บล.บัวหลวง:
Berli Jucker (BJC TB /BJC.BK)
BJC – ไตรมาส 3/65 ต่ำกว่าคาด เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น
ต่ำกว่าที่เราคาด
BJC รายงานกำไรหลักไตรมาส 3/65 ที่ 890 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 143% YoY แต่ลดลง 23% QoQ ซึ่งต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด 11% โดยหลักมาจากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่มากกว่าคาด เมื่อรวมกําไรจากอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว กําไรสุทธิของ BJC จะอยู่ที่ 932 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 154% YoY แต่ลดลง 23% QoQ แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะสูงขึ้นอย่างมาก แต่อัตรากําไรขั้นต้นและรายได้ค่าเช่าของ BIGC ฟื้นตัว ส่งผลให้กำไร เติบโต YOY BIGC ซึ่งคิดเป็น 62% ของยอดขายไตรมาส 3/65 ของ BJC รายงานยอดขายสาขาเดิมลดลง 2.4% (ไม่รวมยอดขาย B2B, ยอดขายสาขาเดิมลดลงเพียง 0.5%)
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
- ยอดขายไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 36,874 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% YoY แต่ลดลง 3% QoQ (จากปัจจัยฤดูกาล) ในบรรดา supply chains ของ BJC กลุ่มบรรจุภัณฑ์ (หรือ PSC, คิดเป็น 17% ของยอดขาย) รายงานการเติบโตของรายได้มากที่สุด ซึ่งอยู่ที่ 6,274 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% YoY และ 3% QoQ หนุนโดยยอดขายกระป๋องในประเทศไทยและประเทศเวียดนาม ในทางตรงกันข้าม ซัพพลายเชนของสินค้าบริโภค (หรือ CSC คิดเป็น 15% ของยอดขาย) รายงานรายได้ที่ 5,477 ล้านบาท ลดลง 8% YoY แต่เพิ่มขึ้น 3% QoQ การ ปรับตัวลดลงของรายได้ YoY มีสาเหตุหลักมาจากการปรับโครงสร้างธุรกิจโลจิสติกส์ให้กลับไปอยู่ใต้ BIGC (หากไม่มีการปรับโครงสร้าง ยอดขาย CSC จะเพิ่มขึ้น YoY) ในไตรมาส 3/65 อัตราการเช่าร้านค้าของ BIGC เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่งผลให้รายได้ค่าเช่าอยู่ที่ 2,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% YoY และ 1% QoQ
- อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18% ลดลงจาก 18.2% ในไตรมาส 3/64 (ทรงตัว QoQ) ในขณะที่ BIGC รายงานอัตรากำไรขั้นต้นที่ 16.9% (เพิ่มขึ้นจาก 14.5% ในไตรมาส 3/64 และ 16.4% ในไตรมาส 2/65) PSC รายงานอัตรากําไรขั้นต้น ที่ 16.5% ลดลงอย่างมากจาก 24% ในไตรมาส 3/64 และ 20.1% ในไตรมาส 2/65 โดยหลักมาจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นจากการผลิตกระป๋อง และสินค้าอุปโภคบริโภค (อะลูมิเนียม โซดาแอช และบรรจุภัณฑ์)
แนวโน้ม
แม้ว่าค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารจะยังคงอยู่ในระดับสูงในไตรมาส 4/65 เนื่องจากค่าสาธารณูปโภคและค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรที่น่าจะยังอยู่ในระดับสูง เราคาดยอดขาย, อัตรากำไรขั้นต้น และรายได้ค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น (หนุนโดยปัจจัย ฤดูกาล) จะส่งผลให้ค่าไรเติบโต YoY และ QoQ
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เราปรับประมาณการกําไรหลักปี 2565 ลดลงอีก 5.2% มาอยู่ที่ 5,116 ล้านบาท
คำแนะนำ
ปัจจุบัน BJC ซื้อขายที่ PER ปี 2566 ที่ 23.2 เท่า ใกล้เคียงกับ 2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต เรามองว่าอัตราส่วน ความเสี่ยง/ผลตอบแทน นั้นน่าสนใจ เราแนะนำ “ซื้อ” โดยปรับราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2566 ด้วยวิธี DCF ที่ 39.50 บาท (จากเดิม 40 บาท)







