บล.บัวหลวง:
PTT – ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์
What’s new?
ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ยืนยันมุมมองเชิงบวกของเราต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของธุรกิจก๊าซในปีหน้าและแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริษัทในระยะยาว
Highlights:
- ผลการดำเนินงานธุรกิจก๊าซในปี 2023 มีแนวโน้มดีขึ้น หนุนโดยการเติบโตของอุปสงค์, ปริมาณก๊าซจากอ่าวไทยที่เพิ่มขึ้น, และอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงแยกก๊าซที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามราคา LNG ที่สูงขึ้นอาจเป็นปัจจัยกดดันด้านต้นทุนก๊าซอยู่บ้าง
- ความคืบหน้าของโครงการที่อยู่ระหว่างการลงทุน: 1) โครงการท่อก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5 เฟส II & III เลื่อนการ COD ไปเป็น 1H23 (ล่าช้าจากแผนเดิม 4Q22 เนื่องจากผลกระทบจาก COVID) และ 2) โครงการ LNG Terminal#2 จะเสร็จสมบูรณ์ (7.5 ล้านตัน/ปี) ในเดือน ธ.ค. นี้ (เป็นไปตามแผน) ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ PTT สามารถจัดหา/จำหน่ายก๊าซ LNG ให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมได้เพิ่มเติมในอนาคต
- ความคืบหน้าของธุรกิจในกลุ่ม Future Energy & Beyond: 1) ธุรกิจ EV: โครงการผลิต EV platform เริ่มก่อสร้างโรงงานแล้ว (COD ในปี 2024 ด้วยกำลังการผลิตเฟส 1 50,000 คัน/ปี) และ 2) ธุรกิจยา: ปี 2023 PTT จะรับรู้กำไรจาก Lotus Pharmaceutical เต็มปี (Lotus) (PTT ถือหุ้น 37%) (Lotus รายงานกำไรสุทธิราว 3.3 พันล้านบาทในช่วง 9M22 เติบโต 148% YoY และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่)
- สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง (อัตราส่วน net debt/equity ที่เพียง 0.5 เท่า [เทียบกับระดับนโยบายที่ไม่เกิน 1 เท่า] และเงินสดในมือ+เงินลงทุนระยะสั้น 3.4 แสนล้านบาท ณ สิ้น 3Q22) PTT จึงมีความพร้อมสำหรับการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายการเติบโตในอนาคต
- PTT ตั้งเป้าหมายลดการปลดปล่อย GHG 15% ภายในปี 2030 (จากปีฐาน 2020), Carbon Neutrality ภายในปี 2040, และ Net Zero Emission ภายในปี 2050 โดยมีแผนการดำเนินงาน 3 ส่วน ได้แก่ 1) การลด Emission (ปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงาน, CCU) (30%), 2) ปรับพอร์ตโฟลิโอ (ขยายกำลังการผลิต Renewables energy, ขยายธุรกิจในกลุ่ม Future Energy & Beyond เช่น Hydrogen (50%), และ 3) การปลูกป่า (ปลูกเพิ่มอีก 1 ล้านไร่ภายในปี 2030 จาก 1.1 ล้านไร่ในปัจจุบัน) (20%)
View From Fundamental:
แนวโน้มการฟื้นตัวของธุรกิจก๊าซในปี 2023 น่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป นอกจากนี้การลงทุนใหม่ๆจะหนุนการเติบโตของกำไรในระยะยาว มูลค่าหุ้นยังคงอยู่ในระดับที่น่าสนใจ โดยซื้อขายอยู่ที่ PBV ณ สิ้นปี 2023 ที่ 0.9 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 1.6 เท่า อยู่ 1.4SD) และคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2023 ที่ 5.8% (เทียบกับ 2.8% ของตลาดหลักทรัพย์) เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” (ราคาเป้าหมาย 46 บาท)