Daily Focus: Selective/Domestic Play
2023 SET Target : 1760
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ฟื้นตัวได้แข็งแรงกว่าที่คาด ปิดบวกได้ 7.48 จุด ณ สิ้นวัน ตามบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายขึ้น รวมถึงจีนแถลงแผนการฉีดวัคซีนผู้สูงอายุเพื่อปูทางทยอยเปิดประเทศ มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นขึ้นมากเป็น 5.8 หมื่นลบ. สถาบันในประเทศยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นอีก 1.3 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหนาแน่นถึง 3.3 พันลบ. (และ Long Index Futures ต่อเนื่องอีก 1.5 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาด SET Index แกว่งตัว Sideways to Sideways Up แนวต้าน 1,630-1,635 จุด จากทั้งสถานการณ์ COVID-19 ในจีนที่ผ่อนคลายขึ้นบ้าง รวมถึงการเร่งฉีดวัคซีนผู้สูงอายุปูทางเปิดประเทศ ขณะที่ Dollar Index อ่อนค่าลงต่อเนื่อง และสกุลเงินฝั่งเอเชียแข็งค่า ยังเอื้อให้กระแสเงินทุนคาดว่ายังอยู่ในทิศทางไหลเข้าภูมิภาค ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวต่อเนื่องหลังตลาดคาดการณ์ว่า OPEC+ จะยังคงการปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรลต่อวันต่อเนื่องตั้งแต่เดือน พ.ย. ในการประชุมวันที่ 4 ธ.ค. 22 ส่วนปัจจัยในประเทศวันนี้ติดตาม กนง.ว่าจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ตามภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวหรือไม่ รวมถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญประเด็นพรป.เลือกตั้ง ส.ส. หากออกมาในเชิงบวกจะเป็นปัจจัยหนุนหุ้น Domestic และ SET Index เรายังคงมองบวกในระยะกลาง-ยาวต่อเศรษฐกิจและกระแสเงินทุนที่คาดยังมีแนวโน้มไหลเข้า
กลยุทธ์ : เลือกลงทุนหุ้น Domestic และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว//ยังถือลงทุนต่อเนื่องหลังสะสมหุ้นเพิ่มไปแล้วช่วงปรับฐาน
หุ้นเด่นเดือน พ.ย. : BBL, DOHOME, EKH, MAKRO, NOBLE
หุ้นเด่นวันนี้ : TKS
- แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 13 บาท
- เบื้องต้นประเมินแนวโน้มกำไร 4Q22 จะเร่งตัวขึ้น Q-Q ตามปัจจัยฤดูกาลหนุนจากส่วนแบ่งกำไรของ SYNEX ที่ปรับขึ้นจาก High Season ของสินค้า Apple
- เราคาดกำไรปกติปี 2022-2023 +17% Y-Y และ +4% Y-Y ตามลำดับ ระยะสั้นหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพรป.เลือกตั้งส.ส. วันนี้ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เราคาดจะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในต้นปีหน้า
- แนวรับ 11.50-11.30 บาท แนวต้าน 12//12.50 บาท
Fund Flow : วานนี้กระแสเงินทุนพลิกมาไหลเข้าภูมิภาค US$515 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$169 ล้าน และ US$136 ล้าน ตามลำดับ ขณะที่อาเซียนไหลเข้าเกือบทุกประเทศ นำโดยเวียดนามและไทยประเทศละ US$92-107 ล้าน โดยตลาดคลายกังวลสถานการณ์ COVID-19 ในจีนลงบ้างหลังผู้ติดเชื้อเริ่มลดลง รวมถึงเปิดแผนเร่งฉีดวัคซีนผู้สูงอายุเพื่อปูทางสู่การ Reopening แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทิศทางไหลเข้าหลัง Dollar Index อ่อนค่าต่อเนื่อง คืนนี้ติดตามถ้อยแถลงของประธาน FED
ประเด็นสําคัญวันนี้
(0) จับตาการประชุมกนง.วันนี้ เป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปี 2022 ตลาดคาดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% เป็น 1.25% สอดคล้องกับภาพเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว โดยปี 2022 คาดว่าจะ +3.3% Y-Y กลับมาใกล้เคียงช่วงก่อน COVID-19 และเร่งตัว +3.8% Y-Y ในปี 2023 และสูงกว่าช่วงก่อน COVID-19 ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานปี 2022-2023 กนง.คาดอยู่ในกรอบ 2.4-2.6% ทำให้ระยะสั้นอัตราดอกเบี้ยจะยังเห็นการขยับขึ้นในปีหน้า โดยคาดขึ้นไปอยู่ที่ 1.75-2% ก่อนทรงตัวหรือผ่อนลงเล็กน้อยในปี 2024 หากเป็นไปตามคาด เรามองว่าจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัว และแข็งแรงเพียงพอที่จะรับมือกับดอกเบี้ยขาขึ้น บวกต่อกลุ่ม Domestic Play โดยเฉพาะกลุ่มธนาคาร Top Pick ยังคงเป็น BBL KTB
(0) ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพรป.เลือกตั้ง ส.ส. วันนี้ ว่าจะเห็นด้วยตามคำร้องหรือไม่ สําหรับประเด็นสูตรการคำนวณ ส.ส. หาร 100 หรือหาร 500 และชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ หากผ่านจะเป็น Sentiment บวกสำหรับสัญญาณการเลือกตั้ง แต่หากไม่ผ่าน สภาฯ ต้องมีการเสนอร่างกฎหมายใหม่ หรือหากไม่ทันก็ต้องออกเป็นพ.ร.ก.หรือคำสั่งประกาศ อาจมีผลเชิง Sentiment ต่อความไม่แน่นอนอยู่บ้าง อย่างไรก็ตาม หากผลออกมาในเชิงบวก เราคาดว่ามีโอกาสที่จะเห็นการยุบสภาก่อนกำหนดการเลือกตั้งของกกต.วันที่ 7 พ.ค. 23 และจะเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มการบริโภคทั้งค้าปลีก อาหาร รวมถึง TKS
(+) IP การเข้าซื้อรพ.นครพัฒน์ 50% แล้วเสร็จใน 4Q22 คาดว่าจะทำให้กำไร 4Q22 สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 49 ลบ. +60% Q-Q, +35% Y-Y โดยมาจากธุรกิจเดิม 67% ซึ่งเป็นพัฒนาการที่ค่อนข้างช้า ส่วนหนึ่งมาจากการฟื้นช้าๆ ของร้าน LAB Pharmacy ทำให้รายได้ไม่มากพอที่จะเกิด Economy of scale แต่เชื่อแนวโน้มดีขึ้นในปีหน้าจากการขยายสาขาเชิงรุก 15 แห่ง กำไรทั้งปี 2022 คาด 140 ลบ. +33% Y-Y ปีหน้าโตต่ออีก +60% Y-Y เป็น 225 ลบ. (67% ธุรกิจเดิม, 16% LAB, 18% รพ.นครพัฒน์) ราคาหุ้นปรับลงจน 2023PER เหลือ 24 เท่าจากค่าเฉลี่ยในอดีต 39 เท่า คงราคาเป้าหมาย 21 บาท แนะนำ “ซื้อ”
(+) PRI เข้าเทรดวันนี้ เป็นผู้ให้บริการเกี่ยวกับอสังหาฯแบบ One-Stop Service ครอบคลุมตั้งแต่การให้บริการที่ปรึกษาและออกแบบวิศวกรรม บริหารจัดการอสังหาฯ ตลอดจนบริการหลังขาย สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกด้านและทุกช่วงของการอยู่อาศัย ได้เปรียบคู่แข่งรายอื่นที่ส่วนใหญ่ให้บริการเพียงด้านใดด้านหนึ่ง รวมถึงมี Synergy จากกลุ่ม ORI ปัจจัยการเติบโตมาจากตลาดที่อยู่อาศัยที่ขยายตัว อีกทั้ง ภายหลัง IPO จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดี เพิ่มฐานลูกค้าใหม่ และเชื่อว่ามีโอกาสขยายธุรกิจใหม่เพื่อกระจายรายได้ดีขึ้น เราคาดผลประกอบการ 3 ปีข้างหน้า +48% CAGR ประเมินราคาเป้าหมายที่ 18.30 บาท (Finansia เป็นผู้จัดนำหน่ายฯ)
(0) MSCI Rebalance มีผลราคาปิดวันนี้ โดยรวมคาดเม็ดเงินไหลออก US$35 ล้าน สำหรับ MSCI Global Standard ไม่มีหุ้นเข้า ส่วนหุ้นออกคือ BAM ด้าน MSCI Minimum Volatility Index มีหุ้นเข้าใหม่คือ AWC และ CRC และเพิ่มน้ำหนัก OSP
(0) ตลาดดาวโจนส์ ปิดที่ 33,852.53 จุด เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 3.07 จุด หรือ + 0.01% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยนักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของประธาน FED ในวันนี้
(0) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบเล็กน้อย โดยการซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวัง ขณะที่นักลงทุนติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนในวันพุธและข้อมูลจ้างงานของสหรัฐในวันศุกร์
(0) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวผสม ยังคงกังวลกับสถานการณ์ Covid ในจีน ขณะที่นักลงทุนรอติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนในวันนี้
(+) ค่าเงินบาท แข็งค่า อยู่ที่บริเวณ 35.44 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 78.20 ดอลลาร์/ บาร์เรล จากความหวังว่าจีนจะผ่อนคลายมาตรการควบคุม Covid ขณะที่นักลงทุนรอผลการประชุมกลุ่มประเทศโอเปกและโอเปกพลัสในวันที่ 4 ธ.ค. ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 78.67 ดอลลาร์/บาร์เรล 0.60%
(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 8.1 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 1,748.4 ดอลลาร์/ออนซ์ จากความคาดหวังว่า FED จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย ในขณะที่เช้านี้ปรับขึ้นต่อที่ระดับ 1,749.7 ดอลลาร์/ออนซ์ +0.07%
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 908.09 / –