บล.บัวหลวง:
Business Online (BOL TB/BOLM.BK)
BOL – Big data จะเป็นฮีโร่ในช่วงเศรษฐกิจถดถอย
เราได้จัด Virtual Conference ให้กับนักลงทุนในประเทศในวันพุธที่ผ่านมา โดยเราเห็นโอกาสในการเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญของ BOL จากเทรนด์ของ Big data โดยบริษัทจะสามารถยืนเหนือแรงกดดันของเศรษฐกิจโลกที่อาจจะเข้าสู่ช่วงถดถอยได้ เรามองว่าปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้น (Volume) และรายได้/ลูกค้า (Value) จะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโต ซื้อ!
ฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งมาก
ปัจจุบัน BOL มีลูกค้าราว 1,600 ราย (เฉลี่ยรายได้/ราย/ปี ที่ 8 หมื่นบาท เทียบกับแพ็คเกจที่ถูกที่สุดที่ 5.8 หมื่นบาท) อย่างไรก็ตาม อัตราการเจาะตลาดยังอยู่ในระดับต่ำ (เพียง 5% ของบริษัทในประเทศไทยที่มีรายได้เกิน 200 ล้านบาท/ปี) ขณะที่อัตราการรักษาฐานลูกค้าสูงกว่า 100% (ด้วยอัตราการใช้งานที่สูงขึ้นสำหรับลูกค้าเดิม) เราไม่เห็นคู่แข่งทางตรงในประเทศไทย โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (หรือ DBD แหล่งข้อมูลหลักของ BOL) ให้บริการข้อมูลฟรี แต่เป็นเพียงข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ดังนั้นเราไม่มองว่า DBD จะเป็นคู่แข่งจริงๆ ของ BOL แต่เรามองเป็นปัจจัยกีดกันสำหรับคู่แข่งรายอื่นที่จะเข้ามาในตลาด นอกจากนี้ DBD ดูจะเป็นการปูทางให้ผู้ใช้งานไปใช้บริการของ BOL เนื่องจากผู้ใช้มักจะมองหาการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมหลังจากที่พวกเขาใช้เวอร์ชันฟรีของ DBD
หนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ระดับโลกในอุตสาหกรรมนี้ คือ Dun & Bradstreet International (D&B) ซึ่งได้เป็นพาร์ทเนอร์กับ BOL สำหรับการทำธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งการร่วมมือกับ D&B หนุนความสามารถในการให้บริการการ จัดการและวิเคราะห์ข้อมูลขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ CTOS (เครดิตบูโรชั้นนำในประเทศมาเลเซียและฟิลิปปินส์) ผู้ให้บริการข้อมูลและเครื่องมือการวิเคราะห์ก็เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นหลักใน BOL เช่นกัน
โอกาสในการขายต่อยอด – อัพไซด์มีอีกมาก
BOL เปิดตัวแพลตฟอร์มเวอร์ชั่นใหม่ภายใต้แบรนด์ Corpus X ในครึ่งหลังของปี 2564 โดยหลังจากการเปิดตัวของ Corpus X ลูกค้าทั้งหมดถูกคิดค่าบริการในอัตราใหม่ (สูงกว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้า 20%) สำหรับแพลตฟอร์มที่ มีบริการที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งลูกค้าทั้งหมดได้ย้ายมาใช้แพลตฟอร์มใหม่นี้แล้ว (BOL จะรับรู้ประโยชน์เต็มที่ในปี 2566) อิงจากความเชี่ยวชาญของ BOL ในด้านการบริหารจัดการข้อมูลบริษัทมีแผนที่จะขยายฐานลูกค้าไปยัง หน่วยงานของภาครัฐ และเน้นไปที่กลุ่มที่ต้องการเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัล นอกจากนี้ บริษัทมีการเจรจากับผู้เล่นด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ระดับโลก สําหรับการร่วมมือพัฒนารายงานความปลอดภัยทางไซเบอร์ บริการของบริษัทจะ ขยายจากการระบุความเสี่ยงทางการเงินไปสู่ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ด้วย ซึ่ง BOL สามารถขายต่อยอดบริการใหม่นี้ให้แก่ฐานลูกค้าเดิมได้ (และตลอดจนห่วงโซ่อุปทานของลูกค้า) นอกจากนี้บริษัทกำลังพัฒนาระบบคะแนน ESG
TPX จะเริ่มทะยานในปีหน้า
ในเดือน พ.ย. บริษัทได้เปิดตัวบริการใหม่อย่างเป็นทางการ – รายงาน Transfer Pricing – ที่ร่วมกับ กรมสรรพากรและบริษัทบัญชีบิ๊กโฟร์ ในปัจจุบันบางบริษัททำรายงานการทำธุรกรรมด้วยตนเอง ซึ่งต้องใช้เวลาทำงานประมาณหนึ่งเดือน แต่ด้วยบริการใหม่ของ BOL บริษัทต่างๆ จะสามารถทำรายงานดังกล่าวได้ภายในเวลาแค่ 3 วัน ซึ่งบริษัทที่จำเป็นต้องใช้รายงานดังกล่าวมีมากกว่า 2 หมื่นบริษัท ทั้งนี้อิงจากประมาณการกรณีที่แย่ที่สุดของเราที่ได้ลูกค้ามา 4 พันบริษัท และอัตราค่าบริการที่ 1 หมื่นบาท/รายงาน/ปี จ่ายให้กับ BOL จะเป็นรายได้ส่วนเพิ่มให้กับ BOL ที่ราว 40 ล้านบาท/ปี (5% ของรายได้ในปัจจุบัน) ซึ่งน่าจะรับรู้ใน ไตรมาส 1 – 2