บล.บัวหลวง:
Thai Oil (TOP TB/TOP.BK)
TOP – กำไรไตรมาส 3/65 ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย; แนวโน้มแข็งแกร่งขึ้นในไตรมาสหน้า
กําไรสุทธิต่ากว่าเราคาดเล็กน้อย แต่ดีกว่าตลาดคาด
TOP รายงานคําไรสุทธิไตรมาส 3/65 ที่ 12 ล้านบาท ลดลงอย่างมาก YoY และ QoQ หากไม่รวมรายการพิเศษ ทําไรหลักจะอยู่ที่ 4,686 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 302% YoY แต่ลดลง 71% QoQ ในขณะที่กำาไรหลักเป็นไปตามที่เราคาด กำไรสุทธิต่ำกว่าที่เราคาดเล็กน้อย แต่ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะรายงานขาดทุนสุทธิ
ประเด็นสําคัญจากผลประกอบการ
- ผลขาดทุนอย่างมากจากสต็อกน้ำมันและอัตราแลกเปลี่ยน เป็นปัจจัยสําคัญที่อยู่เบื้องหลังผลประกอบการไตรมาส 3/65 ที่อ่อนแอ ในด้านการดำาเนินงาน ปัจจัยหลักที่หนุนการเติบโตของกำไรหลัก YoY ได้แก่ 1) อัตราการใช้กำลัง การกลั่นที่เพิ่มขึ้นYoY, 2) ค่าการกลั่นตลาดรวม (market GIM) ที่ปรับตัว สูงขึ้น, 3) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง YoY-สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายปรับตัวลงมาอยู่ที่ 0.7% ในไตรมาส 3/65 จาก 0.9% ในไตรมาส 3/64 ในขณะที่ปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ทําไรหลักปรับตัวลดลง QoQ ได้แก่ 1) อัตราการใช้กำลังการกลั่นที่ลดลง QoQ และ 2) ค่าการกลั่นตลาดรวม (market GIM) ที่ปรับตัวลดลง
- อัตราการใช้กำลังการกลั่นของ TOP ในไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 104% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 92% ในไตรมาส 3/64 (อุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้น) แต่ลดลงจาก 112% ในไตรมาส 2/65 (การปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นตามแผน) ในขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานอะโรเมติกส์อยู่ที่ 70% ลดลงจาก 88% ในไตรมาส 3/64 และ 77% ในไตรมาส 2/65 (optimization) ในส่วนของอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานน้ำมันหล่อลื่นอยู่ที่ 86% ปรับตัวลงจาก 88% ในไตรมาส 3/64 และ 90% ในไตรมาส 2/55 (optimization) ค่าการกลั่น ตลาดรวม (market GIM) อยู่ที่ 8.8 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ปรับตัวขึ้นจาก 5.5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาส 3/64 (ค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้นและส่วนต่างราคานํามันหล่อลื่นที่สูงขึ้น) แต่ลดลงจาก 25.6 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลในไตรมาส 2/65 (ค่าการกลั่นที่ลดลง)
แนวโน้ม
เราคาดค่าการกลั่นจะขยายตัว YoY และ QoQ ในไตรมาส 4/65 หนุนโดยอุปสงค์ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปในวงกว้างที่ปรับตัวดีขึ้น, อุปสงค์น้ำมันดีเซล , นํ้ามันเครื่องบิน, และน้ำมันเตาที่มีส่วนผสมของกํามะถันในระดับสูง ที่ แข็งแกร่งขึ้นตามฤดูกาล และอุปทานที่ตึงตัว ต้นทุนน้ำมันดิบมีแนวโน้มที่จะลดลง QoQ ในไตรมาส 4/65 ตามทิศทางของราคานํ้ามันดิบ ส่วนต่างราคาอะโรเมติกส์ (เทียบกับ ULG95) มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ ในขณะที่ส่วนต่างราคาน้ำมันหล่อลื่นคาดว่าจะลดลง YoY (ทรงตัว QoQ)
จากแนวโน้มดังกล่าว เราคาดค่าการกลั่นตลาดรวม (market GIM) ไตรมาส 4/65 ของ TOP จะปรับตัวเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ อัตราการใช้กำลังการกลั่นคาดว่าจะลดลง YoY (การปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นตามแผน) (ทรงตัว QoQ) ในขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานอะโรเมติกส์และโรงงาน นํ้ามันหล่อลื่นมีแนวโน้มทรงตัว YoY และ QoQ ดังนั้นกําไรหลักไตรมาส 4/65 ของ TOP คาดว่าจะขยายตัว YoY และ QoQ
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกของปี 2565 คิดเป็น 84% ของประมาณการกำไรสุทธิปี 2565 ของเราที่ 38,808 ล้าน บาท เรายังคงไว้ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
คำแนะนำ
คาดการณ์การเติบโตของกำไรหลัก YoY ที่แข็งแกร่งต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 4/65 น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป มูลค่าหุ้นยังคงอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยซื้อขายที่ PBV ณ สิ้นปี 2566 ที่เพียง 0.8 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.4 เท่าอยู่ 1.2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ







