Our View? “ย่อบ้างเล็กน้อย”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,620 / 1,610 และแนวต้านที่บริเวณ 1,630 / 1,635 คาดตลาดอาจเผชิญ Sentiment เชิงลบอ่อนๆ จากตลาดต่างประเทศ แม้เมื่อคืนนี้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.75% และเริ่มส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ยในระยะถัดไป โดย Dot-Plot ของ FED ในปีนี้บ่งชี้ว่า FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือน ธ.ค. ที่ระดับ 0.50% สู่ระดับ 4.50% ขณะที่ในช่วงปีหน้าเริ่มเห็นคณะกรรมการหลายท่านให้น้ำหนักการเร่งขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 5.00% มากกว่าช่วงก่อนหน้า สอดคล้องกับนายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED ออกมาส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าที่ FED คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า ตามอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง อีกทั้งยังคาดโอกาสที่เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป (Soft Landing) มีน้อยลง คาดเป็นจิตวิทยาเชิงลบระยะสั้นกระตุ้นแรงขายทำกำไร กดดันทิศทางตลาดได้บ้าง ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ธ.ค. เมื่อคืนนี้ฟื้นตัวขึ้นต่อปิดที่ระดับ 90.00 ดอลลาร์/บาร์เรล +1.63 ดอลลาร์ หรือ +1.84% หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของ ) รัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงราว 3.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น อีกทั้งราคาน้ำมันยังคงได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังจีนเตรียมเปิดประเทศ โดยคาดจะจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อหารือเกี่ยวกับการกลับมาเปิดประเทศ คาดอาจเริ่มผ่อนคลายกฎระเบียบใน การควบคุม COVID-19 ในช่วงเดือน มี.ค. กระตุ้นความหวังอุปสงค์น้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง หนุนทิศทางราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นได้ต่อ
ในส่วนของปัจจัยในประเทศ เรายังคงคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะได้รับแรงหนุนจากประเด็นแนวโน้มการยกเลิกมาตรการ Zero COVID ของจีนเช่นเดียวกัน มองจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มโรงแรม-ท่องเที่ยว สายการบิน-โฆษณา (MINT, ERW, CENTEL, SHR, VRANDA, SPA, AOT, PLANB และ VGI) ปรับตัวขึ้นต่อ ขณะที่เรายังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการที่กระแสเงินทุนต่างชาติกลับมาไหลเข้าต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยกว่า 6.16 พันล้านบาท รวมทั้งอยู่ในฝั่ง Long SET50 Index Futures กว่า 3.71 หมื่นสัญญา คาดเป็นสัญญาณเชิงบวกถึงแนวโน้มกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าต่อเนื่อง จากการที่เศรษฐกิจไทยในช่วง 4Q’65 คาดฟื้นตัวขึ้นได้ดี จากเร่งหนุนของภาคการท่องเที่ยงและการบริโภค ภายในประเทศฟื้นตัว มองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Big Cap. ได้ต่อ ทั้งนี้เรายังชอบหุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, CRC, MAKRO และ BJC) จากแนวโน้มการออกงบเยียวยาน้ำท่วมหลังสถานการณ์ดังกล่าวเริ่มผ่อนคลายลง รวมทั้งแนวโน้มการออกมาตรการรัฐอาทิช็อปดีมีคืนในช่วงปลายปี คาดจะหนุนทิศทางราคาพื้นตัวกลับขึ้นได้ต่อ อย่างไรก็ดี แนะนำติดตามการประกาศผลประกอบการของ บจ. ในตลาดต่อ รวมทั้งแนะนำติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของไทยในวันที่ 4 พ.ย. คาดจะออกมาที่ระดับ +6.00% YoY ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ +6.40% YoY มองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยได้ต่อ
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “GLOBAL”
กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 20.00 / 19.80 Target 21.30 / 22.00 Stop <19.70