตภัณฑ์ที่ดี รวมถึงเหตุอุทกภัยที่ทำให้มีฐานต่ำในไตรมาส 3/21 ส่วนที่ลดลง QoQ เป็นเพราะส่วนผสมผลิตภัณฑ์เช่นกัน เพราะอุปกรณ์จ่ายไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์มีอัตรากำไรต่ำกว่าอุปกรณ์สำหรับกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน

สรุปผลประกอบการไตรมาส 3/22

  • กำไรสุทธิไตรมาส 3/22 อยู่ที่ 4.1 พันล้านบาท (+245% YoY, -4% QoQ) การเติบโต YoY หนุนจากการเติบโตของรายได้และอัตรากำไรที่ขยายตัวขึ้น แต่ลดลง QoQ เพราะอัตรากำไรที่หดตัวลง
  • ยอดขายอยู่ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท (+47% YoY, +12% QoQ) หนุนจากการเติบโตต่อเนื่องในกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ (Custom Design Power) และกลุ่ม EV (Fan & Thermal solutions) แม้ยุโรปจะเผชิญวิกฤติต่อเนื่อง บวกกับสภาวะขาดแคลนวัตถุดิบ แต่ DELTA ยืนยันว่าจะยังรักษาระดับการเติบโตไว้ได้ในปี 2023 แต่อาจมีอัตราการเติบโตที่ต่ำกว่าปี 2022 สืบเนื่องจากฐานสูง โดยคิดว่าเรื่องสภาวะถดถอยจะเป็นประเด็นใหญ่ที่อาจกระทบการเติบโตของยอดขายได้
  • GPM อยู่ที่ 23.3% (+4.1ppts YoY, -1.8ppts QoQ) การเติบโตอย่างมาก YoY มีสาเหตุส่วนหนึ่งจากเหตุอุทกภัยที่กระทบคลังสินค้าในไตรมาส 3/21 อีกสาเหตุคือส่วนผสมผลิตภัณฑ์ที่ดีจากกลุ่มอุปกรณ์โครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะดาต้าเซ็นเตอร์และโทรคมนาคม ส่วนที่ลดลง QoQ คาดว่าเป็นผลจากส่วนผสมผลิตภัณฑ์เช่นกัน โครงการต่างๆ ของลูกค้าในปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงที่เน้นกลุ่มอุปกรณ์จ่ายไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีอัตรากำไรต่ำกว่ากลุ่มอุปกรณ์โครงสร้างพื้นฐาน

ปรับประมาณการกำาไรปี 2022 ขึ้น 8% และปี 2023 – 15%

  • Upside ต่อประมาณการปี 2022 มาจากยอดขายที่สูงขึ้นและ SG&A ต่อยอดขายที่ลดลง ยอดขายกลุ่มอุปกรณ์จ่ายไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัทออกมาสูงกว่าคาด ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เป็นใจ ขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 11.4% ในช่วง 9 เดือน ขณะที่เราประเมินไว้ที่ 12% ทั้งนี้ ด้วยการที่ผู้บริหารคาดว่าจะคงตัวเลขไว้ในระดับนี้ เราจึงปรับประมาณการกำไรปี 2022 และ 2023 เพื่อสะท้อนภาพดังกล่าว
  • ประมาณการรายได้ปี 2023 ชุดเก่าให้ภาพเชิงรุกเกิน ปรับลดประมาณการรายได้และกำไรปี 2023 ลง 18% และ 15% ตามลำดับ เพราะการประชุมนักวิเคราะห์เปิดเผยให้เห็นว่า 7 โรงงานปัจจุบันของบริษัทมีอัตราการดำเนินงานใกล้เต็มกำลังแล้ว (ราว 95%) ขณะที่เชื่อว่าตลาดโลกอาจเผชิญสภาวะถดถอยในปี 2023 อิงจาก inverted yield curve ทั้งนี้ พบว่าในช่วงเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในปี 2007-09 รายได้ของ DELTA ลดลง 11 จาก 12 ไตรมาสในช่วงดังกล่าว แต่ก็เชื่อว่ากลุ่ม EV และดาต้าเซ็นเตอร์จะไม่ลงแรงอย่างกลุ่มธุรกิจผู้บริโภค ของบริษัทเคยประสบในปี 2008 (กลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เพื่อผู้บริโภคของบริษัทคิดเป็น 12% ของรายได้รวมเมื่อปี 2009) เพราะว่าเป็นกลุ่มในกระแสโลกและความรุนแรงของสภาวะถดถอยครั้งนี้นั้นเบากว่าครั้งก่อน ถึงกระนั้นเราคาดว่ารายได้จะโต 1% YoY ในปี 2023 หนุนจากการเดินเครื่องโรงงาน 8 ในครึ่งหลังปี 2023 (เพิ่มพื้นที่ผลิต 36%)

Revenue breakdown

  • ธุรกิจกลุ่มพาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ คิดเป็นสัดส่วน 73% ของรายได้รวมของบริษัท ซึ่งเกี่ยวข้องกับออกแบบ ผลิต และจำหน่ายพาวเวอร์ซัพพลายที่ใช้ในคอมพิวเตอร์, เซิร์ฟเวอร์, อุปกรณ์ระบบอัตโนมัติในสำนักงาน, เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน, และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับรถยนต์ โดยมีผลิตภัณฑ์หลักคือตัวแปลงไฟฟ้า DC/DC เพาเวอร์ซัพพลายสำหรับคอมพิวเตอร์ พัดลม และเซิร์ฟเวอร์ ผลิตภัณฑ์ระบบความร้อน โซลีนอยด์ และ อีเอ็มไอฟิลเตอร์
  • ธุรกิจระบบโครงสร้างพื้นฐาน คิดสัดส่วน 25% ของรายได้รวม โดยธุรกิจนี้เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และระบบของโรงไฟฟ้าประเภทต่างๆ ซึ่งผลิตภัณฑ์หลักนั้นใช้ในระบบโทรคมนาคม พลังงานทดแทน การจัดเก็บพลังงาน และระบบไฟฟ้าแรงสูง ธุรกิจระบบอัตโนมัติคิดเป็นสัดส่วน 2% ของรายได้รวม โดยบริษัทได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ระบบอัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพสูงและเชื่อถือได้ประกอบด้วย  รวมถึงไดรฟ์ระบบควบคุมการเคลื่อนไหว ระบบควบคุมทางอุตสาหกรรมและการสื่อสาร การปรับปรุงคุณภาพพลังงาน การเชื่อมต่อเครื่องจักรและมนุษย์ ระบบเซ็นเซอร์ มิเตอร์ และโซลูชั่นหุ่นยนต์

 

- Advertisement -